สกู๊ปหน้า1…KICKOFF ไฟป่า แจ้งเบาะแสรับ 5 พัน

ปัญหาหมอกควันและไฟป่าที่ปลกคลุมในช่วงฤดูแล้งของทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตป่าสงวนแห่งชาติ และเขตป่าไม้ ทำความเสียหายแก่ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าอย่างต่อเนื่อง ทำให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณในการระดมเจ้าหน้าที่ เครื่องมือและยานพาหนะเข้าระงับไฟป่าเป็นจำนวนมาก รวมถึงการจุดไฟเผาในที่โล่ง การเผาขยะเผาเศษใบไม้ และเผาในพื้นที่การเกษตร

ที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ นายสราวุฒิ วรพงษ์ นายอำเภอเชียงดาว เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ได้ลงนามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ เรื่องการกำหนดเวลา “60 วันแห่งการห้ามเผา 20 ก.พ. – 20 เม.ย.60” เพื่อเป็นการป้องกันและลดปัญหาหมอกควันไฟป่า อ.เชียงดาว จัดกิจกรรมทำแนวกันไฟและลดปริมาณเชื้อเพลิง โดยเริ่มจาก พื้นที่ ต.เมืองคอง (7 ก.พ.), ต.ปิงโค้ง (14 ก.พ.), ต.ทุ่งข้าวพวง (15 ก.พ), ต.เมืองงาย (16 ก.พ) และ ต.เมืองนะ (17 ก.พ. )

พร้อมกันนั้นยังได้ตั้งคณะกรรมการระดับอำเภอ เพื่อบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในรูปแบบประชารัฐ อาทิ การประชุมหมู่บ้าน การรณรงค์ประชาสัมพันธ์เสียงตามสายในทุกหมู่บ้านทั้งภาษาท้องถิ่น ภาษาชนเผ่า ให้ความรู้แก่เด็กนักเรียนในสถาบันการศึกษาต่างๆเพื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงไปในทุกๆครอบครัว ประสานวิทยุชุมชน เครือข่ายโซเชียลในท้องถิ่นขอความร่วมมือประชาชนในทุกพื้นที่ช่วยกันเป็นหูเป็นตาในการร่วมกันหยุดเผาในช่วงเวลาที่กำหนด และแจ้งเบาะแสผู้ทำการเผาป่า โดยมีรางวัลนำจับ 5,000 บาท

ซึ่งจากผลจากความร่วมมือในช่วงปีที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี สามารถลดจำนวนจุด hot spot ได้เป็นจำนวนมาก

ทาง อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอนเมื่อเวลา 08.30 วันที่ 1กุมภาพันธ์ 2560 มีพิธีเปิดกิจกรรม kick off การรณรงค์ป้องกันการเกิดไฟป่าและหมอกควัน ประจำปี 2560 หวังในปีนี้ปัญหาไฟป่าจะลดกว่าปีที่ผ่านมา ว่าที่ร้อยตรีณรงค์ชัย จินดาพันธ์ นายอำเภอขุนยวม เป็นประธาน การจัดกิจกรรมเพื่อเดินรณรงค์เผยแพร่และประชาสัมพันธ์การลดละเลิกการเผาเศษวัชพืชในท้องถิ่นประจำปี 2560 โดยมีหน่วยงานที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ประกอบด้วย สำนักงานเกษตรอำเภอขุนยวม เทศบาลอำเภอขุนยวม ตลอดจนองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ในอำเภอขุนยวม กำนันผู้ใหญ่บ้าน นักเรียนนักศึกษา จำนวนกว่า 300 คน โดยได้ตั้งขบวนหน้าจากศาลเจ้าพ่อหลักเมืองอำเภอขุนยวม เดินมายังหน้าลานอเนกประสงค์เทศบาลขุนยวม ในระยะทาง 650 เมตร

ว่าที่ร้อยตรีณรงค์ชัย จินดาพันธ์ นายอำเภอขุนยวม เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลให้รณรงค์ลดละเลิก การเผาเศษวัชพืชเศษใบไม้ใบหญ้าในช่วงนี้ เพื่อไม่ให้เกิดหมอกควัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายทางเดินหายใจของประชาชน นอกจากนี้ยังส่งผลโดยรวมให้การท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะการขึ้นลงของเครื่องบินโดยสาร อำเภอขุนยวมได้ขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชนทุกหมู่บ้านตำบลชุมชน โดยผ่านการประชาสัมพันธ์เสียตามสายของแต่ละหมู่บ้าน

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมหัวหน้าส่วนประจำเดือน ยังได้กำชับผู้นำท้องถิ่น อาทิ นายกเทศบาล อบต.กำนันผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล แต่ละพื้นที่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อำเภอขุนยวม เพื่อขอให้ความร่วมมือกัน พร้อมกับเป็นหูเป็นตาเพื่อสอดส่องดูแล ไม่ให้เกิดการเผา เพื่อไม่ให้เกิดหมอกควันในระยะที่ทางการกำหนดไว้อย่างเคร่งครัดต่อไป ส่วนที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ปฏิบัติการเชิงรุกในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันไฟป่า ด้วยการเร่งชิงเผา กำจัดเชื้อเพลิงในป่า ก่อนที่จะมีการสั่งห้ามเผาเด็ดขาดในเดือนมีนาคมนี้ เพื่อลดเชื้อเพลิงสะสมในป่า และบรรเทาปัญหาไฟป่าในเดือนหน้านี้

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 ระหว่างเวลา 13.00-16.30 น. โดยอำนวยการของ นายธนกฤต ฉันทะจำรัสศิลป์ นายอำเภอปาย ร่วมกับท้องถิ่นอำเภอปาย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่นาเติง, สถานีควบคุมไฟป่าลุ่มน้ำปาย, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย, อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง, อบต.เวียงใต้, อบต.ทุ่งยาว, อบต.เวียงเหนือ, เทศบาลตำบลปาย, กำนันผู้ใหญ่บ้านและพี่น้องประชาชน ในท้องที่ตำบลแม่นาเติง อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกันดำเนินการจัดการเชื้อเพลิง ในโครงการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ประจำปี พ.ศ.2560 ตามมาตรการการป้องกันและควบคุมการเผา จังหวัดแม่ฮ่องสอน บริเวณบ้านแม่นาเติงใน ม.2 ต.แม่นาเติง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน พิกัด 0438840E 2145103N พื้นที่ดำเนินการ จำนวน 30 ไร่ และบริเวณสองข้างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1095 บ.แม่นะ ม.8 ต.แม่นาเติง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ในพื้นที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า (ขสป.) ลุ่มน้ำปาย

สำหรับพื้นที่อำเภอปายในแต่ละปีจะประสบกับปัญหาไฟป่า และหมอกควันไฟป่า ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและเศรษฐกิจ ด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากได้มีการเปิดสายการบินระหว่างเชียงใหม่ กับ อ.ปาย เพื่อให้บริการนักธุรกิจ และ นักท่องเที่ยว ซึ่งในหน้าแล้ง ปัญหาหมอกควันไฟป่า ได้กระทบต่อการบิน และ กระทบต่อการท่องเที่ยวโดยปริยาย ทั้งนี้พื้นที่ป่าของอำเภอปาย เป็นแหล่งผักหวาน ที่มีรสชาติอร่อยกว่าผักหวานที่อื่นๆ ที่ส่งออกไปทั่วภาคเหนือ ทำให้มีการลอบเผาป่าเพื่อต้องการผักหวานและเห็ดชนิดต่างๆ

การชิงเผา จึงเป็นมาตรการหนึ่งที่ช่วยลดปริมาณเชื้อเพลิงในป่า และไม่ขัดต่อความเชื่อของราษฎรที่เชื่อว่าพื้นที่ใด หากไม่มีการเผาจะไม่เกิดเห็ดป่าในต้นฤดูฝน

ร่วมแสดงความคิดเห็น