รวบมือมีดเลือดร้อน

ตำรวจเชียงใหม่ รวบแล้วหนุ่มเลือดร้อนก่อเหตุไล่ฟันสองหนุ่มนักศึกษาวิทยาลัยนาฏศิลป์ บาดเจ็บ เข้าโรงพยาบาล ตำรวจตามสืบจากกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุจับกุมตัวได้นำตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวเผยถูกกลุ่มวัยรุ่นขับรถจักรยาน ยนต์ตะโกนหาเรื่องก่อนมาถึงจุดเกิดเหตุ เห็นกลุ่มผู้เสียหายนึกว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน เลยตรงเข้าไปใช้อาวุธมีดไล่ฟันแล้วหลบหนี ตรวจสอบประวัติมีคดีติดตัวเพียบ

เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 2 ก.พ.60 พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกันคุมตัว นายอำนาจ หรือไก่ กองมา อายุ 36 ปี ที่อยู่ 233 หมู่ 7 ต.น้ำแพร่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมด้วยของกลางที่ผู้ต้องหาใช้ในการก่อเหตุประกอบด้วย มีดสแตนเลส ยาว 16 นิ้ว 1 เล่ม, เสื้อยืดสีฟ้าตรงบริเวณอก เขียนคำว่า BLUE SOUL KAWASAKI 1 ตัว, กางเกงยีนต์ขายาว สีฟ้า 1 ตัว และรองเท้าแตะแบบคีบสีเหลือง-ดำ ยี่ห้อ ADDA 1 คู่ ในข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายสาหัส” โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณจุดเกิดเหตุหน้าร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขาสตาร์เอวินิว 1 ปากทางเข้าโรงเรียนกาวิละ ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่

ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 31 ม.ค.60 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า มีเหตุทำร้ายนักศึกษา เหตุเกิดที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขาสตาร์เอวินิว 1 ปากทางเข้าโรงเรียนกาวิละ ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งภายหลังทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน โดยคนแรกถูกฟันเข้าที่บริเวณไหล่ขวา และอีกคนถูกฟันเข้าที่บริเวณต้นแขนขวา ซึ่งต่อมาได้มีพลเมืองดีนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อปฐมพยาบาลทำแผล ส่วนคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุได้หลบหนีไป โดยในเวลาต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งใกล้กับที่เกิดเหตุที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ซึ่งพบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุสวมเสื้อสีฟ้า กางเกงยีนส์ขายาว และได้ใช้อาวุธมีดเดินตรงเข้ามาฟันผู้เสียหายทั้ง 2 คน อย่างไม่ทราบสาเหตุ จากนั้นได้เดินหลบหนีไปทางด้านข้างร้านที่เกิดเหตุ

ต่อมาภายหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้ จนกระทั่งทราบว่ามีผู้ต้องสงสัยที่เป็นคนร้ายก่อเหตุคือ นายอำนาจ กองมา ซึ่งทำงานอยู่แถวบริเวณปากทางเข้าโรงเรียนมงฟอร์ต ชื่อร้านบลูมีเดีย (ร้านรับทำไวนิล) ตั้งอยู่บริเวณใกล้กันกับที่เกิดเหตุ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรูปพรรณของผู้ต้องหามาเทียบกับภาพที่บันทึกได้ในกล้องวงจรปิดพบว่ามีความคล้ายคลึงกันมาก ประกอบกับจากการตรวจสอบประวัติของ นายอำนาจ ทราบอีกว่ามีคดีติดตัวอีกหลายคดี โดยเมื่อปี 2543 มีคดีพยายามฆ่า และคดีลักทรัพย์ ที่ สภ.แม่ปิง, ปี 2555 มีคดีเสพยาเสพติด ที่ สภ.แม่ปิง และ ปี 2557 มีหมายจับทำร้ายร่างกาย ที่ สภ.หางดง และยังไม่ได้จับกุม ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าดำเนินการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา โดยได้ทำการติดตามและเจอตัวนายอำนาจขณะอยู่ภายในปั๊มน้ำมันเชลล์ซึ่งอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ ก่อนทำการควบคุมตัวมาทำการสอบสวน

โดยทางนายอำนาจ ผู้ต้องหานั้นได้ให้การรับสารภาพว่าได้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุในวันดังกล่าวจริง พร้อมทั้งได้นำทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจค้นที่บริเวณป่าละเมาะ ตรงสะพานลอย ใกล้กับที่เกิดเหตุ ที่ได้เอาของกลางไปทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน ซึ่งพบของกลางอาวุธมีดและชุดแต่งกายที่สวมใส่ในคืนวันเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดเพื่อใช้เป็นหลักฐาน และจากการสอบถามถึงสาเหตุการลงมือในครั้งนี้ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายอำนาจได้ดื่มสุราที่ร้านเหล้าตอง ตลาดอ้อมเมือง จนมีอาการมึนเมา

จากนั้นได้เดินทางเพื่อจะกลับที่พักแต่ระหว่างนั้นได้ยินวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาก่อนจะตะโกนด่าตนเอง ด้วยความโมโหตนจึงได้ติดตามมาจนกระทั่งถึงที่เกิดเหตุ แล้วได้พบกับกลุ่มผู้เสียหายและเข้าใจว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มเดียวกันกับที่ได้ด่าตนก่อนหน้านี้ จากนั้นจึงได้เดินตรงเข้าไปใช้อาวุธมีดที่พกติดตัวมาไล่ฟันกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว หลังจากนั้นตนก็ได้เดินไปที่บริเวณตลาดอ้อมเมือง และได้เอาอาวุธมีดไปทิ้งที่บริเวณป่าละเมาะตรงสะพานลอยคนข้าม ก่อนจะไปนอนพักอาศัยอยู่บ้านร้างหลังหนึ่งในหมู่บ้านมงฟอร์ตวิลล่า ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จนกระทั่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

อย่างไรก็ตามภายหลังการควบคุมตัวคนร้ายและนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ได้มีญาติของผู้เสียหายและประชาชนมายืนดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจำนวนมาก ซึ่งทางญาติผู้เสียหายยังได้มอบช่อดอกไม้เพื่อเป็นการขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็วและได้นำตัวคนร้ายส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป