รวบแก๊งคมแฝก ชาย/หญิง ดักถีบรถปล้น จ.ย.ย.

รวบแก๊งคมแฝก หลังพาพวกทั้งชายหญิง ก่อเหตุปล้น รถ จ.ย.ย. 2 วัยรุ่นเมียนมา กลางเมืองเชียงใหม่ สุดท้ายหนีไม่รอดเจอรวบยกแก๊ง สารภาพต้องการเงินไปซื้อโทรศัพท์ใหม่

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ก.พ.60 พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รอง ผบช.ภ. 5 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงษ์สินธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.อภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ และพ.ต.ต.อานนท์ เชิดชูตระกูลทอง สว.สส.พร้อมกำลังชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมตัว นายวรพล หรือวอน คำบุญ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/1 หมู่ 7 ต.หนองหลวง อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร นายแดงนาม สมมติอายุ 17 ปี นายดรีม นามสมมติ อายุ 17 ปี และด.ญ.ดี นามสมมติ อายุ 14 ปี เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปเพื่อพ้นการจับกุม

เหตุเกิดถนนเจริญประเทศ ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลา 00.01 น. วันที่ 4 ก.พ. 60 หลังจากรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ

ทั้งนี้ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจาก นายอ้ายและนายเดือน อายุ 25 ปี แรงงานต่างด้าวชาวพม่าว่าได้ถูกคนร้ายเป็นชายและหญิงจำนวน 4 คน ถีบรถ จ.ย.ย. ยี่ห้อฮอนด้า MSX สีแดงดำ หมายเลขทะเบียน 1 กน 434 เชียงใหม่ จากนั้นคนร้ายได้ลงจากรถพร้อมรุมสกรัม โดยมีไม้คมแฝกเป็นอาวุธแล้วได้ปล้นเอารถหลบหนีไป หลังจากเกิดเหตุผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทางตำรวจได้เร่งตรวจสอบหาตัวคนร้ายจนกระทั่งต่อมาได้จับกุม นายวรพล หรือวอน คำบุญ ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งคมแฝกได้ก่อน จะขยายผลจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งทั้งชายและหญิงได้รวม 4 คน

จากการสอบสวนนายวรพล หัวหน้าแก๊งคมแฝก เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุได้ชักชวนกันออกก่อเหตุ โดยขี่รถสะกดรอยตาม 2 วัยรุ่นชาวเมียนมา เมื่อได้จังหวะจึงได้ถีบรถจนล้มแล้ว ใช้คมแฝกรุมทำร้าย แล้วขี่รถผู้เสียหายหลบหนีไป จากนั้นได้นำรถเพื่อเตรียมรอขายให้กับร้านรับซื้อของโจร แต่มาถูกตำรวจติดตามจับกุม ได้เสียก่อนสำหรับทรัพย์สินอื่น ๆ ขณะก่อเหตุไม่ได้อะไรเลยตอนแรกตั้งใจว่า จะเอารถไปขายเพื่อนำเงินมาซื้อมือถือใหม่

ทางด้าน พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รอง ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและนโยบายของ พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ. 5 ได้ให้นโยบายว่า จ.เชียงใหม่ เป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญจะต้องไม่มีเหตุอุกฉกรรจ์แบบนี้ โดยเฉพาะการประทุษร้ายต่อนักท่องเที่ยว หรือประชาชนทั่วไปเนื่องจาก จ.เชียงใหม่เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวมาอาศัยอยู่มาก เป็นเมืองเศรษฐกิจ ดังนั้นจะต้องดำเนินการดูแลนักท่องเที่ยวอย่างดีที่สุดสำหรับพี่น้องชาวเชียงใหม่ ในฐานะเจ้าบ้านก็ต้องช่วยกัน เป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลความปลอดภัยร่วมกันด้วย รอง ผบช.ภ.5 กล่าว