โผล่แล้วรถบัส ทิ้งนักท่องเที่ยว

โดนทิ้ง……….กลุ่มนักท่องเที่ยวเข้าแจ้งความกับตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ หลังถูกรถบัสโดยสารมาจาก กทม. ส่งทิ้งที่ปั๊มน้ำมันบางจาก เขต อ.สารภี และถูกขโมยเงินที่ใช้ในการเดินทางมีตัวแทนของทางบริษัท เอสโอที ได้นำเงินมาชดใช้ ให้กับผู้เสียหาย

พบแล้วรถบัสแสบทิ้งนักท่องเที่ยวกลางทาง หลังรับกลุ่มนักท่องเที่ยวจาก กทม. มาเที่ยวเชียงใหม่ แต่กลับเอามาทิ้งลงปั๊มน้ำมัน แถมไม่พอมีกลุ่มนักท่องเที่ยวเงินหายอีกร่วมแสน โดยทั้งหมดเข้าแจ้งความกับตำรวจ เบื้องต้นสอบคนขับและบริกรประจำรถ อ้างไม่มีส่วนรู้เห็น ขณะที่ทางบริษัททัวร์เดินทางเข้ารับผิดชอบ ขอชดใช้ค่าเสียหายกับทางนักท่องเที่ยวที่แจ้งความแล้ว ส่วนรถบัสคันดังกล่าวโดนหนัก ขนส่งตรวจสอบเตรียมยกเลิกใบอนุญาตประกอบการ และดำเนินคดีที่กระทำผิดอีกหลายกระทง

จากกรณีที่ช่วงเช้าวันที่ 6 ก.พ.60 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่า มีนักท่องเที่ยวถูกรถบัสนำมาทิ้งกลางทางระหว่างเดินทางท่องเที่ยวและถูกลักทรัพย์ ที่บริเวณ ปั้มน้ำมันบางจากเขต อ.สารภี จ.เชียงใหม่ และได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือพร้อมทั้งทำการสอบสวนจนกระทั่งทราบว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวทั้ง 5 คน ซึ่ง เป็นนักท่องเที่ยวชาวบราซิล 4 คน และ นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล 1 คน ได้ทำการซื้อทัวร์แบบเหมาจ่ายที่เป็นแพ็คเกจท่องเที่ยวไทย จากบริษัท เอสโอที และขึ้นรสบัสโดยสารมาจาก ถ.ข้าวสารมา กทม. เพื่อมายัง จ.เชียงใหม่ แต่กลับถูกรถบัสนำมาจอดให้ผู้โดยสารทั้งหมดลงที่ปั๊มน้ำมัน ก่อนจะขับรถออกไปอย่างกระทันหัน โดยไม่มีการแจ้งกับทางนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังพบว่าทรัพย์สินได้สูญหายไป ซึ่งเป็นเงินสกุลต่างประเทศที่กลุ่มนักท่องเที่ยวนำติดตัวมาเพื่อใช้เป็นเงินสำรอง รวมกันทั้งหมดประมาณกว่า 80,000 บาท โดยทั้งหมดได้ทำการแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สารภี เจ้าของพื้นที่ เพื่อติดตามรถบัสคันดังกล่าวและดำเนินคดี ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ก.พ.60 ทางเจ้าหน้าทตี่ตำตรวจท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สารภี และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้ดำเนินการสืบสวนเหตุที่เกิดขึ้นจนกระทั่งทราบว่า รถโดยสารที่นักท่องเที่ยวเดินทางมา คือ รถโดยสารไม่ประจำทาง(30) ซึ่งรถประเภทนี้จะไม่สามารถรับส่งผู้โดยสารได้ที่สถานีขนส่ง จะจอดส่งผู้โดยสารที่ปั้มน้ำมันและจะมีรถตู้บริการนำส่งนักท่องเที่ยวตามที่พักตามปกติ ซึ่งปฏิบัติเช่นนี้เป็นปกติ ขณะเดียวกัน นางวาสนา อรุณศิริ ตัวแทนบริษัท เอสโอที ได้นำเงินมาชดใช้ ให้กับผู้เสียหายเต็มจำนวนทุกคนเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งภายหลังจากที่ทางผู้เสียหายได้รับเงินคืนตามจำนวนที่หายไปต่างมีความพึงพอใจและไม่ติดใจเอาความ

ขณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการติดตามรถทัวร์คันดังกล่าวได้ในที่สุด ซึ่งทราบว่ารถคันเกิดเหตุทะเบียน 30-2076 กทม. มี นายชัยยา แซ่ตั๊น อายุ 46 ปี เป็นคนขับ และ นายนัฐจ์พร หลงชม อายุ 30 ปี เป็นบริกรประจำรถโดยได้นำผู้โดยสารเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประมาณ 20 กว่าคน ออกเดินทางในวันที่ 5 ก.พ.60 เวลา 12.00 น.จากถนนพระอาทิตย์ กทม.ขึ้นเชียงใหม่โดยแวะพักรถที่ สลกบาตร จ.กำแพงเพชร ก่อนเดินทางมาถึงปั้มบางจากเชียงใหม่เวลา 05.30น. ก่อนจะได้เข้าไปยังสถานีขนส่งอาเขต แต่ไม่มีจุดจอดจึงได้ขับวนออกมาแล้วนำผู้โดยสารทั้งหมดลงที่ ปั้มน้ำมันบางจากเขต อ.สารภี จ.เชียงใหม่ และจากการสอบสวน นายชัยยา และ นายนัฐจ์พร เบื้องต้นอ้างว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นกับทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวทั้ง 5 คน ที่แจ้งความแต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน และจะดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า จะเสนอการยกเลิกใบอนุญาตประกอบการรถไม่ประจำทางคันดังกล่าวนี้ไปยังสำนักทะเบียนกลาง พร้อมทั้งได้ทำการยึดรถคันดังกล่าวไว้ที่ สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ โดยจากการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ขนส่งพบการกระทำผิดในข้อหาคือ การไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของขนส่งในการดูแลผู้โดยสาร, การแก้ไขดัดแปลงสภาพรถ และเป็นผู้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางแต่ทำการขนส่งเสมือนผู้ประกอบการประจำทางฯ พร้อมทั้งดำเนินการเปรียบเทียบปรับและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น