เรือขนนักเที่ยว-สินค้า ติดแก่งน้ำโขงระนาว

คณะนักท่องเที่ยวจีนเบิกฤกษ์นั่ง “เยิ่นต๋า 7” ล่องโขงเข้าไทยแบบ Visa on Arrival ชุดแรกมาแล้ว แต่เจอจีนลดระบายน้ำจนน้ำโขงแห้ง เรือติดหาดป่าแหลว ต้องแจ้งเรือไทยขึ้นไปรับ แถมพบเรือสินค้าสัญชาติจีน-ลาวติดแก่งน้ำโขงกันระนาว บางลำใบพัดกระแทกโขดหิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท แม่โขง เดลต้า ทราเวล เอเจนซี่ จำกัด ได้นำเรือกาสะลอง 2 เดินทางออกจากท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสน แห่งที่ 1 อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ทวนกระแสแม่น้ำโขงขึ้นไปยังชายแดนประเทศพม่า-สปป.ลาว ห่างจาก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ประมาณ 53 กิโลเมตร ไปยังบริเวณจุดที่เรียกว่า “มองป่าแหลว หรือปาดป่าแหลว” ติดแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว และเมืองเชียงลาบ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า เพื่อรับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มใหญ่กว่า 53 คนที่เดินทางจากมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ด้วยเรือท่องเที่ยวแม่น้ำโขงชื่อ “เยิ่นต๋า 7” มาเที่ยวไทยแบบโนวีซ่า แต่เนื่องจากช่วงนี้ระดับน้ำโขงตื้นและแห้งมากในบางจุดทำให้เรือเยิ่นต๋า 7 จีนไม่สามารถแล่นผ่านมองป่าแหลวไปยังท่าเรือ อ.เชียงแสนของไทยได้ ต้องใช้เรือกาสะลอง 2 ของเอกชนไทยที่มีความคล่องตัวกว่าไปรับช่วงต่อเพื่อจะได้เดินทางเทียบฝั่งไทยต่อไป

น.ส.ผกายมาศ เวียร์ร่า รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย และกรรมการผู้จัดการบริษัทแม่โขง เดลต้า ทราเวล เอเจนซี่ จำกัด กล่าวว่า เรือเยิ่นต๋า 7 เป็น 1 ใน 5 เรือท่องเที่ยวแม่น้ำโขงของบริษัทท่องเที่ยวเยิ่นต๋า สิบสองปันนา จำกัด ของจีน ซึ่งได้นำนักท่องเที่ยวออกจากท่าเรือกวนเหล่ย เมืองหล้า เมืองท่าหน้าด่านของจีนในแม่น้ำโขง เพื่อสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวสู่ประเทศไทย มีกำหนดจะไปขึ้นฝั่งที่ อ.เชียงแสน ในวันนี้ โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับอนุญาตจากทางการจีนให้เดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าเรือกวนเหล่ย ขึ้นฝั่งประเทศไทยโดยตรง แบบไม่ต้องขอวีซ่าก่อนเดินทางออกนอกประเทศ แต่จะใช้ระบบวีซ่าเมื่อไปถึงปลายทาง หรือ Visa on Arrival ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง อ.เชียงแสน ตามข้อตกลงไทย-จีน แตกต่างจากเดิมที่นักท่องเที่ยวจีนจะต้องทำวีซ่าหรือใช้เอกสารการเดินทางผ่าน สปป.ลาว ก่อนเข้าไทย

น.ส.ผกายมาศ กล่าวอีกว่า แต่ช่วงนี้แม่น้ำโขงแห้งลงมาก ทำให้เรือที่กินน้ำลึกเกิน 1 เมตร ไม่สามารถเดินเรือได้ตลอดแนวเลย โดยเฉพาะบริเวณบ้านมองป่าแหลวซึ่งเป็นจุดที่น้ำโขงกว้างที่สุด แต่ก็ตื้นที่สุด เพราะมีหาดทราย-โขดหิน เรือขนาดใหญ่แทบผ่านไปมาไม่ได้เลย ซึ่งเรื่องนี้คนเดินเรือจะรู้ดี จึงต้องอาศัยความชำนาญของกัปตันเรือในการนำเรือที่จำเป็นต้องแล่นผ่านทำการแล่นเรือผ่านได้

นอกจากเรือเยิ่นต๋า 7 ต้องติดค้างอยู่ในจุดดังกล่าวแล้ว ยังพบว่ามีบรรทุกสินค้าบางลำประสบอุบัติเหตุใบพัดเรือกระแทกโขดหินเสียหาย และเรือหลายลำต้องจอดรอน้ำขึ้น หรือรอให้ทางการจีนปล่อยน้ำลงมาจากเขื่อนจิ่งหง ที่อยู่ในเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน เสียก่อนจึงจะสามารถเดินเรือต่อไปได้

สำหรับเรือท่องเที่ยวของจีนเยิ่นต๋า 7 ถือเป็นนวัตกรรมแม่น้ำโขงของจีน มีการแตกแต่งหรูหรา มีความยาวของเรือ 42 เมตร กินน้ำลึก 1.40 เมตร บรรทุกผู้โดยสารได้เต็มพิกัด 150 คน มีห้องนอนภายในจำนวน 12 ห้อง แต่เนื่องจากจีนปล่อยน้ำจากเขื่อนจิ่งหง ลดลงเหลือเพียงเพียงแค่ 800 ลบ.ม.ต่อวินาที มาตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา จากเดิมที่เคยระบายน้ำลงมาในระดับเฉลี่ย 1,200-1,500 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำโขงแห้งลงต่อเนื่อง

ล่าสุดมีรายงานว่า เรือบรรทุกสินค้าสัญชาติจีนขนาดระวางบรรทุกน้ำหนัก 450 ตัน ที่เพิ่งบรรทุกสินค้าจากท่าเรือกวนเหล่ย เตรียมส่งขึ้นฝั่งที่ท่าเรือสามเหลี่ยมทองคำ แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ฝั่งตรงข้าม อ.เชียงแสน ประสบอุบัติเหตุใบพัดเรือกระแทกโขดหินจนเสียหาย ทำให้คนเรือต้องนำเรือจอดริมฝั่งจนเกยตื้นอยู่ที่บ้านมองป่าแหลว เมืองเชียงลาบ จ.ท่าขี้เหล็ก ชายแดนพม่า-สปป.ลาว ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน ไปทางทิศเหนือประมาณ 53 กิโลเมตร

นอกจากนี้ยังมีเรือสัญชาติลาวขนาด 300 ตันบางลำ ติดอยู่ที่แก่งกังปัง ซึ่งเป็นเกาะแก่งและหาดทรายบริเวณเมืองเชียงกก สปป.ลาว ห่างจาก อ.เชียงแสน ขึ้นไปประมาณ 100 กิโลเมตร นานประมาณ 1 สัปดาห์แล้วด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น