นพ.สสจ.เชียงใหม่ เตือน “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

สสจ.เชียงใหม่ แนะประชาชนใช้มาตรการ“ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ โดยในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม คาดว่าจะมีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้น พร้อมขอความร่วมมือสถานศึกษาทุกแห่ง คัดกรองเด็กทุกเช้าก่อนเข้าเรียน และพิจารณาปิดสถานศึกษาเมื่อพบการระบาด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ

ร.อ.ภูรีวรรธน์ โชคเกิด นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า จากกรณีใน กทม. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีการระบาดเป็นกลุ่มก้อนของโรคไข้หวัดใหญ่ ในสถานศึกษาหลายแห่ง โดยเฉพาะระดับประถมศึกษา กรมควบคุมโรค ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับ กทม. ดำเนินการเฝ้าระวังควบคุมป้องกันโรคอย่างเข้มข้น โดยประกาศปิดสถานศึกษาเนื่องจากมีนักเรียนป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่นั้น ถือเป็นกรณีตัวอย่างที่ดำเนินการมาตร การป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ขอแนะนำประชาชนใช้มาตรการ “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์

โดย 1.ปิด คือ ปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม ใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูปิดปาก และจมูก หากเจ็บป่วยด้วยไข้หวัด ควรใช้หน้ากากอนามัย 2.ล้าง คือ ล้างมือบ่อยๆ เมื่อสัมผัสสิ่งของ เช่น กลอนประตู ลูกบิด ราวบันใด ราวบนรถโดยสาร 3.เลี่ยง คือ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย 4.หยุด คือ เมื่อป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรมในสถานที่แออัด แม้ผู้ป่วยจะมีอาการไม่มาก ก็ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 7 วัน นับจากวันเริ่มป่วยหรือหลังจากหายเป็นปกติแล้วอย่างน้อย 1 วัน

ส่วนสถานการณ์ การป่วย-ตาย ของโรคไข้หวัดใหญ่ จากข้อมูลงานระบาดวิทยา กลุ่มงานควบคุมโรค สสจ.เชียงใหม่ ตั้งแต่เดือน มกราคม – ธันวาคม 2559 พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ทั้งสิ้น 11,490 ราย ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ชนิด A จำนวน 4,681 ราย ชนิด B จำนวน 3,473 ราย ชนิด AH1 19 ราย ชนิด AH1N1 4 ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิต และ เดือนมกราคม – 8 กุมภาพันธ์ 2560 พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ ทั้งสิ้น 1,016 ราย

ร.อ.ภูรีวรรธน์ กล่าวต่อว่า สำหรับสถานศึกษา มีข้อแนะนำในการป้องกันควบคุมโรค 5 ข้อดังนี้ 1.มีระบบคัดกรองเด็กทุกเช้าก่อนเข้าเรียน พิจารณาจากอาการ ไข้ ไอ มีน้ำมูก หากพบให้แยกออกและใส่หน้ากากอนามัย แจ้งผู้ปกครองมารับเด็กกลับและให้พักฟื้นที่บ้าน 2.พิจารณาปิดสถานศึกษา เพื่อชะลอการระบาดและการแพร่กระจายเชื้อ โดยพิจาร ณาร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ ผู้บริหารสถานศึกษา และคณะกรรมการสถานศึกษา รวมถึงเครือข่ายผู้ปกครอง 3.สถานศึกษาทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง ถึงความจำเป็นที่จะให้ผู้ป่วยหยุดเรียน 4.จัดให้มีจุดล้างมือ พร้อมสบู่หรือแอลกอฮอล์ เจล จัดเตรียมหน้ากากอนามัยไว้ที่ห้องพยาบาล รวมถึงทำความสะอาดอุปกรณ์ที่เป็นส่วนรวม และ 5.ให้ความรู้และคำแนะนำเกี่ยวกับโรค แก่นักเรียนและผู้ปกครอง รวมถึงส่งเสริมการออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง

ทั้งนี้ ประชาชนควรดูแลตนเองด้วยการกินอาหาร ให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ กินอาหาร ปรุงสุกใหม่ ใช้ช้อนกลาง และหมั่นล้างมือบ่อยๆ ที่สำคัญ หากมีอาการไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และมีไข้สูง ต้องรีบพบแพทย์ทันทีภายใน 48 ชั่วโมง ส่วนผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงหากป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ จะมีอาการรุนแรงควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ 1.หญิงมีครรภ์อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป 2.เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปีทุกคน 3.ผู้มีโรคเรื้อรังประจำตัว ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย เป็นต้น 4.ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป เพื่อลดโอกาสในการติดเชื้อ ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422 นพ.สสจ.เชียงใหม่ กล่าวในที่สุด

ร่วมแสดงความคิดเห็น