ตำรวจสืบสวนเมืองเชียงใหม่ตามรวบสาวใหญ่มหาภัย ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ประชาชนในตลาดสดกลางวันแสกๆ แต่เกิดพลาดท่าเจ้าตัวไม่ได้ทรัพย์แถมโดนจับได้อีก ด้านเจ้าตัวอ้างไม่ได้ตั้งใจก่อเหตุ แต่ทางตำรวจ ไม่ปักใจเชื่อเบื้องต้นนำตัวส่งดำเนินคดี
การจับกุมตัวผู้ต้องหาครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 9 ก.พ.60 พ.ต.ต.อานนท์ เชิดชูตระกูลทอง สว.สส.สภ.เมือง จ.เชียงใหม่ ร.ต.อ.วิทยา ใจคำ รอง สว.สส.ฯ ได้รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์หน้าร้านทอง ฝั่งตรงข้ามธนาคารกรุงไทย ตลาดวโรรส ต.ช้างม่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งทางกลุ่มชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สามารถควบคุมตัวผู้ที่ก่อเหตุไว้ได้ หลังได้รับแจ้งจึงได้นำกำลังไปตรวจสอบ ไปถึงก็ได้พบว่าสถานที่เกิดเหตุนั้นมีประชาชนมุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก โดยมีทางผู้เสียหาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรควบคุมผู้ก่อเหตุเป็นหญิงไว้ได้ 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นางธนัญญา ศิริรัตน์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 377/161 ถ.มหิดล ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้รีบควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองเชียงใหม่
จากการสอบถามนางเยอ แซ่เฮ้อ อายุ 50 ปี ชาวเขาเผ่าม้ง ซึ่งเป็นผู้เสียหายให้การว่า ตนได้เดินทางมาจากบ้านที่อยู่ จ.น่าน เพื่อมาเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ เพราะลูกสาวกลับมาจากอเมริกา มาเยี่ยมบ้านก่อนถึงวันวาเลนไทน์ และตั้งใจมาที่ตลาดแห่งนี้ เพื่อมาเดินเที่ยวและลูกสาวได้ซื้อทองให้กับตนเป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท พร้อมจี้ 1 สลึง ซึ่งก่อนจะซื้อได้เข้ามาดูทองแล้วครั้งหนึ่ง เพื่อสอบถามราคา เสร็จแล้วก็ให้ญาติไปแลกเงินที่ธนาคารฝั่งตรงข้ามให้ ส่วนพวกตนก็ยืนรออยู่บริเวณด้านหน้าร้าน จากนั้นก็เห็นผู้หญิงที่ก่อเหตุคนนี้ที่เห็นตามมานานแล้ว เดินเข้ามาเหมือนเลือกซื้อทอง
กระทั่งพวกตนได้เงินจากไปแลกที่ธนาคารเสร็จ ก็มาจ่ายเงินซื้อทองที่เลือกไว้ หลังจากซื้อทองเสร็จ ก็จะเดินไปดูร้านทองอีกร้านหนึ่ง เพื่อจะดูทองรูปแบบอื่นเพิ่ม และจะเดินดูเสื้อผ้าที่ขายในตลาดด้วย ซึ่งหญิงดังกล่าวก็เดินตามพวกตนออกมาจากร้าน และหลังจากที่ออกมาจากร้านทองได้ไม่นาน ก็มาถูกหญิงดังกล่าวมากระชากกระเป๋า ซึ่งตนก็ตกใจจึงได้ร้องโวยวายและหนีบกระเป๋าสะพายไว้แน่น จึงเกิดการยื้อแย่งกัน ทำให้สายกระเป๋าของตนขาด ในขณะเดียวกันทางญาตของตนที่ไปด้วยก็เข้ามาช่วยยื้อแย่งกระเป๋า ไม่ให้หญิงดังกล่าวได้ทรัพย์สินไป เมื่อเห็นว่าไม่ได้ทรัพย์สินแล้ว ก็ได้ปล่อยกระเป๋าเพื่อพยายามหลบหนี แต่ได้สะดุดล้มลง ก่อนจะรีบลุกแล้วรีบเดินไป ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาช่วยเหลือและจับกุมตัวไว้ได้พอดี
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำ นางธนัญญา ที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ ก็ให้การว่า ไม่ได้ตั้งใจก่อเหตุ แต่ในตลาดคนเยอะ ซึ่งมือก็ได้ไปเกี่ยวเข้ากับกระเป๋าของคู่กรณี แต่เมื่อคู่กรณีร้องโวยวาย ตนก็ไม่รู้จะทำยังไง ในเมื่อถูกเข้าใจผิด จึงรู้สึกโมโหก็เลยกระชากกระเป๋าหญิงคู่กรณีเลย แต่หลังจากที่มีคนมาจับมือตน ก็รีบปล่อยและจะเดินไปแต่ระหว่างทางที่จะเดินก็ล้มลงก่อน และสุดท้ายก็มาถูกจับดังกล่าว ซึ่งหลังการสอบสวนแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว พบว่า นางธนัญญา นั้นมีลักษณะเหมือนติดตามกลุ่มผู้เสียหายมาตลอด ตั้งแต่ก่อนเข้าไปดูทองที่ร้านทอง จนกระทั่งซื้อทองเสร็จ และมาเกิดเหตุดังกล่าว ส่วนเรื่องที่บอกว่าจะเข้าไปดูร้านทองเดียวกันกับผู้เสียหายนั้น คงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะทางเจ้าหน้าที่ดูเงินในกระเป๋าสตางค์ของผู้เสียหายแล้วมีเพียงไม่กี่บาทเท่านั้น ในเบื้องต้นจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “พยายามวิ่งราวทรัพย์” จากนั้นได้ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ทำการสอบสวนเพิ่มเติมและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น