อานิสงส์ตรุษจีน ยอดทัวร์จีน ฟื้นคืนชีพ

สัญญานดี ทัวร์จีนเดือน ม.ค.ดีดตัว อานิสงส์ตรุษจีนดันยอดติดลบชะลอ “แอตต้า” เผยบริษัททัวร์เลิกเกียร์ว่าง หวังเทศกาลสงกรานต์ยอดพุ่ง

หลังจากที่รัฐบาลดำเนินมาตรการปราบปรามกระบวนการทัวร์ศูนย์เหรียญ จัดระเบียบทัวร์ผิดกฎหมาย ส่งผลให้ตลาดนักท่องเที่ยวจีนในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมาลดลงต่อเนื่อง ทว่าสถานการณ์ในช่วงต้นปี2560 เริ่มมีสัญญาณดีขึ้น

นายสุรวัช อัครวรมาศ อุปนายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า หลังจากเริ่มมาตรการกวาดล้างทัวร์ศูนย์เหรียญในราวเดือน ส.ค.2559 ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันที่ผ่านวันหยุดเทศกาลตรุษจีนที่เริ่มต้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดนักท่องเที่ยวจีนเดินทางผ่านทัวร์ในเดือน ม.ค. ที่แอตต้าจัดเก็บข้อมูลล่าสุดตั้งแต่ 1-26 ม.ค.ยังคงลดลงราว 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เป็นสัญญาณที่ดีขึ้น หลังจากที่เคยติดลบในเดือน พ.ย.ไปกว่า 52% ก่อนที่เดือน ธ.ค.จะติดลบต่ำลงเหลือ 39% ตามลำดับ

แม้ตัวเลขเดือน ม.ค. จะยังไม่สะท้อนความเป็นจริงมากนัก เนื่องจากพบว่าความต้องการของนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยยังสูง แต่กลับติดปัญหาเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลท์) รองรับไม่เพียงพอ ผลพวงจากการจัดระเบียบในช่วงปลายปีที่ผ่านมาที่ปกติเป็นช่วงที่บริษัททัวร์ต้องทำสัญญากับชาร์เตอร์ไฟลท์ล่วงหน้าสำหรับตรุษจีน จึงไม่กล้าตัดสินใจดำเนินการใดๆ ดังนั้นในเดือน ม.ค.จึงสำรวจพบว่า เที่ยวบินประจำค่อนข้างหนาแน่นเพราะต้องรองรับความต้องการเดินทางที่กลับเข้ามา ทดแทนในภาวะที่ชาร์เตอร์ไฟลท์ยังขาดแคลน

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า สิ่งที่ผู้ประกอบการกังวล หลังผ่านเทศกาลหยุดยาวตรุษจีนที่เป็นแรงกระตุ้นแล้ว ในระยะสั้นตลาดทัวร์เดือน ก.พ.-มี.ค.จะเป็นอย่างไร ซึ่งจากการตรวจสอบกับสมาชิกแอตต้าล่าสุด ยังเห็นแนวโน้มการฟื้นตัวดีขึ้นและไม่น่าจะต่ำกว่าปีที่แล้ว

แต่มีอีกประเด็นที่ต้องจับตาคือ เป้าหมายในการเพิ่มรายได้เฉลี่ยต่อหัวของนักท่องเที่ยว หลังจากกำหนดราคาทัวร์ขั้นต่ำออกมาว่าจะบรรลุผลหรือไม่ เพราะขณะนี้แม้ว่าการทำราคาขายแพ็คเกจทัวร์จะเพิ่มขึ้น แต่ก็เป็นไปอย่างช้าๆ ยังต้องใช้เวลาการปรับตัวกันทุกฝ่ายทั้งผู้ประกอบการทัวร์ในฝั่งจีน, ไทย, กลุ่มโรงแรม และกระทั่งผู้บริโภคเองที่ในช่วงแรกอาจอยู่ในภาวะช็อกกับราคาที่เพิ่มขึ้น

ผู้ประกอบการทัวร์ยังแสดงความกังวลด้วยว่า การกลับมาเติบโตเชิงปริมาณมากเกินไปอาจส่งผลทำให้กำไรลดลง เพราะเมื่อเทียบกับประสบการณ์ที่ผ่านมา ช่วงที่ทัวร์จีนมีกำไรมากที่สุดคือปีที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวราว 4 ล้านคนต่อปี แต่เมื่อมีการเดินทางเข้ามากว่า 7-8 ล้านคนต่อปี กลับทำรายได้ไม่ดีและยังมีการขาดทุนเพราะเติบโตรวดเร็วเกินไป

นายสุรวัช กล่าวด้วยว่า อีกสาเหตุที่ทำให้ตลาดกลับมาฟื้นตัวได้ดีในเดือนม.ค. เนื่องจากบริษัททัวร์กลับมารับลูกค้าตามปกติ หลังจากที่เคยชะลอการรับกรุ๊ปทัวร์ไปตั้งแต่ปลายปีก่อน เนื่องจากไม่มั่นใจว่าจะถูกจับกุมพ่วงไปด้วยโทษฐานที่เคยใช้บริการเครือข่ายของบริษัทโอเอ ทรานสปอร์ต ที่อยู่ระหว่างถูกดำเนินคดี ซึ่งการสร้างความเชื่อมั่นจากภาครัฐผ่านการประกาศของพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ในการประชุมร่วมกับสมาชิกแอตต้าหลายครั้ง ช่วยทำให้มั่นใจในการดำเนินธุรกิจใหม่ให้ถูกต้อง

ด้านนายจีระเดช ห้วยหงษ์ทอง อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย (สปข.) กล่าวว่า ในช่วงตรุษจีนปีนี้อัตราการใช้รถบัสของผู้ประกอบการในสมาคมกว่า 6,000 คันเต็มทั้งหมด ขณะที่อัตราการใช้โดยเฉลี่ยทั้งเดือนอยู่ที่ 90% เพราะนอกจากทัวร์จีนกลับมาฟื้นตัวดีแล้วยังต้องเข้ารองรับตลาดรัสเซียที่ฟื้นจากสภาพเศรษฐกิจเช่นกัน โดยราคาเช่ารถบัสในช่วงตรุษจีนที่ตกลงกับบริษัททัวร์อยู่ที่ 6,000-6,500 บาทแล้วแต่สภาพรถ ส่วนช่วงนอกเทศกาลอยู่ที่ 4,500-5,000 บาท

ทั้งนี้เห็นได้ชัดว่า บริษัททัวร์ที่เคยใช้บริการรถบัสในเครือบริษัทโอเอฯ ด้วยต้นทุนเป็นศูนย์บาท เริ่มปรับตัวทำธุรกิจตามกลไกตลาดได้แล้ว และเริ่มมีลูกค้าเข้ามาซื้อแพ็คเกจที่มีราคามาตรฐานมากขึ้น เป็นผลให้สามารถมาเช่ารถบัสในราคากลางที่ สปข.กำหนดขึ้นมาพิเศษเพื่อช่วยเหลือทัวร์ในช่วงปรับตัว เพราะหากปกติราคาวิ่งรถบัสที่จะคุ้มค่าควรอยู่ที่ 5,000-5,500 บาท ส่วนช่วงตรุษจีนปีอื่นๆ สามารถผลักดันราคาสูงได้ถึง 6,500-7,000 บาท

สำหรับแนวโน้มระยะยาว เชื่อว่าช่วงสงกรานต์ความต้องการตลาดจีนก็จะยังเข้ามาต่อเนื่อง เส้นทางการเดินทางเริ่มขยายจากกรุงเทพฯ, พัทยา ไปยังเกาะช้างและชะอำมากขึ้นส่วนรัสเซียก็ยังเติบโตดี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเลือกจุดหมายมาไทยทดแทนการเดินทางไปประเทศที่ยังมีความขัดแย้ง เช่น ตุรกี ทำให้ขณะนี้ยอดลูกค้ากว่า 60% ที่เป็นเอเชียนั้น มีส่วนแบ่งจีนถึง 40% ขณะที่อีกประเทศที่มีการใช้บริการเพิ่มขึ้นทัวร์อินบาวด์เกาหลีใต้ส่วนอีก 40% ที่เป็นตลาดยุโรปนั้นได้ลูกค้ารัสเซียอุดหนุนการเติบโตมาก

ร่วมแสดงความคิดเห็น