ปั่นจักรยานอย่างไร ให้ห่างไกล “โรคปวดหลัง”

ปัจจุบันการปั่นจักรยานกำลังเป็นเทรนด์ฮิตในคนยุคปัจจุบัน เพราะสามารถปั่นได้ในทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อออกกำลังกายหรือปั่นเพื่อเป็นยานพาหนะเดินทาง ก็ล้วนแต่ส่งผลดีต่อสุขภาพ แถมยังเป็นการประหยัดพลังงานลดโลกร้อนอีกด้วย แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักปั่นหน้าใหม่และหน้าเก่า ก็มักจะพบกับอาการปวดหลัง ปวดคอ ปวดเอว เป็นต้น ซึ่งสาเหตุหลักๆ ก็มักเกิดจากการปั่นที่ไม่ถูกท่า ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ วันนี้ นพ.ดุสิต ศรีสกุล แพทย์ประจำศุนย์โรคปวดหลัง โรงพยาบาลลานนา จะมาให้ความรู้และคำแนะนำ เกี่ยวกับท่วงท่าต่างๆ ที่จะลดอาการปวดหลังจากการปั่นจักรยานกันครับ

นพ.ดุสิต ศรีสกุล แพทย์ประจำศูนย์โรคปวดหลัง โรงพยาบาลลานนา ให้คำแนะนำว่า “การปั่นจักรยานเป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่ง ที่มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อและกระดูก หากนักปั่นไม่มีความพร้อมในด้านร่างกายหรืออาจปั่นในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะนักปั่นจักรยานเสือหมอบ เพราะด้วยลักษณะรูปร่างของจักรยาน ที่นักปั่นจะต้องอยู่ในท่าเดียวนานๆ ทำให้นักปั่นอาจเกิดอาการปวดหลัง ปวดคอได้ และไม่เพียงแต่จักรยานเสือหมอบเท่านั้น แต่ก็หมายถึงจักรยานทุกๆประเภทด้วยเช่นกัน

นอกจากความพร้อมของร่างกายที่นักปั่นจะต้องมีความแข็งแรงแล้ว ควรใส่ใจกับท่าทางในการปั่น และอุปกรณ์ของจักรยานด้วย เช่นการปรับท่านั่งในการปั่น ควรปรับระดับของอานนั่งให้เหมาะสม เพราะระยะห่างจากอานนั่งจะมีผลต่อการบาดเจ็บของขา เอว และสะโพกได้ เช่น หากอานนั่งมีระดับสูงเกินไป ก็จะทำให้ยืดขามาก ส่งผลให้กล้ามเนื้อหลังและสะโพกออกแรงมาก ส่งผลให้เกิดอาการปวดหลัง ปวดเอวได้ หรือหากอานนั่งมีระดับต่ำเกินไป ก็จะส่งผลให้เวลาปั่นเข่าอยู่ในลักษณะงอมากๆ ก็ส่งผลให้เกิดอาการบาดเจ็บได้เช่นกัน ระดับของอานที่เหมาะสม คือ เมื่อนั่งบนอานและถีบขาให้บันไดวางเท้าซ้ายและขวาอยู่ในตำแหน่งตรงกลางเหมาะสมคือ ปลายเข่าของเราจะต้องตรงกับแกนกลางของบันไดในแนวดิ่ง จะเห็นว่าแนวเชือกจากปลายเข่าจะดิ่งตรงลงมาที่ แกนบันไดซึ่งถือเป็นต่ำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด รวมทั้งระยะห่างของแฮนด์จับก็สำคัญเช่นกัน ต้องให้สมดุลกับระดับของอานนั่งด้วย เพื่อไม่ให้ต้องก้มตัวและเงยหน้ามากเกินไป

วิธีการหลีกเลี่ยงปัญหาอันเกิดเนื่องมาจากการปั่นจักรยาน อันดับแรก คือ การเตรียมพร้อมร่างกาย เมื่อกายพร้อมแล้วก็ต้องมาดูเรื่องของอุปกรณ์จักรยาน คือ จักรยานต้องพร้อม เช็คเบรค เช็คลม รวมทั้งการปรับระดับของอานนั่งและแฮนด์จับที่เหมาะสม ให้ผู้ปั่นรู้สึกสบายที่สุดเมื่อนั่งอยู่บนจักรยาน และที่สำคัญก็คือ เรื่องของอุปกรณ์เซฟตี้ต่างๆ เช่น หมวกกันน็อค ถุงมือ เสื้อผ้า รองเท้าต่างๆ ต้องพร้อมด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นควรศึกษาเส้นทางที่จะไปให้ดี ไม่ควรหักโหมมาหเกินไป หากเหนื่อยก็พัก หรือหยุดเปลี่ยนอริยบถท่าทางต่างๆบ้าง เพื่อยืดเส้นยืดสาย คลายเมื่อยกันบ้าง

ข่าวดีสำหรับนักปั่นจักรยาน และผู้ที่มีปัญหาโรคข้อเข่าเสื่อม โรคข้อสะโพก และโรคปวดหลัง หากท่านมีสิทธิประกันสังคมที่โรงพยาบาลลานนา และท่านจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า ข้อสะโพก หรือผ่าตัดกระดูกสันหลัง ท่านจะได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างแน่นอน สามารถเปลี่ยนสิทธิ์ย้ายสถานพยาบาลในโครงการประกันสังคมได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2558เท่านั้น สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคมในพื้นที่ สำหรับนักปั่นที่เริ่มมีอาการปวดหลัง ปวดข้อต่างๆ ท่านสามารถเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่ ศุนย์โรคปวดหลัง โรงพยาบาลลานนา โทร.053-999-777 …

ร่วมแสดงความคิดเห็น