แบงก์ชาติเปิดตัวเลข เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว

ปัจจัยชั่วคราว -การบริโภคภาคเอกชนในไตรมาสที่ 4/2559 ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้า แต่โดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้ผู้บริโภคจะเผชิญกับบรรยากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการใช้จ่าย และการลดการจัดงานรื่นเริงในช่วงเทศกาลต่างๆ โดยผู้ประกอบการประเมินว่า มาตรการช็อปช่วยชาติ1 ในช่วงปลายไตรมาส การทยอยฟื้นตัวของรายได้เกษตรกร และการจัดโปรโมชั่นเพื่อส่งเสริมการขาย ส่งผลให้ยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้ากึ่งคงทน และในหมวดบริการ ปรับดีขึ้นได้ในช่วงปลายไตรมาสหลังจากที่ลดลงในช่วงต้นไตรมาส

อย่างไรก็ดี จากมุมมองของผู้ประกอบการชี้ให้เห็นว่า รายได้เกษตรกรที่ปรับดีขึ้นยังไม่กระจายในทุกกลุ่ม และส่งผลให้การฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชนแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค โดยการบริโภคในภาคเหนือจะค่อนข้างฟื้นตัวช้ากว่าภาคอื่นๆ

ส่วนในไตรมาสที่ 1/2560 ผู้ประกอบการคาดว่าการบริโภคภาคเอกชนน่าจะฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยคาดว่ารายได้เกษตรกรน่าจะปรับดีขึ้นและกระจายตัวในหลายกลุ่มมากขึ้น รวมทั้งรายได้ของแรงงานนอกภาคเกษตรน่าจะดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่จะเห็นผลชัดเจนมากขึ้น ขณะเดียวกันภาระการผ่อนรถคันแรกที่ทยอยหมดลง ทำให้ผู้บริโภคมีความสามารถที่จะใช้จ่ายได้มากขึ้น เหล่านี้น่าจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้บริโภคให้ดีขึ้นได้ อีกทั้งช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของการบริโภคสินค้าคงทนโดยเฉพาะรถยนต์ได้บ้าง สะท้อนจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่แสดงความเชื่อมั่นต่อภาวะธุรกิจในอีก 12 เดือนข้างหน้าว่าจะดีขึ้นกว่าปัจจุบัน

อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการ ส่วนใหญ่กังวลว่าภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงจะยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของการบริโภคภาคเอกชนโดยรวมโดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการบริโภคในภูมิภาค ส่วนหนึ่งสะท้อนจากธุรกิจให้บริการผ่อนชำระสินค้าบางรายโดยเฉพาะในภูมิภาคที่ติดตามหนี้ได้ยากขึ้นและมีหนี้สูญเพิ่มขึ้น

การลงทุนภาคเอกชน: ส่วนใหญ่ลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต-วิจัยและพัฒนาสินค้ามากขึ้น-การลงทุนภาคเอกชนในไตรมาสที่4/2559 ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า โดยการลงทุนส่วนใหญ่ยังกระจุกตัวอยู่ในภาคการค้าและบริการ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจที่จะเข้าสู่ภาคบริการมากขึ้น และอีกส่วนหนึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของชุมชนเมือง (Urbanization) อาทิ ธุรกิจโทรคมนาคม ค้าปลีก โลจิสติกส์ และโรงพยาบาล เป็นต้น

ขณะที่ การลงทุนในภาคการผลิตแม้จะเห็นสัญญาณปรับดีขึ้นบ้าง แต่โดยรวมยังอยู่ในระดับต่ำ โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะลงทุนเพื่อปรับปรุงหรือเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต อีกทั้งหลายธุรกิจในทุกภูมิภาคมีการนำเครื่องจักรและเทคโนโลยีมาใช้ (Automation) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและทดแทนแรงงานคนมากขึ้น รวมทั้งพัฒนาสินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่า อาทิ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ยางและพลาสติก อาหารทะเลแปรรูป เกษตรแปรรูป และเครื่องประดับ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม มีการลงทุนใหม่บ้างแต่มูลค่าไม่สูงนักและยังไม่เป็นวงกว้าง ส่วนหนึ่งเนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่เห็นว่ายังมีกำลังการผลิตเพียงพอที่จะรองรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นได้ขณะเดียวกันผู้ประกอบการ หลายรายได้ขยายการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้านต่อเนื่อง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการในภาคการผลิตบางรายได้ปรับเปลี่ยนไปลงทุนในสาขาบริการแทน อาทิ ธุรกิจโรงแรม และอสังหาริมทรัพย์

ส่วนในไตรมาสที่ 1/2560 ผู้ประกอบการคาดว่าการลงทุนภาคเอกชนยังคงทรงตัว เนื่องจากเห็นว่าอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังมีกำลังการผลิตเพียงพอ อย่างไรก็ดี การลงทุนในโครงการพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ อาทิ รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมทั้งนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากขึ้นจะเป็นผลดีต่อการตัดสินใจลงทุนของผู้ประกอบการในระยะต่อไป

การส่งออก: ปรับดีขึ้นในหลายหมวดสินค้า-การส่งออกในไตรมาสที่ 4 /2559 ปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ในหลายหมวดสินค้าตามอุปสงค์จากต่างประเทศ ได้แก่ (1) ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์พื้นฐานที่เป็นส่วนประกอบในสินค้าหลายชนิด อาทิ แผงวงจรในอุปกรณ์สื่อสาร รถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า (2) อาหารและผลิตภัณฑ์แปรรูปอาหาร (3) เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทเครื่องปรับอากาศและตู้เย็น และ (4) เครื่องประดับ

ขณะที่การส่งออกรถกระบะลดลง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากอุปสงค์ในประเทศแถบตะวันออกกลางที่ชะลอลงตามราคาน้ำมันดิบ

นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านชายแดนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเติบโตได้ดีต่อเนื่อง ขณะที่การค้าชายแดนในภาคเหนือลดลงเนื่องจากได้รับผลกระทบจากนโยบายของรัฐบาลจีนที่เข้มงวดการนำเข้าสินค้าชายแดนและความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนเมียนมาและชนกลุ่มน้อยเช่นเดียวกับภาคใต้ที่การค้าชายแดนลดลงเนื่องจากการอ่อนค่าของเงินริงกิตมาเลเซียทำให้ราคาสินค้าของไทยสูงขึ้น

สำหรับไตรมาสที่1/2560 การส่งออกมีแนวโน้มปรับดีขึ้นตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศ คู่ค้า ผู้ประกอบการคาดว่าสินค้าส่งออกที่จะปรับดีขึ้น ได้แก่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์พื้นฐานที่ส่งไปยังยุโรป ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ อาหารและเครื่องดื่มที่ส่งไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน (CLMV) และชิ้นส่วนและยานยนต์ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการปิดโรงงานผลิตรถยนต์ในออสเตรเลียและหันมานำเข้ารถยนต์จากไทย

อย่างไรก็ดีผู้ประกอบการบางส่วนกังวลต่อนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ว่าการตั้งกำแพงภาษีกับจีนอาจส่งผลต่อการส่งออกสินค้าประเภทวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางของไทยที่ส่งไปจีนและที่จีนส่งต่อไปสหรัฐฯอาทิ สินค้าเคมีภัณฑ์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และสิ่งทอ รวมถึงผลกระทบที่จะมีต่อธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์

การท่องเที่ยว : หดตัวจากไตรมาสก่อนจากการปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมาย-การท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 4/2559 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าในทุกภูมิภาค ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ เห็นด้วยกับการปราบปรามทัวร์ผิดกฎหมาย แต่การดำเนินการทันทีในระยะสั้นทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงมากโดยเฉพาะกรุ๊ปทัวร์ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องโดยเฉพาะโรงแรมระดับล่าง ร้านอาหาร และร้านจำหน่ายสินค้า ในภาคกลางเป็นหลักซึ่งได้แก่ กรุงเทพฯ และพัทยา

ขณะที่การท่องเที่ยวในภาคเหนือโดยเฉพาะที่เชียงใหม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการนำรถต่างประเทศข้ามพรมแดนเข้ามาใช้ในประเทศโดยจำกัดให้ใช้รถต่างประเทศได้เฉพาะภายในเขตจังหวัดที่เป็นที่ตั้งของด่าน ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนไม่สามารถขับรถออกไปจังหวัดอื่นได้ กระทบต่อเส้นทางการท่องเที่ยวทางรถยนต์

ส่วนการท่องเที่ยวภาคใต้ได้รับผลกระทบจากการอ่อนค่าของเงินริงกิตมาเลเซียทำให้นักท่องเที่ยวมาเลเซียเข้ามาเที่ยวภาคใต้ลดลง

สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย กิจกรรมการท่องเที่ยวลดลงเช่นกัน ส่วนหนึ่งจากการลดหรือเลื่อนการจัดกิจกรรมรื่นเริงในช่วงเทศกาลต่างๆ แต่ผู้ประกอบการเชื่อมั่นว่าเป็นเพียงระยะสั้น

ส่วนแนวโน้มไตรมาสที่ 1/2560 การท่องเที่ยวปรับดีขึ้น ผู้ประกอบการเชื่อมั่นว่าศักยภาพการเติบโตของการท่องเที่ยวไทยยังดี และเชื่อว่ามาตรการกระตุ้นของภาครัฐ รวมทั้งการสื่อสารและให้ข้อมูลที่ชัดเจนกับนักท่องเที่ยวของหน่วยงานราชการและเอกชนจะช่วยให้ความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวกลับคืนส่งผลให้บรรยากาศการท่องเที่ยวกลับมาเป็นปกติได้ สะท้อนจากผู้ประกอบการโรงแรมหลายรายในทุกภูมิภาคมียอดการจองที่พักล่วงหน้าเพิ่มขึ้น ทั้งจากชาวจีน ยุโรปและอาเซียน โดยนักท่องเที่ยวจีนมีแนวโน้มที่จะเดินทางมาด้วยตัวเอง (FIT) มากขึ้น

ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้เริ่มทำการตลาดดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายและเน้นการให้บริการที่มีคุณภาพมากขึ้นสะท้อนทิศทางที่ดีในการปรับโครงสร้างภาคท่องเที่ยวไทย

ภาคอสังหาริมทรัพย์ : ชะลอลงในตลาดระดับกลางถึงล่าง-ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสที่ 4/2559 ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลางถึงล่าง ผู้ประกอบการประเมินว่ากำลังซื้อของลูกค้าระดับกลางถึงล่างยังไม่เข้มแข็ง ทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อ อีกทั้งยังมีส่วนทำให้สถานะการเงินของลูกค้าในกลุ่มนี้ด้อยลง ขณะเดียวกันสถาบันการเงินยังคงระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ จึงส่งผลให้ผู้ประกอบการได้รับอัตราการปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้น โดยบางรายเพิ่มสูงถึง 30 – 40% ของจำนวนลูกค้าขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งหมด

อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการเห็นว่าตลาดบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมระดับบนยังเติบโตได้ ทั้งนี้ การชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีสต็อกส่วนเกินที่ค้างอยู่ เป็นจำนวนมากทั้งคอนโดมิเนียมในเขตชานเมืองของกรุงเทพฯ และในภูมิภาคต่างๆ ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต และ ชลบุรี

ในไตรมาสที่ 1/2560 ผู้ประกอบการคาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะเริ่มกลับมาประชาสัมพันธ์โครงการผ่านสื่อต่างๆ และมีการเปิดตัวโครงการใหม่หลังเลื่อนออกไปในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการเห็นว่าภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูงโดยเฉพาะในตลาดกลางถึงล่างยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้งความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจึงระมัดระวังในการทำธุรกิจเพิ่มขึ้น เน้นศึกษาเจาะลึกรายพื้นที่ ทั้งด้านอุปทานและอุปสงค์ก่อนจะพัฒนาโครงการต่างๆ ให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ และทำการตลาดมากขึ้น

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการรายใหญ่หลายรายได้ปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อกระจายความเสี่ยง อาทิ หันมาทำตลาดระดับบนมากขึ้นจากเดิมที่เน้นลูกค้าตลาดกลางถึงล่าง และขยายธุรกิจไปในกลุ่มโรงแรมและพัฒนานิคมอุตสาหกรรม เป็นต้น ในขณะที่ผู้ประกอบการหลายรายโดยเฉพาะในภูมิภาคมีแผนจะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบเพิ่มขึ้น เนื่องจากสามารถรับรู้รายได้ได้เร็วและลดความเสี่ยงในการทิ้งโอนเพราะลูกค้าเป็นกลุ่มที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยจริงรวมทั้งสร้างตามยอดจองมากขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดอุปทานส่วนเกิน

สำหรับภาคก่อสร้างในภูมิภาค ผู้รับเหมาและธุรกิจวัสดุก่อสร้างในท้องถิ่นคาดว่าธุรกิจจะได้รับแรงส่งเพิ่มขึ้นจากการประมูลโครงการก่อสร้างของภาครัฐที่มีต่อเนื่องและกิจกรรมจากงบโครงการพัฒนาภูมิภาค 18 กลุ่มจังหวัด

การจ้างงาน : ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า ทั้งในภาคการผลิตและบริการ-การจ้างงานในไตรมาสที่ 4/2559 ค่อนข้างทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า ผู้ประกอบการโดยรวมยังคงระดับการจ้างงานเท่าเดิม เนื่องจากเห็นว่าการจ้างงานปัจจุบันเพียงพอที่จะตอบสนองกับกิจกรรมเศรษฐกิจที่ค่อยๆ ฟื้นตัวได้

อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการส่งออกบางรายในทุกภูมิภาคเริ่มจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นบ้างแล้ว สอดคล้องกับคำสั่งซื้อที่ฟื้นตัว เช่นเดียวกับผู้ประกอบการภาคการค้าที่จ้างแรงงานเพิ่มตามการขยายตัวของสาขา ขณะที่มีผู้ประกอบการภาคการผลิต บางรายเปลี่ยนมาใช้เครื่องจักรทดแทนแรงงานในบางส่วนของกระบวนการผลิตมากขึ้น อาทิ การตรวจสอบสินค้า บรรจุสินค้า และคัดขนาดสินค้า ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องการความแม่นยำและสามารถผลิตได้รวดเร็วขึ้น

ในระยะต่อไป ผู้ประกอบการในภาคการค้าและบริการประเมินว่าจะต้องการแรงงานเพิ่มต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายธุรกิจ สำหรับผู้ประกอบการในภาคการผลิตเห็นว่าความต้องการแรงงานที่มีทักษะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และบางส่วนกังวลต่อการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างขั้นต่ำ เนื่องจากเห็นว่าไม่ได้สอดคล้องกับคุณภาพของแรงงานที่เพิ่มขึ้นนัก

ต้นทุนการผลิต : เพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามราคาวัตถุดิบ แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่สามารถปรับขึ้นราคาได้-ต้นทุนการผลิตโดยรวมในไตรมาสที่ 4/2559 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า จากการปรับขึ้นราคาวัตถุดิบตามราคาน้ำมันเป็นสำคัญ อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการส่วนใหญ่พยายามปรับลดต้นทุนและปรับรูปแบบสินค้าแทนการปรับขึ้นราคาสินค้าในช่วงที่มีการแข่งขันสูงและเศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่แข็งแกร่งอย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการบางรายได้พัฒนาและเพิ่มมูลค่าสินค้า ทำให้สามารถปรับขึ้นราคาได้

ในระยะต่อไป ผู้ประกอบการคาดว่าต้นทุนการผลิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากราคาน้ำมันและค่าจ้างที่ปรับสูงขึ้น ทั้งนี้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เห็นว่าการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2560 ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างมีนัยสาคัญ แต่ทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับขึ้นค่าจ้างให้กับแรงงานกลุ่มอื่นด้วยเพื่อรักษาแรงงานเดิมไว้

ร่วมแสดงความคิดเห็น