ไฟเขียวลดค่าธรรมเนียมวีซ่า หวังดูดเม็ดเงินนักเที่ยวต่างชาติ

ครม.มีมติปรับลดค่าเนียมวีซ่านักท่องเที่ยว 21 ประเทศอีก 6 เดือน หวังเพิ่มรายได้ท่องเที่ยวไทย ในขณะที่ ททท. สานมือ วิทแอนด์วิสดอม จำกัด จัดโครงการ “Thailand Wedding Destiny”

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.มีมติขยายเวลามาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้เสนอ ให้มีการยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา (วีซ่า) ที่สถานทูตหรือสถานกงสุลไทย จากเดิม 19 ประเทศ เป็น 21 ประเทศ คือ ปาปัวนิวกีนี และหมู่เกาะฟิจิ จาก 3 เดือน เพิ่มเติมอีก 6 เดือน ตั้งแต่ 1 มี.ค.-31 ส.ค.60 และปรับค่าทำเนียมการตรวจลงตรา ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ใช้ได้ครั้งเดียว เป็นจำนวน 1,000 บาทต่อคน เป็นการชั่วคราว

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ามาตรการดังกล่าวทำให้สูญเสียรายได้ จากค่าธรรมเนียม ระหว่างวันที่ 1 ธ.ค.2559-15 ม.ค.2560 เป็นเงินประมาณ 1,061 ล้านบาท แต่มาตรการดังกล่าว เป็นแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยจากปกติ 1,005,826 คน เพิ่มขึ้น1,127,933 คน หรือร้อยละ 12.4 ทำให้ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น6,446 ล้านบาท จากค่าธรรมเนียมที่ภาครัฐสูญเสีย และคาดว่าในช่วงระยะเวลาของมาตรการดังกล่าวประเทศไทยจะได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท

ในขณะที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยร่วมกับบริษัท วิทแอนด์วิสดอม จำกัด จัดโครงการ “Thailand Wedding Destiny” เพื่อแสดงศักยภาพและส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในการเป็น “Wedding Destination” ระดับโลก ที่โรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพฯ

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลางและอเมริกา กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เล็งเห็นธุรกิจการจัดงานแต่งงานว่าเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง ซึ่งคู่แต่งงานชาวต่างชาติมีการใช้จ่ายในการจัดงานแต่งงานประมาณ 5 – 20 ล้านบาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับขนาดของแขกที่เข้าร่วมงานอีกทั้งประเทศไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางที่มีชื่อเสียงสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งด้านการจัดงานแต่งงานและฮันนีมูนจึงเป็นโอกาสในการเพิ่มศักยภาพและส่งเสริมเวดดิ้งออร์กาไนเซอร์ชาวไทยสู่ตลาดสากล

สำหรับโครงการ “Thailand Wedding Destiny” ได้ตัวเเทนคู่บ่าวสาวจาก 9 ประเทศ ได้เเก่ประเทศจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น อังกฤษ ฝรั่งเศส เช็ก ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกาเเละบราซิล มาจัดงานเเต่งงานในพื้นที่ 4 จังหวัดในประเทศไทย ได้เเก่ สุโขทัย ภูเก็ต กระบี่ สมุย โดยในอนาคตมีเเผนขยายไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่อผลักดันสร้างงานให้ดีไซเนอร์เเละออร์กาไนเซอร์ท้องถิ่น เเละกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว

โดยคู่บ่าวสาวชาวออสเตรเลีย เผยเหตุผลที่เลือกจัดงานเเต่งงานที่เกาะสมุยว่า เขาเเละภรรยาชื่นชอบในความสวยงามของประเทศไทย ความน่ารักของคนไทย ทุกคนทีไมตรีจิต อาหารอร่อย เเละมีทีมงานออร์กาไนเซอร์เเละดีไซเนอร์มืออาชีพที่คอยให้ความช่วยเหลือ ทำให้งานสำคัญในชีวิตของพวกเขาเป็นที่น่าประทับใจ

ทั้งนี้ ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็น Wedding Destination ระดับท็อปในภูมิภาคต่างๆ โดยได้เป็นประเทศที่น่าสนใจอันดับ 1 สำหรับทวีปเอเชีย, อันดับ 3 สำหรับออสเตรเลียเเละนิวซีเเลนด์ เเละอันดับ 6 สำหรับทวีปยุโรป ส่วนตะวันออกกลาง ไทยติดอันดับ 3 ใน Emerging Destination เเละอันดับ 1 ใน Emerging Destination ของเเอฟริกา

ร่วมแสดงความคิดเห็น