สกุ๊ปหน้า1…เชียงใหม่…!! ผนึกกำลังงดเผา

พ่อเมืองเชียงใหม่ ผนึกกำลังทุกภาคส่วน ร่วมกิจกรรมวันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า ประจำปี 2560 พร้อมประกาศ 60 วันแห่งการห้ามเผา 20 ก.พ.-20 เม.ย.60 ย้ำบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดหากฝ่าฝืนเผาในที่โล่ง ขณะที่สถานการณ์ในขณะนี้ยังอยู่ในช่วงปรกติ ขอทุกฝ่ายร่วมมือกันในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง

ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานนำเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช, ทหาร, เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่, อาสาสมัครรักษาดินแดน, ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และชุมชน รวมทั้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ร่วมกิจกรรมวันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า ประจำปี 2560 โดยมีการมอบอุปกรณ์ในการควบคุมดับไฟป่าให้กับเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าและราษฎรอาสาสมัครในพื้นที่เสี่ยงของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำไปใช้ในการตรวจตราสอดส่องเฝ้าระวังและระงับเหตุเบื้องต้นในพื้นที่ พร้อมทั้งมีการปล่อยแถวขบวนชุดลาดตระเวนป้องกันและดับไฟ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนและเกษตรกรงดการจุดไฟเผาป่าเพื่อลดควันไฟที่เกิดจากการเผาป่า พร้อมสร้างความรู้ความเข้าใจและตระหนักถึงอันตรายและผลกระทบที่เกิดจากไฟป่าให้กับหน่วยงานราชการ ภาคเอกชนและประชาชน รวมทั้งเพื่อป้องกันและอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้จากการจุดไฟเผาป่า

ทั้งนี้ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 22 ส.ค.43ให้วันที่ 24 ก.พ.ของทุกปีเป็น วันณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า ประกอบกับในช่วงเดือน ก.พ.และช่วงนี้ของทุกปีเป็นช่วงที่ภาคเหนือตอนบนตรวจพบการเผาป่ามากที่สุดและเกิดควันมากส่งผลกระทบตามมาหลายด้าน ดังนั้นการจัดกิจกรรมครั้งนี้จึงเป็นการประกาศความพร้อมของจังหวัดเชียงใหม่ด้วย ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ซึ่งที่ผ่านมามีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องทั้งการรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนเกิดความตื่นตัวและตระหนักถึงความสำคัญของปัญหา พร้อมทั้งทำการลดและกำจัดเศษวัสดุต่างๆ ที่จะเป็นเชื้อเพลิงเพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งคาดหวังว่าน่าจะได้ผลดีระดับหนึ่งในการลดความรุนแรงของปัญหาและก่อให้เกิดความร่วมมือกันจากทุกภาคส่วนในการป้องกันผลกระทบจากไฟป่าและหมอกควันที่จะมีต่อสุขภาพอนามัย สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจการท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่ได้ประกาศช่วง 60 วันแห่งการห้ามเผาของจังหวัดเชียงใหม่แล้ว เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.60 ไปจนถึงวันที่ 20 เม.ย.60 โดยห้ามการเผาในที่โล่งทุกชนิดเพื่อลดปัญหาหมอกควัน ทั้งนี้จะมีการนำมาตรการทางกฎหมายมาบังคับใช้อย่างเข้มงวดและเคร่งครัดกับผู้ที่ฝ่าฝืน ซึ่งในปีที่ผ่านมาสามารถจับกุมและดำเนินคดีกับผู้ที่ฝ่าฝืนได้ทั้งสิ้น 18 ราย ขณะเดียวกันในส่วนของการจัดระเบียบการเข้าไปหาของป่าของราษฎรในพื้นที่ต่างๆ นั้น สั่งการให้ทุกอำเภอดำเนินการขึ้นทะเบียนรายชื่อราษฎรที่มีอาชีพเก็บของป่าขายแล้ว พร้อมทั้งให้กำนันผู้ใหญ่บ้านทำหน้าที่ควบคุมดูแลควบคุมการเข้าไปหาของป่าของราษฎรและเน้นย้ำห้ามจุดไฟเผาป่าอย่างเด็ดขาด ซึ่งหากเกิดเหตุในพื้นที่ใดจะทำให้ง่ายต่อการติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุและลงโทษ

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า สำหรับสถานการณ์ไฟป่าและการเกิดจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในปีนี้นั้น เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถือว่าสถานการณ์ดีขึ้น โดยจากข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-19 ก.พ.60 ตรวจพบจุดความร้อนทั้งสิ้น 121 จุด ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่ตรวจพบทั้งสิ้น 312 จุด อย่างไรก็ตามแม้ว่าสถานการณ์โดยเปรียบเทียบจะดีขึ้น แต่มีความจำเป็นที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องต่อไป

ทางด้านนายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล นายอำเภอสันกำแพงเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ด้วยจังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลและวาระสำคัญของจังหวัดที่ต้องดำเนินการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่ได้ประสบกับปัญหาหมอกควันและไฟป่า ในห้วงเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปีจะมีสภาพหมอกควันปกคลุมหนาแน่นเป็นบริเวณกว้างสาเหตุหลักเกิดจากการเผาในที่โล่ง ทั้งการเผาขยะ การเผาเศษวัสดุทางการเกษตร เช่น ตอซัง ฟางข้าวกิ่งไม้ใบไม้ เพื่อเตรียมพื้นที่ทำการเกษตร และการเผาป่า ทำให้สภาพอากาศในช่วงเวลาดังกล่าวมีค่าเฉลี่ยฝุ่นละอองในอากาศสูงเกินเกณฑ์มาตรฐานอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมสุขภาพอนามัยของประชาชนและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าของอำเภอสันกำแพง เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ สามารถเข้าดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที อำเภอสันกำแพง จึงขอจัดตั้งศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ระดับอำเภอ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ขึ้น ณ ที่ทำการปกครองอำเภอสันกำแพง (ฝ่ายความมั่นคง)

ในการจัดศูนย์ป้องกันดับไฟป่าในครั้งนี้ ซึ่งมีหัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยงาน ปลัดอำเภอเจ้าหน้าที่อำเภอ พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผกก.สภ.สันกำแพง นายกิติศักดิ์ ปานะโปย หัวหน้าหน่วยป่าไม้ ที่รับผิดชอบในพื้นที่พร้อมชุดดับไฟป่าอาสาสมัคร ร่วมปกครองท้องถิ่นกำนันผู้ใหญ่บ้านทั้ง ๑๐ ตำบล ๑๐๐ หมู่บ้านและผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ช่วยกันไม่ให้เกิดไฟป่าหรือการเผาทุกชนิดตามจังหวัดกำเวลามาตั้งแต่วันที่ ๒๐ ก.พ.ถึง ๒๐ เม.ย. ให้เข้มงวดพบเห็นใครเผาป่าหรือที่โล่ง จับมาดำเนินคดีทันทีอย่างเด็ดขาด

ส่วนที่ อบต.ม่อนปิ่น นายศิริพงษ์ นำภา ปลัดอาวุโส อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ รักษาราชการแทนนายอำเภอฝาง เป็นประธานเปิดกิจกรรม Kick Off รณรงค์แก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า โดย อบต.ม่อนปิ่น ร่วมกับ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ สาขาฝาง อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก กองร้อยทหารม้าที่ 4 อบจ.เชียงใหม่ ส่วนราชการ และประชาชนในพิ้นที่จัดขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อม ในการปฏิบัติงานป้องกันแลแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า ในพื้นที่ ต.ม่อนปิ่น ช่วงวันที่ 20 กุมภาพันธ์-20เมษายน 2560 รณรงค์สร้างจิตสำนึกการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ตามแนวทางประชารัฐ ในการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า รวมทั้งตระหนักรู้ถึงโทษภัย ของหมอกควันไฟป่า ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน สังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ ของจังหวัดเชียงใหม่ และของประเทศ

โดย จัดกิจกรรม เดินและปั่นจักรยาน รณรงค์ แจกแผ่นพับประชาสัมพันธ์ เพื่อกระตุ้นสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนในพื้นที่ ตระหนักถึงปัญหาหมอกควันไฟป่า ไม่เผา ขยะ เศษใบไม้ เศษวัชพืช และในพื้นที่การเกษตร ในห้วง 60 วันห้ามเผาโดยเด็ดขาด

ร่วมแสดงความคิดเห็น