ยาบ้า 1 ล้านเม็ดข้ามฝั่ง ทหาร ตร สกัดจับได้ ทัพภาค3 สั่งปราบต่อ

บิ๊กลอต…….พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 แถลงข่าวจับกุม นายคมกริช ธนาวุฒิชัย นายกั๊ว แซ่ย่าง และ นายเฮ่อ แซ่ท่อ ชาวเขาเผ่าม้ง พร้อมของกลาง ยาบ้า 1 ล้านเม็ด เฮโรอีน 430 แท่ง (165 ก.ก.) ไอซ์ 89 กิโลกรัม ตามข่าว

ตำรวจภาค 5 แถลงข่าวยึดยาบ้า 1 ล้านเม็ดชาวเขาเผ่าม้ง หลังลำเลียงใส่รถกระบะเพื่อนำส่ง แฉขบวนการใหญ่อยู่ประเทศเพื่อนบ้าน กำชับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการให้ระวังตัวเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามเสริมเขี้ยวเล็บตลอดเวลา ด้านแม่ทัพภาค 3 เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวประชุมวางแผนสกัดกั้นขบวนการลำเลียงยาเสพติดผ่านชายแดนอย่างจริงจังต่อเนื่อง

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 23 ก.พ.60 ที่ตึกสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.พิทยา ศิริรักษ์ พล.ต.ต.สมสง่า ชรินทร์ พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง ปฏิบัติราชการ รอง ผบช.ภ. 5 และ พล.ต.ต.จารึก ลิ้มสุวรรณ ผบก.สส.ภ.5 ร่วมกับฝ่ายทหาร นำโดย พล.ท.ธนา จารุวัฒน์ แม่ทัพน้อยที่ 3 และ นายปวิณ ชํานิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายคมกริช ธนาวุฒิชัย อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 71 หมู่ที่ 8 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย นายกั๊ว แซ่ย่าง อายุ 26 ปี บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 8 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จว.เชียงราย นายเฮ่อ แซ่ท่อ อายุ 26 ปี บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 8 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จว.เชียงราย ทั้งหมดเป็นชาวเขาเผ่าม้ง พร้อมของกลาง ยาบ้า 1 ล้านเม็ด เฮโรอีน 430 แท่ง (165 ก.ก.) ไอซ์ 89 กิโลกรัม เหตุเกิด ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย. ต่อเนื่อง ต.สันทราย อ.แม่จัน จว.เชียงราย เมื่อวันที่ 23 ก.พ.2560

ทั้งนี้ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 ได้สะกดรอยติดตามขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่เครือข่ายในประเทศเพื่อนบ้านมานาน จนกระทั่งทราบว่า วันนี้ได้ขนย้ายยาเสพติดล็อตใหญ่ดังกล่าว ข้ามฝั่งมาแล้วจะลำเลียงส่งในพื้นที่ ใกล้เคียง ชุดจับกุมจังได้บุกชาร์จพร้อมขยายผลควบคุมตัวได้ทั้งหมด รวมพร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 10 เป้ ประมาณ 1 ล้านเม็ด และยาไอซ์ จำนวน 8 เป้และเฮโรอีน จำนวน 12 เป้ 430 ก้อน

พล.ต.ท.พูลทรัพย์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหาร ได้บูรณาการทำงานร่วมกันมาตลอด และต้องขอขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนที่ตั้งใจทำงานปราบปรามยาเสพติดจนได้บิ๊กล็อตในครั้งนี้ ซึ่งในการทำงานแต่ละครั้งตนได้กำชับให้ระมัดระวังตัวเนื่องจากคนร้ายมักจะขัดขืนต่อสู้มีอาวุธทุกครั้งที่จับกุม ดังนั้นเพื่อป้องกันการสูญเสียจึงมีการอบรมและซักซ้อมการทำงานอยู่ตลอดเวลา

ช่วงเช้าเวลา 09.00 น. วันที่ 24 ก.พ.60 ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติ โรงแรมดิเอ็มเพรส อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พลโทวิจักขฐ์ สิริพรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศอ.ปส.ชน.) ได้เป็นประธานในการจัดประชุมเพื่อรับฟังและติดตามสถานการณ์ การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนเหนือ ครั้งที่ 1/60 โดยมี นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด, พลโทธนา จารุวัต แม่ทัพน้อยที่ 3 ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศป.ปส.ชน.), พลตำรวจตรี ภาณุเดช บุญเรือง ปฏิบัติราชการแทน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ และคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ รวมถึงเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

โดยทาง พลโทวิจักขฐ์ สิริพรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศอ.ปส.ชน.) เปิดเผยว่า ในการจัดประชุมวันนี้เพื่อติดตามผลการปฏิบัติงานในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน เนื่องจากในช่วงระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมานั้นจะทราบกันดีว่ายาเสพติดที่ทะลักเข้ามาในพื้นที่ และได้มีการดำเนินการจับกุมได้นั้นมีจำนวนมาก หรือเป็นล็อตใหญ่ ซึ่งสังเกตุได้ว่าเป็นสิ่งที่ผิดปกติ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ทุกครั้งที่ผ่านมา ถือเป็นการบูรณาการด้านการข่าวของทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นของ ตำรวจ ทหาร หรอ ปปส. และแสดงให้เห็นว่าความต้องการในการใช้ยาเสพติดในประเทศไทยยังคงมีสูงอยู่ รวมทั้งรายได้ในการขนก็เป็นสิ่งจูงใจให้นักขนหน้าใหม่ หรือในกลุ่มของชนเผ่า กล้าที่จะลักลอบขนเข้ามาในปริมาณที่มีจำนวนมาก อย่างเช่นการจับกุมครั้งล่าสุด จะเห็นได้ว่ายาเสพติดที่จับกุมได้นั้นเป็นล็อตใหญ่ยาบ้าประมาณ 1 ล้านเม็ด เฮโลอีนเกือบ 200 กิโลกรัม และไอซ์อีกประมาณเกือบ 100 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเป็นการดำเนินการด้านการข่าวที่เกิดประสิทธิผล ดังนั้นจึงได้นำเอาตัวอย่างในช่วงที่ผ่านมา มาเป็นประเด็นในการประชุมพูดคุยกันในวันนี้ เพื่อกำหนดมาตรการในการควบคุม หรือมาตรการด้านการข่าวที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สำหรับสถานการณ์ยาเสพติดในระยะนี้พบว่าในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งหลังจากที่ทางท่านผู้บัญชาการทหารบกได้มีการพูดคุยกับทางท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุดของพม่า ได้มีการตกลงกันไว้ว่าจะมีการร่วมมือกันในการปราบปราม โดยในการพูดคุยในครั้งนั้นมีประเด็นสำคัญเกี่ยวข้องกับพื้นที่ภาคเหนืออยู่ 2 ประเด็นใหญ่ๆ คือ ร่วมกันสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดทั้ง 2 ฝ่าย และอีกประเด็นคือการร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ฉะนั้นผลจากการพูดคุยกันของทางผู้ใหญ่ก็ส่งมาถึงการปฏิบัติโดยมีความร่วมมือระหว่าง ปปส. ตำรวจภูธรภาค 5 และ ภาค 6 และทาง ศอ.ปส.ชน. แล้วจึงเกิดเป็นผลงานขึ้นมาหลายๆ ประการหลังจากได้มีการพูดคุยกับผู้นำของพม่ามาแล้ว ฉะนั้นทางตนได้คาดเดาไว้ว่าทางประเทศเพื่อนบ้านคงได้มีการกดดันชนกลุ่มน้อยจึงทำให้ต้องมีการเร่งระบายยาเสพติดออกมา ที่ปัจจุบันทราบโดยทั่วไปแล้วว่าจะจออยู่ตามตะเข็บชายแดนไทยค่อนข้างมาก

อย่างไรก็ตามจากการคาดหมายของทางเจ้าหน้าที่ขณะนี้คาดว่าน่าจะมียาบ้าไม่ต่ำกว่า 500 ล้านเม็ด ที่กำลังจ่อเข้ามาในพื้นที่ โดยจะสังเกตุได้ว่าจากลักษณะของหีบห่อของเฮโรอีนกับไอซ์นั้นไม่น่าที่จะนำมาใช้ในประเทศไทย เนื่องจากมีการแพ็คสำหรับการส่งออกข้ามแดน ซึ่งน่าจะนำไปใช้ในประเทศโซนอื่นๆ แต่ในส่วนของยาบ้านั้นยังเป็นยาเสพติดยอดนิยมของวัยรุ่นไทย หรือคนไทยอยู่ ส่วนไอซ์กับเฮโลอีนนั้นน่าจะมีการลักลอบนำเข้ามาแล้วผ่านส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ที่มีความต้องการอยู่ ซึ่งในการประชุมวันนี้ก็จะมีการพูดคุยกันถึงมาตรการเสริมว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร รวมทั้งประเด็นในเรื่องของมาตรการการข่าวที่ได้ผลมาแล้ว จะทำอย่างไรให้ได้ผลมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และอีกประเด็นคือ จะบูรณาการประสานงานด้านการปราบปรามกันอย่างไรที่จะไม่ให้สิ่งของผิดกฎหมายเหล่านี้ทะลักเข้าไปในเขตภายในมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนเหนือ พบว่า แหล่งผลิตยาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้าน ยังคงมีการผลิตยาเสพติดประเภทยาบ้า, ไอซ์ และเฮโรอีน ได้เป็นจำนวนมากเพราะสารเคมีที่ใช้เป็นสารตั้งต้นส่งเข้าไปอย่างต่อเนื่อง และยังตรวจพบว่าปี 60 มีพื้นที่ปลูกฝิ่นเพิ่มขึ้น การลักลอบโดยกลุ่มชนเผ่าที่อยู่ตามแนวชายแดน ยังเป็นกลุ่มลำเลียงเข้าเขตไทยเป็นหลัก แม้ว่าในปัจจุบันยาเสพติดจากแหล่งผลิตจะมีทิศทางไปทางตะวันออกเพิ่มขึ้น แต่ปริมาณยาเสพติดที่เข้าทางภาคเหนือยังคงมีอยู่จำนวนมาก เพราะกลุ่มขบวนการสามารถผลิตได้ตามต้องการของผู้เสพ และ แนวโน้มสถานการณ์ยาเสพติดคาดว่าแหล่งผลิตในประเทศเพื่อนบ้าน จะผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อทดแทนยาเสพติดที่ เจ้าหน้าที่จับกุมได้เป็นจำนวนมาก พื้นที่การลักลอบลำเลียงเข้าเขตไทยที่สำคัญบริเวณอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ตลอดแนวไปถึงอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายและบริเวณท่าข้ามในลำน้ำแม่โขง

ทั้งนี้ที่ผ่านมา ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ ควบคุมอำนวยการ ประสานงานให้หน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน, จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย ห้วงตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2559 ถึง เดือนมกราคม 2560 สรุปผลการปฏิบัติงานที่สำคัญ คือ การป้องกัน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มีการจัดระเบียบสังคมควบคุมพื้นที่เสี่ยง จำนวน 285 ครั้ง สั่งปิดสถานประกอบการ จำนวน 7 แห่ง และ ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ประกาศรับรอง “ครัวเรือนสีขาว ปลอดยาเสพติด” จำนวน 2,080 ครัวเรือน นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินการเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่บ้านห้วยส้าน เนื่องจากกรณีที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกุม นายเล่าต๋า แสนลี่ พร้อมพวกตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2559 ที่ปั้มน้ำมันบ้านห้วยส้าน หมู่ 10 ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ นั้น ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ได้ร่วมกันจัดกำลังเข้าปิดล้อม ตรวจค้น ยึดทรัพย์ กดดัน สลายอิทธิพลของกลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติด ในหมู่บ้านห้วยส้าน และใกล้เคียง เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่ ปัจจุบันราษฎรเริ่มหันมาให้ความร่วมมือกับฝ่ายรัฐมากขึ้น แต่การปฏิบัติร่วมกันทั้ง 3 ฝ่ายต้องดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อขจัดอิทธิพลของกลุ่มเครือข่ายให้หมดสิ้นพร้อมกับสร้างหมู่บ้านห้วยส้านให้เป็นชุมชนเข้มแข็งต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น