พรรคพวกที่ลงทุน ลงแรง ทำการเกษตร ตามกระแส “พืชเศรษฐกิจ” เริ่มออกอาการ ระรวยไปกับความแปรปรวนของธรรมชาติ แล้งหนัก ก็กระหน่ำน้ำบาดาลเข้าสวน
บางเวลา….ลมกรรโชกแรง ทั้งดอก ทั้งสวนฯ ระเนระนาด
จะตั้งใจรวมสูตร ในฤดูหรือนอกฤดูกาล แม้กระทั่ง เกษตรพันธะสัญญา ดูเหมือนชีวิตชาวสวน ชาวไร่ เกษตรกร จะไม่แตกต่างกันมากนัก
ภัยธรรมชาติเป็นบทเรียนพื้นๆ ให้ระแวดระวังป้องกันแก้ไข พอๆ กับตลาดที่วาดหวังว่าจะดีขึ้นในทุกยุคสมัย
สุดท้ายก็มา “จุก-อก” เช่นที่เคยเป็นมา สมการต้นทุนการผลิตพืชไร่ ว่ากันตั้งแต่ข้าว, กระเทียม, ลำไย, ลิ้นจี่, หอมใหญ่, หอมแดงหรือยางพารา
ไม่เคยมีฤดูกาลไหนๆ ที่ล้ง? และพ่อค้าคนกลาง?!!จะไม่อิ่มอ้วนกันถ้วนหน้า ไม่นับรวมธุรกิจค้าขายสารเร่ง สารพัดสารฯ เพื่อเพิ่มผลผลิต และบรรดาเมล็ดพันธุ์คุณภาพ
ญาติที่บึงนาราง โพธิ์ทะเล พิจิตร ชาวถิ่นลุ่มน้ำยม แม้จะตระหนักในคำเตือน ขอความร่วมมืองดปลูกข้าวนาปรัง หันมาปลูกฟักแฟง แตงกวา ถั่วหรือพืชที่ใช้น้ำน้อย ตัดใจวัดดวงเผื่อฟ้าฝนหลงฤดูหรือตั้งท่าตะบันน้ำบาดาลมาหล่อเลี้ยงแปลงปลูก
ทุกมาตรการที่ร่วมประชาคม ตั้งแต่ขอความร่วมมือ รวมกลุ่ม ผลิตแบบแปลงใหญ่ ร่วมลดทุนผลิต ประเมินภาวะสินค้า ผลผลิต ไม่ให้ล้นตลาดจนราคาร่วง..จอดสนิท
ผมเชื่อว่า..ท้ายที่สุดพ่อแม่พี่น้อง ชาวสวน ชาวไร่ ลองมาทุกสูตร
สุดท้ายก็เข้าหาทางธรรม “อัตฺตาหิ อตฺโน นาโถ..ๆๆๆ..ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” นั่นแล
ดิ๊ก ชาวไทย
[email protected]
ร่วมแสดงความคิดเห็น