คณะสงฆ์เชียงใหม่ ขอบิณฑบาตร กรณีวัดธรรมกาย ห่วงกระทบความรู้สึก ของผู้นับถือศาสนา ผวจ.รับหนังสือไว้ เสนอไปยัง ”นายกฯ”

ห่วงผลกระทบ…………..พระเทพมังคลาจารย์ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์และพุทธศาสนิกชน ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่าน นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ เพื่อขอบิณฑบาตยกเลิกการใช้มาตรา 44 กับวัดพระธรรมกาย ห่วงการใช้กำลังจะส่งผลกระทบต่อพระพุทธศาสนา

ห่วงผลกระทบต่อความรู้สึกที่ไม่ดีต่อศาสนาพุทธและสายตาของอารยชนผู้นับถือพระพุทธศาสนา คณะสงฆ์ในพื้นที่เชียงใหม่ขอบิณฑบาตนายกรัฐมนตรียกเลิกการใช้กำลังกับวัดพระธรรมกาย ส่งหนังสือ 2 ฉบับกับมือ ผวจ.เชียงใหม่ ตรงถึง “พล.อ.ประยุทธ์” ย้ำคำสอนที่เป็นไปเพื่อสันติและความสงบสุขทำให้ศาสนาพุทธยืนยาวมาจนถึงปัจจุบัน ขอให้หาทางออกอย่างสันติวิธีเข้ามาดำเนินการกับวัดพระธรรมกาย ชี้ค้นวัดพระธรรมกาย แต่ก็ไม่พบบุคคลตามหมายจับหรือสิ่งผิดกฎหมาย กลับส่งผลกระทบต่อความรู้สึกที่ไม่ดีต่อศาสนาพุทธ

เมื่อวันที่ 24 ก.พ.60 ที่ลานหน้ามุขอาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ พระเทพมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดท่าตอน รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์และพุทธศาสนิกชน ได้มายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่าน นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอบิณฑบาตยกเลิกการใช้มาตรา 44 กับวัดพระธรรมกาย โดยก่อนจะรับมอบหนังสือพระเทพมังคลาจารย์ได้มอบส้มที่นำมาเป็นของฝากให้กับ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

พระเทพมังคลาจารย์ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ที่มาครั้งนี้เพื่อขอให้ ผวจ.เชียงใหม่ นำส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอบิณฑบาตยกเลิกการใช้มาตรา 44 กับวัดพระธรรมกาย ในฐานะที่เป็นชาวพุทธเหมือนกัน เนื่องจากพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่บรรพชนสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน เพราะเห็นคุณค่าของคำสอนที่เป็นไปเพื่อสันติและความสงบสุขของคนในชาติ ซึ่งการใช้ ม.44 บังคับใช้กับวัดและพระพุทธศาสนาที่ปรากฏต่อสาธารณชนในขณะนี้ เป็นที่น่าสลดใจแก่ผู้นับถือพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง

“ในฐานะคณะสงฆ์และชาวพุทธจังหวัดเชียงใหม่ จึงอยากขอให้นายกรัฐมนตรียกเลิกการบังคับใช้ ม.44 ที่ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกที่ไม่ดีต่อศาสนาพุทธและสายตาของอารยชนผู้นับถือพระพุทธศาสนา ที่เป็นศาสนาของบรรพชนและใช้วิธีการสร้างสันติในการแก้ไขปัญหาที่ละมุนละม่อมมากกว่านี้กับชาวพุทธและพระพุทธศาสนา” พระเทพมังคลาจารย์ กล่าว

หลังจาก ผวจ.เชียงใหม่ รับมอบหนังสือแล้วทางคณะสงฆ์และศรัทธาประชาชนได้กล่าวคำ สาธุ 3 ครั้ง ก่อนเดินทางกลับทันที ขณะเดียวกันพระครูอมรธรรมทัต เจ้าอาวาสวัดพันอ้น ประธานศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีขอบิณฑบาตยกเลิกการใช้ ม.44 กับวัดพระธรรมกายเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้หนังสือขอเจริญพรบิณฑบาตยกเลิก ม.44 ซึ่งเจริญพรโดย พระเทพมังคลาจารย์ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่บรรพชนนับถือสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน เพราะเห็นถึงคุณค่าของคำสอนที่เป็นไปเพื่อสันติและความสงบสุขของคนในชาติ ด้วยเหตุการณ์การบังคับใช้ ม.44 กับวัดและพระพุทธศาสนาที่ปรากฏต่อสาธารณชนในขณะนี้ เป็นที่น่าสลดใจแก่ผู้นับถือพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง

ในฐานะคณะสงฆ์และชาวพุทธจังหวัดเชียงใหม่ จึงความประสงค์จะขอเจริญพรมายังนายกรัฐมนตรีในฐานะชาวพุทธเหมือนกัน ขอให้งดใช้ ม.44 อันส่งผลกระทบต่อความรู้สึกที่ไม่ดีต่อศาสนาพุทธเหมือนกัน ขอให้งดใช้ ม.44 อันส่งผลกระทบต่อความรู้สึกที่ไม่ดีต่อศาสนาพุทธและสายตาของอารยชนผู้นับถือพระพุทธศาสนา อันเป็นศาสนาของบรรพชน และใช้วิธีการที่สร้างสันติในการแก้ไขปัญหาที่ละมุนละม่อมกว่านี้กับชาวพุทธและพระพุทธศาสนา

สำหรับหนังสือขอบิณฑบาตยกเลิการใช้มาตรา 44 กับวัดพระธรรมกาย ของศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเจริญพรโดย พระครูอมรธรรมทัต เจ้าอาวาสวัดพันอ้น ประธานศูนย์ฯ ระบุว่า เนื่องด้วยอาตมภาพได้ติดตามรับฟังข่าวสารเหตุการณ์วัดพระธรรมกายผ่านสื่อต่างๆ ที่ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษมีหมายเรียกครั้งที่ 1 ไปถึงพระเทพญาณมหามนี เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ให้ไปชี้แจงข้อกล่าวหาเกี่ยวกับคดีสหกรณ์เครติดยูเนียน กระทั่งแปรเปลี่ยนมาเป็นหมายจับและการใช้บังคับมาตรา 44 เพื่อตรวจค้นวัดพระธรรมกาย แต่ก็ไม่พบบุคคลตามหมายจับหรือสิ่งผิดกฎหมาย การนำกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมากเข้าปิดล้อมและตรวจค้นเป็นเหตุให้เกิดการปะกันระหว่างสองฝ่าย อาตมภาพรู้สึกเป็นห่วงต่อความปลอดภัยของบ้านเมืองและภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาของชาวโลก

อาตมภาพในนามศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ ใคร่ขอความเมตตาท่านนายกรัฐมนตรี ยกเลิกการบังคับใช้มาตรา 44 กับวัดพระธรรมกาย แล้วใช้วิธีเจรจาพูดคุยหาทางออกอย่างสันติวิธี เพื่อประคองรักษาพระพุทธศาสนาที่บรรพบุรุษต่างหวงแหนสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน และเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของประเทศไทยที่อาจมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นไม่พึงปรารถนา จนเป็นเหตุให้สังคมโลกมองประเทศไทยในทางลบได้

ร่วมแสดงความคิดเห็น