เดินหน้า กวาดจับ ยาเสพติด

กวาดล้าง………เจ้าหน้าที่ ชป.ร้อย.รส.ที่ 1 ร้อย มทบ.33 ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ นำกำลังปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดและเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายในพื้นที่ อ.ดอยหล่อ สามารถจับกุมผู้ต้องหา พร้อมของกลางยาเสพติดและอาวุธปืน

ทหาร ตำรวจ พร้อมฝ่ายปกครอง อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ สนธิกำลังปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด เข้าดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมายในพื้นที่ จับกุมผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ทั้งยาเสพติดและอาวุธปืน ที่เมืองแพร่แถลงผลการปฏิบัติงานการจับกุมผู้ต้องหายาเสพติด 17,823 เม็ด ผู้ต้องหา 4 ราย

ปฏิบัติการบุกปิดล้อมตรวจค้นกวาดล้างยาเสพติดครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้ามืดเวลาประมาณ 05.30 น. วันที่ 27 ก.พ.60 โดยทางชุดเจ้าหน้าที่ ชป.ร้อย.รส.ที่ 1 ร้อย มทบ.33 ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ นำโดย พ.ต.ท.สมดุลย์ ไวยรักษ์ สารวัตรสืบสวน สภ.ดอยหล่อ และ พ.ต.สุทัศน์ ญาณเครื่อง พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันบูรณากรสนธิกำลังออกตรวจสอบ บุคคลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และปฏิบัติการกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ตามนโยบายของรัฐบาล โดยในการปฏิบัติการครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดของกลางทั้งยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายหลายรายการ พร้อมทั้งนำส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก ทางเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้สืบทราบมาว่า ในพื้นที่ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ มีกลุ่มนักค้ายาเสพติดและการแพร่ระบาดรวมทั้งปัญหาอาชญากรรมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดันนั้นจึงได้มีการจัดประชุมและวางแผนการบูรณาการในการกวาดล้างอาชญากรรมและยาเสพติดในพื้นที่ และได้จัดกำลังเข้าปฏิบัติการในวันนี้ โดยมีการแบ่งพื้นที่เป้าหมายทั้งหมด 5 จุด ผลการปฎิบัติ เป้าหมายที่ 1 ไม่พบบุคคลตามหมาย และไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ส่วน เป้าหมายที่ 2 พบ นาย สาคร แก้วสุภา บ้านเลขที่ 82/1 ม.6 ต.ยางคราม อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ตรวจปัสสาวะมีสีม่วง ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายในบ้าน และ เป้าหมายที่ 3 พบ นายเจษฎา อุตวงศ์ อายุ33 ปี บ้านเลขที่ 115/3 ม.14 ต.น้ำดิบ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน พบอุปกรณ์เสพ และตรวจปัสสาวะมีสีม่วง ส่วน เป้าหมายที่ 4 ไม่พบบุคคลตามหมาย และไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย และ เป้าหมายที่ 5 พบ นายสุพจน์ สุวรรณรัมย์ อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 388 หมู่10 ต.ดอยหล่อ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ พบของกลาง ยาบ้าสีส้ม จำนวน 198 เม็ด เงินสด 4,190 บาท อาวุธปืน ขนาด .38 ไม่มีทะเบียน 1 กระบอก และเครื่องกระสุน 6 นัด จึงได้ควบคุมตัวและของกลางส่งดำเนินคดี

โดยจากการสอบสวน นายสุพจน์ สุวรรณรัมย์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ตรวจค้นพบของกลางยาสเพติดและสิ่งผิดกำหมายในเป้าหมายที่ 5 ให้การรับสารภาพว่า ของกลางทั้งหมดที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดได้ในที่เกิดเหตุนั้นเป็นของตนจริง โดยยาบ้าทั้งหมดได้นำมาลักลอบจำหน่ายให้กับกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มผู้เสพในพื้นที่และบางส่วนก็ได้เก็บไว้เสพเอง และรับว่าได้รับของกลางยาบ้ามาจากชาวเขาไม่ทราบชื่อโดยการติดต่อนัดแลกของกัน แล้วจึงนำมาขายต่อ จนกระทั่งถูกทางเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าบุกค้นและจับกุมตัวได้ในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ภายหลังการปฏิบัติการในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้กระทำผิดทั้งหมด พร้อมของกลางส่งให้กับทาง พนักงานสอบสวน สภ.ดอยหล่อ เพื่อดำเนินคดี พร้อมทั้งจะได้ดำเนินการสืบสวนติดตามกลุ่มขบวนการผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังเพื่อทำการจับกุมและนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ส่วนที่ จ.แพร่ เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองแพร่ พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ พร้อมด้วย พ.ต.อ. อักษร วงศ์ใหญ่ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ พ.ต.อ. ชลทฤษ ชัชวาล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองแพร่ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมยาเสพติดเป็นยาบ้ารวมกัน 17,823 เม็ด รถจักรยานยนต์ Ducati สีแดง 1 คัน ราคาประมาณ 325,000 บาท รถจักรยานยนต์ MSX ทะเบียน 1 กข 4490 แพร่ 1 คัน ราคาประมาณ 60,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองแพร่ได้ล้อซื้อยาบ้า จำนวน 1 มัด หรือ 2,000 เม็ด จากนายเรวัตร หรือเจมส์ ปัญญาใจ โดยนัดหมายส่งยาริมถนนสายแพร่-ลอง หมู่ 7 ตำบลป่าแมต อำเภอเมืองแพร่ เมื่อไปถึงที่นัดหมาย นายเจมส์ได้มอบให้นายษมาวีร์ หรือแฟ๊งค์ เทพยศ ยืนถือยาบ้ารออยู่ริมถนน เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมพร้อมของกลาง

จากนั้นจึงนำตัวนายแฟ๊งค์ไปยังบ้านเลขที่ 169 หมู่ 7 ตำบลป่าแมต พบนายเจมส์ อยู่บ้านดังกล่าวจึงเข้าจับกุมตัว ค้นในบ้านพบยาบ้าอีก 7 มัด หรือประมาณ 17,000 เม็ด กับอีก 9 ถุง ประมาณ 1,800 เม็ด จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน นอกจากนี้ยังจับกุมนายบริรักษ์ หรือ ใต้ บุญขวัญ พร้อมของกลางยาบ้า 18 เม็ด ที่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 8 ตำบลป่าแมต และนายพชร หรือป๊อบ ยิ้มศิริ บ้านเลขที่ 48/3 ถนนพระนอนเหนือ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่ ยาบ้า 5 เม็ด

พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีนโยบายให้จับกุมผู้ค้า ผู้เสพรายย่อยแล้วขยายผลไปยังผู้ค้ารายใหญ่ และให้มีมาตรการยึดทรัพย์ เพราะผู้ต้องหาปัจจุบันไม่กลัวติดคุก แต่เมื่อใช้มาตรการยึดทรัพย์แล้วเขาก็จะไม่เหลืออะไร

ร่วมแสดงความคิดเห็น