สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา แนะสถานศึกษา ศูนย์เด็กเล็ก ตรวจคัดกรองเด็กทุกเช้า ตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค เพื่อเฝ้าระวังโรคติดต่อในโรงเรียน โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ โรคมือ เท้า ปาก และโรคสุกใส ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ หากพบเด็กป่วยให้แจ้งผู้ปกครองมารับและนำเด็กไปรักษาตัวจนกว่าจะหายเป็นปกติ เพื่อป้องกันการระบาดและลดการแพร่กระจายเชื้อ
นายแพทย์ขจร วินัยพานิช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพะเยา กล่าวว่า สถานศึกษา ศูนย์พัฒนาเด็ก เป็นแหล่งที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมากทำให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อโรคได้ง่าย โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ โรคมือ เท้า ปาก และโรคสุกใส จากข้อมูลการเฝ้าระวังผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ (ILI) จังหวัดพะเยา พบมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ของอำเภอจุนและดอกคำใต้ ที่มีสัดส่วนของผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ มากกว่าร้อยละ 5 และจากการเฝ้าระวังโรค จังหวัดพะเยา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 11 กุมภาพันธ์ 2560 โรคไข้หวัดใหญ่ มีผู้ป่วย 100 ราย ไม่มีผู้เสียเสียชีวิต โรคมือ เท้า ปาก ป่วย 47 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต โรคสุกใส ป่วย 112 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต
พบว่า กลุ่มอายุที่มีอัตราป่วยสูงสุดคือ เด็กแรกเกิด – 4 ปี รองลงมาอายุ 5-14 ปี จะเห็นได้ว่าผู้ป่วยสามกลุ่มโรคนี้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กเล็กและเด็กวัยเรียน
ทั้งนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา ขอแนะนำมาตรการในการป้องกันควบคุมโรคติดต่อในโรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ โรคมือ เท้า ปาก และโรคสุกใส ซึ่งช่วงที่พบผู้ป่วยหลายราย ต้องเน้นการสกัดกั้นการแพร่กระจายของเชื้อ จึงขอความร่วมมือสถานศึกษา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ดำเนินการอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เพื่อให้การป้องกันควบคุมโรคเกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยปฏิบัติ ดังนี้ 1.มีระบบคัดกรองเด็กทุกเช้าก่อนเข้าเรียน หากพบเด็กป่วยให้แยกออกจากบุคคลอื่น เช่น ให้หยุดเรียน และให้พักผ่อนอยู่กับบ้าน หรือหากเกิดการระบาดในสถานที่ที่มีคนอาศัยอยู่จำนวนมาก เช่น โรงเรียนประจำ ควรจัดที่พักของผู้ป่วยแยกจากบุคคลอื่นๆออกมา และแจ้งผู้ปกครองมารับเด็กกลับและให้พักฟื้นจนกว่าจะหายเป็นปกติ 2.สอนให้เด็กล้างมือบ่อยๆ และจัดให้มีจุดล้างมือ พร้อมสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล รวมถึงทำความสะอาดอุปกรณ์ที่เป็นส่วนรวมเป็นประจำ 3.หากพบเด็กป่วยเป็นจำนวนมาก ควรพิจารณาปิดสถานศึกษา หรือศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เพื่อชะลอการระบาดและการแพร่กระจายเชื้อ และ 4.ให้ความรู้และคำแนะนำเกี่ยวกับโรคแก่นักเรียนและผู้ปกครอง
ร่วมแสดงความคิดเห็น