“ปวิณ” ลงพื้นที่ จี้แก้ปัญหาไฟป่าหมอกควัน สั่งไม่ให้แบ่งพื้นที่ แยกอำเภอทำงาน

เชียงใหม่ ปรับแผนป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า จัดชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ เน้นย้ำ สร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือ สลายเส้นแบ่งเขตอำเภอ ให้ยึดถือเป้าหมายเดียวกัน เพื่อการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาของจังหวัดเชียงใหม่ พ่อเมืองเชียงใหม่ ห่วงหมอกควันข้ามแดนจากพื้นที่ใกล้เคียง เข้ามาสร้างปัญหาในพื้นที่เชียงใหม่

วันที่ 7 มีนาคม 2560 นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ติดตามปัญหาหมอกควันและไฟป่า ในพื้นที่อำเภอแม่ออน และอำเภอดอยสะเก็ด เพื่อรับทราบปัญหาการปฏิบัติงานของ ศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ระดับอำเภอ จากการวิเคราะห์สถานการณ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าพื้นที่ทางตอนใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ อำเภอแม่ออน, ดอยสะเก็ด , ดอยเต่า, ฮอด และจอมทอง พบจุด Hotspot บ่อยขึ้น และเกิดในพื้นที่เดิมหรือใกล้เคียงซ้ำซาก จากลักษณะภูมิประเทศล้อมรอบด้วยป่าไม้ ภูเขา คิดเป็นร้อยละ 82.94 ของพื้นที่ทั้งหมด จังหวัดจึงมีการปรับแผนการดำเนินงานไปตามสถานการณ์ตลอดเวลา โดยให้หน่วยลาดตระเวน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น เน้นการป้องกันและสร้างความเข้าใจแก่คนในพื้นที่เป็นหลัก ในช่วง 60 วันห้ามเผา

นายปวิณ กล่าวว่า หากเกิดไฟป่าขึ้น ให้อำเภอใกล้เคียงและทุกหน่วย บูรณาการสนธิกำลังเข้าดับโดยเร็ว โดยไม่มีเส้นแบ่งอำเภอ ให้ถือเป็นภารกิจร่วมกันของจังหวัดเชียงใหม่ ที่จะต้องประสานงานช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยยึดเป้าหมายเดียวกันในการลดพื้นที่เผาไหม้ในช่วง ประกาศ 60 ห้ามเผา, ควบคุมคุณภาพอากาศ ค่า PM10 ไม่ให้เกิดค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ ลูกบาศก์เมตร และไม่กระทบต่อการขึ้นลงของเครื่องบิน เนื่องจาก จังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยว และมีรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลัก แม้ขณะนี้ค่า PM10 ของจังหวัดเชียงใหม่ จากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศทั้ง 4 สถานี ยังไม่เกินค่ามาตรฐาน แต่เป็นห่วงว่าทิศทางของลมที่พัดเขามาจะนำหมอกควันจากพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามา ทำให้เกิดปัญหาในจังหวัดเชียงใหม่ ได้เช่นกัน

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ได้มีหนังสือขอความร่วมมืออำเภอ องค์กรปกครองท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ที่มีโครงการก่อสร้าง ขอให้ผู้ประกอบการได้มีการสเปรย์น้ำลดฝุ่นละออง รวมถึงการฉีดพ่นน้ำตามถนนหนทาง ที่เป็นสาเหตุของการเกิดฝุ่น รวมถึงประชาชน หรือ ท้องถิ่นใดที่ต้องใช้น้ำรดต้นไม้อยู่แล้ว ให้ปรับมาเป็นการใช้สเปรย์น้ำ ให้เกิดละอองฝอย เพื่อเพิ่มความชุมชื้นในอากาศและดักจับฝุ่นละอองอีกทางหนึ่ง

“อยากจะฝากให้พี่น้องชาวจังหวัดเชียงใหม่ทุกคน ช่วยกันรณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า เพราะไม้ขีดก้านเดียว ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากมาย ทั้งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน คนในครอบครัว การป้องกันและแก้ไขปัญหาคนเชียงใหม่ จะต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง ขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่ มีทีมดับไฟทุกอำเภอก็จริง แต่ยังขาดอุปกรณ์ดับไฟ อาหาร เครื่องดื่ม และสิ่งจำเป็นอื่นๆ ที่เข้าไปดับในพื้นที่ป่าเขาสูงชัน จึงอยากจะขอเชิญชวนชาวเชียงใหม่ ที่มีจิตศรัทธาจะสนับสนุนเป็นเงิน หรือ สิ่งของในการช่วยเหลือทีมงานดับไฟป่า เพื่อเป็นกำลังใจให้กับคนทำงาน สามารถแจ้งเข้ามาได้ตลอด ทั้งในระดับจังหวัดและอำเภอ เพื่อแก้ไขปัญหาของจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกัน” นายปวิณกล่าว

ส่วนกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ไฟส่วนใหญ่มักจะไหม้ในพื้นที่เขตป่าสงวน และป่าอนุรักษ์ โดยมองว่าเจ้าหน้าที่เผาเพื่อของบประมาณนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากหน่วยงานรับผิดชอบทุกหน่วย ทุกพื้นที่ถูกสั่งการ และกำชับ รวมถึงได้มีการคาดโทษ จากกรมป่าไม้ ให้ดูแลพื้นที่ ให้เกิดการเผาไหม้น้อยที่สุดในช่วงควบคุม ส่วนหนึ่งจังหวัดเองก็ได้มีงบประมาณ ในการลาดตระเวน จากงบประมาณยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด งบกลางที่ทางจังหวัดได้ขอทาง กรมควบคุมมลพิษ เข้าไปสนับสนุนเบื้องต้นแล้ว จึงเชื่อว่าคนที่เผาอาจเป็นคนที่มีเจตนาอย่างอื่นมากกว่า

ร่วมแสดงความคิดเห็น