สกุ๊ปหน้า1…พัฒนาเครือข่าย อส.เฝ้าระวังไฟป่า

กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เดินหน้าจัดกิจกรรมพัฒนาเครือข่ายอาสาสมัครเฝ้าระวังไฟป่า ลดหมอกควัน ณ โรงเรียนวัดสิงห์คำ ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หนุนเครือข่ายอาสาสมัคร จากหน่วยงานทุกภาคส่วนร่วมแก้ไขปัญหาไฟป่า มลพิษหมอกควัน และลดขยะในพื้นที่ดอยสุเทพ–ปุย และพื้นที่โดยรอบ ด้วยหลัก “ประชารัฐร่วมใจ” โดยมี นายสากล ฐินะกุล อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน ซึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นวันนี้มีประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นักเรียน นักศึกษา และราษฎรในพื้นที่เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

โดยทาง นายสากล ฐินะกุล อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จากสถานการณ์ไฟป่า และปัญหาหมอกควันในเขตพื้นที่ภาคเหนือนของประเทศ ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่มีความรุนแรงละเกิดถี่ขึ้นในทุกปี ในช่วงหน้าแล้ง โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของภาคเหนือ เป็นจังวัดที่ได้รับผลกระทบ โดยตรงจากการเกิดปัญหาไฟป่า หมอกควัน และปัญหาขยะติดค้าง ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร นักท่องเที่ยว และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เช่น การใช้ยานพาหนะเดินทางและขนส่ง การเผาขยะมูลฝอยเศษวัสดุเหลือใช้ในครัวเรือน พื้นที่สาธารณะ และพื้นที่ภาคเกษตรที่ผิดวิธี ซึ่งก่อไห้เกิดมลพิษทางอากาศ และเกิดผลเสียไปถึงสุขอนามัยของประชาชน ระบบ นิเวศ และวิถีชีวิตความเป็นอยู่เศรษฐกิจและการท่องเที่ยว รวมไปถึงการขัดแย้งทางสังคม รัฐบาลโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบาย และทิศทางการขับเคลื่อนประเทศไทยตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาสู่ ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน” โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางในการดำเนินงาน เพื่อมุ่งสู่ “การเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ซึ่งมีประเด็นสำคัญในการดำเนินงานหลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่ายิ่งในเรื่อง การสร้างวินัยคนในชาติมุ่งสู่การจัดการขยะและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนโดยมุ่งเน้นการจัดการขยะ ต้นทาง/การเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมืองละชุมชน โดยอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการร่วมฟื้นฟูฐานทรัพยากรและประสานพลังประชารัฐสู่การปฏิบัติในพื้นที่

โดยพลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้สนอง ต่อนโยบายรัฐบาล และได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องร่วมกันส่งเสริมการบูรณาการความร่วมมือและสร้างเครือข่ายอาสาสมัครโดยการประสานพลังประชารัฐ รวมทั้งสร้างความตระหนักถึงปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและ หมอกควัน รวมถึงปัญหาขยะ ให้สอดคล้องกับมาตรการของรัฐบาล ตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน ปี 2560 ซึ่งมี 7 มาตรา ได้แก่ 1 การใช้ระบบ Single Command ในการบริหารจัดการ 2.จัดการ เชื้อเพลิงและบริหารจัดการพื้นที่เสี่ยงเพื่อลดการเผา 3.ห้ามเผาอย่างเด็ดขาดในช่วงวิกฤต 4.ระดมสรรพกำลัง ลาดตระเวน เฝ้าระวัง และดับไฟ เพื่อป้องกันการลุกลามของไฟและการเกิดหมอกควันรุนแรง 5. สนับสนุนให้เกิดการ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การเพาะปลูก และลดการเผาเศษวัสดุภาคเกษตร 6.ส่งเสริมกลไกประชารัฐและการมีส่วนร่วม ของภาคเครือข่ายในการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ 7.สื่อสารประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้เข้าถึงพื้นที่เสี่ยงภัยและชุมชนเป้าหมาย และมาตรการในการจัดการขยะมูลฝอย ซึ่งมีแนวคิดในการลดการเกิดขยะมูลฝอยหรือของเสีย อันตรายที่แหล่งกำเนิด การนำของเสียกลับมาใช้ซ้ำและใช้ประโยชน์ใหม่ ตามหลักการ 3Rs (Reduce, Reuse, Recycle) เพื่อให้เกิดการจัดการขยะมูลฝอยอย่างยั่งยืน รวมทั้งการสร้าง ความรับผิดชอบและการมีส่วนร่วมของทุก ภาคส่วนในการจัดการขยะมูลฝอยและของเสีย อันตราย

นายสากล ฐินะกุล อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวต่อว่า กรมส่งเสริมคุณภาพ สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการสร้างจิตสำนึกส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ และส่งเสริมการมีส่วนร่วม ของประชาชนในการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมของประเทศ จึงได้คัดเลือกพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และกำหนดให้พื้นที่ดอยสุเทพ–ปุย และพื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่ในการบูรณาการความร่วมมือเสริมสร้างเครือข่าย อาสาสมัคร เฝ้าระวังไฟป่า ลดหมอกควัน พร้อมทั้งสนับสนุนให้เครือข่ายอาสาสมัครเข้ามาเป็นกลไกในการขับเคลื่อนที่ สำคัญในการประสานความร่วมมือกับคนในชุมชนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยให้ความสำคัญกับพื้นที่บริเวณวัดพระธาตุดอยสุเทพและชุมชนบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออกเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดผลกระทบต่อ สภาพแวดล้อมในพื้นที่ โดยเฉพาะปัญหาในเรื่องของขยะ การเกิดไฟป่า และมลพิษหมอกควัน และเพื่อให้การ ดำเนินงานในการเสริมเสร้างเครือข่ายอาสาสมัคร เฝ้าระวังไฟป่า ลดหมอกควัน มีประสิทธิภาพและเกิดความต่อเนื่อง กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม จึงร่วมกับเครือข่ายความร่วมมือในพื้นที่ภาคเหนือ จัดกิจกรรม “พัฒนาเครือข่าย อาสาสมัครเฝ้าระวังไฟป่า ลดหมอกควัน พื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ–ปุย และพื้นที่โดยรอบ

โดยมีกิจกรรม ประกอบด้วย การประชุมเชิงปฏิวัติการประชารัฐร่วมใจเฝ้าระวัง และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและภูมิ นิเวศดอยสุเทพ–ปุย และพื้นที่โดยรอบจังหวัดเชียงใหม่ วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 ณ อุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ และกิจกรรมลดการเผา และส่งเสริมปุ๋ยอินทรีย์ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อสุขภาวะชุมชน ในวันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม 2560 ณ สวนสมเด็จย่า ถวายในหลวงเนื่องในโอกาสทรงครองราชย์ ครบ 70 ปี บ้านแม่เหียะใน และป่าชุมชนแม่เหียะใน จังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้ง กิจกรรมลดขยะ ลดการเผา ลดหมอกควัน นำชุมชนผาสุก ในวันจันทร์ที่ 6 มีนาคม 2560 ณ โรงเรียนวัดสิงห์คำ ต.ป่าแดด อ.เมือง จังหวัดเชียงใหม่

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครือข่ายความร่วมมือ เครือข่าย อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) และภาคีเครือข่ายร่วมพัฒนา ให้เข้ามามีส่วนร่วม เป็นกลไกในการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงเพื่อเป็นการ สื่อสารการดำเนินงานของเครือข่าย ทสม. ในพื้นที่บูรณาการ ดอยสุเทพ–ปุย จังหวัดเชียงใหม่สู่ธารณะและสังคม ภายนอกเพื่อขยายผลการดำเนินงานไปสู่พื้นที่อื่นๆ ต่อไป

ด้านนายรุ่งปรีชา ปั๋นแก้ว นายกเทศมนตรีตำบลป่าแดด เผยว่า เทศบาลตำบนป่าแดด ได้ดําเนินกิจกรรมการคัดแยกขยะ มาได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว โดยการให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะ พร้อมนำมามอบให้กับทางเทศบาลเพื่อดำเนินการ นำไปรีไซเคิลต่อไป พร้อมกันนี้ยังได้จัดกิจกรรมฝึกอบรม การหมักปุ๋ยจากขยะอินทรีย์ และให้ความรู้เรื่องการจัดการขยะแก่ผู้นำชุมชน เยาวชนในสถานศึกษา เพื่อให้การดำเนินกิจกรรม เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเบื้องต้น ได้รับความร่วมมือจากผู้นำชุมชน และโรงเรียนในเขตเทศบาลตำบลป่าแดดอย่างดี พร้อมกันนี้ทางเทศบาลตำบลป่าแดดได้เปิดรับสมาชิกเครือข่าย ทสม. เพื่อประชาสัมพันธ์ เกี่ยวกับการจัดเก็บขยะ และคัดแยกขยะพร้อมกับ ให้ความรู้ป้องกัน ลดการเผา เพื่อลดหมอกควันไฟป่า มุ่งเน้นเพิ่มพื้นที่สีเขียวพร้อมกับอนุรักษ์ คลองแม่ข่า จนเห็นผลเป็นรูปธรรมต่อไป

เจ็ดขุนพล

ร่วมแสดงความคิดเห็น