รวบ 18 มงกุฏ ตุ๋นมโหฬาร เหยื่อสูญ 20 ล้าน หาศัยหน้าหล่อ ชวนสาวลงทุน

ตามลากคอ………….เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 คุมตัว นายเกียรติขจร นาเมืองรักษ์ อายุ 36 ปี มาสอบสวน หลังทำการหลบหนีการจับกุมและมีหมายจับถึง 8 หมาย ไปกบดานตามจังหวัดต่างๆ นอกจากนี้ระหว่างการหลบหนียังได้ไปก่อเหตุวางอุบายลวงหญิงสาวมาคบหาเป็นแฟน แล้วชวนลงทุนหลอกเอาเงิน มีผู้เสียหายหลายราย มูลค่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท ตามข่าว

ตำรวจภาค 5 ตามลากคอแก๊งหน้าหล่อ หลังติดตามจับกุมตัวอยู่นาน มีหมายจับถึง 8 หมาย แถมไม่พอขณะหลบหนียังไปก่อเหตุวางอุบายลวงหญิงสาวมาคบหาเป็นแฟน แล้วชวนลงทุนหลอกเอาเงิน ก่อหลบหนีไปตามจังหวัดต่างๆ สุดท้ายไม่รอดเจ้าหน้าที่ตามจับได้ ตรวจสอบพบผู้เสียหายหลายรายมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท ลากคอไอ่หนุ่มแก๊งหน้าหล่อหมายจับติดตัว 8 หมาย ตุ๋นเหยือเสียหายอื้อ มูลค่าไม่น้อยกว่า 20 ล้าน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 มี.ค.60 ตำรวจภูธรภาค 5 โดยการอำนวยการของ พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายเกียรติขจร นาเมืองรักษ์ อายุ 36 ปีอยู่บ้านเลขที่ 200 หมู่ 13 ต.แม่ลาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ที่กระทำความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป หรือรับของโจรตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ 82/2559 ลงวันที่ 9 ก.พ.59

พฤติการณ์ในการกระทำความผิดของคนร้ายรายนี้คือ เมื่อประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน 2558 เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นร้าน tsk ในอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นอู่ชำแหละรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมมา เพื่อแยกอะไหล่ไปขาย โดยนายเกียรติขจรได้ร่วมกันกับพวก รับทรัพย์ ยักยอก และฉ้อโกง รถยนต์และรถจักรยานยนต์ แล้วนำไปขาย ให้ร้านดังกล่าวก่อนจะหลบหนีไปมีผู้ให้เช่ารถเสียหายจำนวนหลายราย นอกจากนี้ยังได้ก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายอีกหลายราย ว่าเปิดบริษัทขายตรงชื่อว่ารวยมหัศจรรย์ ออกอุบายว่าให้ผู้ซื้อรถยนต์เพื่อนำมาขับขี่วิ่งส่งของร่วมกันจากนั้นก็จะเชิดรถยนต์หลบหนีไป

ทั้งนี้ ยังมีคดีที่หลอกลวงหญิงสาวอีกหลายราย โดนได้ติดต่อพูดคุยกันจนเกิดความเชื่อใจ หลงเชื่อร่วมลงทุนรับจำนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ หรือสิ่งของต่างๆ เช่น พระเครื่อง เมื่อได้ทรัพย์สินเงินทองมากจนเป็นที่พอใจแล้ว ก็จะหลบหนีไป ไปก่อเหตุกับผู้เสียหายรายต่อไป หลังจากชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ได้สืบทราบว่านายเกียรติขจร จะเดินทางไปติดต่อธุระในจังหวัดหนองคาย จึงได้วางแผนเข้าจับกุมได้ที่ร้านหมูกระทะ 15 หยวน หมู่ 17 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหามีหมายจับอยู่ 7 คดี เป็นหมายจับของศาลแขวงเชียงใหม่ 4 คดี ศาลจังหวัดจันทบุรี 2 คดี ศาลแขวงชลบุรี 1 คดี

โดยทาง พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 เปิดเผยว่า คดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เริ่มต้นสืบสวนมาตั้งแต่ช่วงประมาณเดือนพฤษจิกายน 2558 ในคดีทีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการบุกทลายโรงชำแหละรถที่ในเขต อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ และจากการสืบสวนสอบสวนในครั้งนั้นทราบว่า นายเกียรติขจร หรือ อนันต์ นาเมืองรักษ์ เป็นผู้ที่นำรถเข้ามาส่งให้กับกลุ่มขบวนการส่วนหนึ่ง ประมาณ 4-5 คัน โดยรถที่ส่งมาชำแหละนั้นเป็นรถที่ได้ทำการเช่ามาจากร้านรถเช่าส่วนหนึ่ง และบางส่วนได้ดาวน์มาจากบริษัทรถอีกส่วนหนึ่ง จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และให้ทางพนักงานสอบสวนออกหมายจับ พร้อมทั้งได้ทำการติดตามสืบสวนพฤติกรรมของผู้ต้องหามาโดยตลอด แต่ในช่วงนั้นทาง นายเกียรติขจร หรือ อนันต์ นาเมืองรักษ์ ได้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ จ.จันทบุรี แต่เมื่อทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามติดตามตัวก็ไม่พบเจอ และทราบว่า นายเกียรติขจร หรือ อนันต์ นาเมืองรักษ์ ได้ไหวตัวทันหลบหนีไปตามสถานที่ต่างๆ นอกจากนี้ในช่วงระหว่างที่ได้ทำการหลบหนีก้ได้ไปก่อเหตุในการหลอกลวงคนอื่นอีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการหลอกผู้หญิง โดยการคบหาเป็นแฟน ชักชวนนำเงินมาลงทุนร่วมกันและหลอกเอาเงินผู้เสียหายมา จากนั้นก็ปล่อยหนี้สิน และก้ทำการหลบหนี

จนกระทั่งในที่สุดทางเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่า นายเกียรติขจร หรือ อนันต์ นาเมืองรักษ์ ได้หลบหนีไปอยู่ที่ จ.หนองคาย ทางเจ้าหน้าที่จึงส่งชุดกำลังเข้าทำการจับกุมตัวได้ในที่สุด จากนั้นก็ได้ทำการส่งตัวมาสอบสวน ซึ่งทาง นายเกียรติขจร หรือ อนันต์ นาเมืองรักษ์ ก็ได้ให้การรับสารภาพ และจากการตรวจสอบพบว่ามีการออกหมายจับตัวผู้ต้องหารายนี้ถึง 8 หมายด้วยกัน และคิดเป็นมูลค่าความเสียหายที่เกิดจากผู้ต้องหารายนี้ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีตามกำหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น