เชียงใหม่ พบไฟป่า เกิดทุกวัน

ลุกลามหนัก…………เกิดเหตุไฟป่าลุกลามหนักอีกครั้งภายในอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หลังจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องช่วยกันดับไปแล้วครั้งหนึ่ง ขณะที่รายงานสภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ ล่าสุดยังอยู่ในระดับที่ไม่เกินค่ามาตรฐาน

เชียงใหม่ เกิดไฟป่ารายวัน เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างหนัก ต้องเดินเท้าเข้าดับไฟอย่างเร่งด่วน โดยล่าสุดเกิดเหตุซ้ำรอยเดิมในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย อีกรอบ แต่รายงานสภาพอากาศยังอยู่ในระดับที่ไม่เกินค่ามาตรฐาน ขณะที่ตำรวจนาหวายจับอีก 2 ห้ามไม่ฟังเผาที่โล่ง

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 มี.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ป่า บริเวณสันเขื่อน ภายในสันเขื่อน ภายในอ้างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นอีกครั้งภายหลังจากช่วงเย็นและช่วงค่ำคืนวานนี้ (11 มี.ค.60) ได้เกิดไฟไหม้ลุกลามอย่างหนัก และทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าดำเนินการช่วยกันควบคุมไว้ได้ แต่ก็เกิดการไหม้ขึ้นอีกโดยเพลิงได้ลุกไหม้เป็นวงกว้าง ทางเจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช หน่วยเสือไฟ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก อบต.ดอนแก้ว และ อบจ.เชียงใหม่ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปฉีดน้ำ พร้อมทั้งแนวกันไฟ เพื่อป้องกันการลุกลาม และยังคงติดตามเฝ้าระวังการปะทุของเชื้อไฟอย่างใกล้ชิด

ขณะที่รายงานสถานการณ์ไฟป่า ประจำวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบจากดาวเทียมระบบ MODIS พบว่า ภายในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ได้มีจุดความร้อนจำนวน 14 จุด ซึ่งทางเจ้าหน้าทมี่ได้เข้าไปตรวจสอบและทำการดับเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจากการตรวจสอบในเช้าวันนี้ ยังไม่พบจุดความร้อนภสยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่แต่อย่างใด ทั้งนี้จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่ของกรมควบคุมมลพิษพบว่าคุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่อยู่ระดับปานกลาง ซึ่งค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และดัชนีคุณภาพอากาศ เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ยังอยู่ในระดับที่ไม่เกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร โดยที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ได้ 63 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ได้ 55 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร

ทั้งนี้หลังจากที่จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการประกาศห้ามเผาทุกชนิดในที่โล่ง “60 วันห้ามเผาเราทำได้” ซึ่งทุกหน่วยงานก็ได้มีการเข้มงวดในการตรวจหยุดยั้งไฟป่าและหมอกควัน โดยจากการตรวจสอบพบว่า ช่วงเช้าวันนี้ในเขตรับผิดชอบของ สภ.นาหวาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ลักลอบเผาปรับพื้นที่แปลงเกษตรได้อีก 2 ราย โดยรายแรกคือนายจะลอ จะลา อายุ 56 ปี อาศัยอยู่เลขที่ 111 ม.2 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ พร้อใของกลาง ไฟแซ็คแก๊ส จำนวน 1 อัน โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ขณะที่กำลังจุดไฟเผาบริเวณแปลงเกษตรในหมู่บ้านเจียจันทร์ ม.13 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ส่วนรายที่สองเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายอะซาผะ เล่าหมู่ อายุ 38 ปี อาศัยอยู่เลขที่ 306 ม.11 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางไฟแช็คแก็สจำนวน 1 อัน โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ขณะที่กำลังจุดไฟเผาบริเวณแปลงเกษตรทางด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้านป่าบงงามลีซอ ม.11 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ทั้งนี้ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำผิดตามประกาศของจังหวัดเชียงใหม่มาตรการห้ามเผา 60 วันห้ามเผาทุกชนิดในที่โล่ง และ พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ.2535 มาตรา 25

ด้าน นายชานนท์ คำทอง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในปีนี้นั้น ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการประสานหน่วยงานต่างๆ ในการระดมสรรพกำลังเฝ้าระวังการเกิดไฟ และดับไฟอย่างต่อเนื่อง รวมถึงชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนถึงสถานการณ์และขอความร่วมมืองดการเผาป่าและเศษวัสดุการเกษตรอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ยังได้มีการประสานไปยังเจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มในการออกพื้นที่ตรวจสอบในทุกจุด หากพบว่าพื้นที่ไหนมีกลุ่มควันให้รีบเข้าไปตรวจสอบ เพื่อทำการพูดคุยชี้แจงให้ยุติการเผาทุกชนิด หากยังฝ่าฝืนก็จำเป็นต้องใช้ข้อบังคับตามกฏหมายอย่างถึงที่สุด ทั้งนี้จากการติดตามสภาพอากาศพบว่า ในช่วงนี้จังหวัดเชียงใหม่จะมีความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีอากาศร้อน ในตอนกลางวัน และสภาวะความแปรปรวนของอากาศลดลง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดสภาวะอากาศนิ่ง หากเกิดการเผาในพื้นที่ ก็อาจส่งผลทำให้ทุกจังหวัดมีแนวโน้มฝุ่นละอองสะสมเพิ่มขึ้นได้

ร่วมแสดงความคิดเห็น