เที่ยวธรรมชาติที่..“ธารถํ้าลอด” แม่ฮ่องสอน

ธารถํ้าลอดแห่งอำเภอปางมะผ้า จึงเป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาค้นหาพิศวงที่แฝงเร้นอยู่ในถํ้าแห่งนี้ มนต์เสน่ห์ธรรมชาติของธารถํ้าลอดหากว่าได้รับการดูแลเอาใจใส่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เชื่อว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นที่พักผ่อนและท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่นักเดินทางอยากจะเข้ามาสัมผัสสักครั้งแน่นอน

อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นแหล่งอารยธรรมสมัยก่อนประวัติศาสตร์เก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศไทย พื้นที่โดยทั่วไปมีลักษณะภูมิประเทศเป็นเขาหินปูน จึงทำให้มีการสำรวจพบโถงถํ้าน้อยใหญ่มากมายกว่า 200 ถํ้า และยังคาดคะเนกันว่าน่าจะมีถํ้าอีกไม่น้อยที่หลุดรอดไปจากสายตาของกลุ่มนักสำรวจ จนกระทั่งอำเภอปางมะผ้าได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งถํ้า

กลุ่มถํ้าที่ตั้งอยู่ในเขตอำเภอปางมะผ้าและพื้นที่โดยรอบ ต่างมีคุณค่าและความงดงามที่แตกต่างกันออกไป บางถํ้ามีการตกตะกอนของหินปูนและก่อให้เกิดหินงอกหินย้อยอันวิจิตรงดงามขนาดใหญ่ หรือแม้แต่ถํ้าที่ไม่มีการสะสมของหินงอกหินย้อย ก็ยังพบว่าเคยเป็นที่พักอาศัยของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ ดังปรากฏหลักฐานทางโบราณคดีที่มีจำนวนมากถึง 70 ถํ้าที่กระจายตัวอยู่ในเขตอำเภอแห่งนี้

กระทั่งปี พ.ศ.2529 จังหวัดแม่ฮ่องสอนเปิดตัวเองด้วยการจัดเป็นปีการท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน และถํ้าที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในเขตอำเภอปางมะผ้า จึงได้รับการส่งเสริมเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นถํ้านํ้าลอดหรือ “ถํ้าลอด” ถํ้าที่แม่นํ้าลาง แม่นํ้าสายหลักของอำเภอปางมะผ้าลอดผ่านเข้าไปในตัวถํ้าก่อนจะไหลไปรวมกับแม่นํ้าปาย

หรือแม้แต่ “ถํ้าแม่ละนา” ซึ่งจัดว่าเป็นถํ้าที่ลึกที่สุดในเอเชีย มีความลึกกว่า 14 กิโลเมตรในแนวนอน ขณะที่ถํ้า “นํ้าบ่อผี” มีความลึกในแนวดิ่งกว่า 100 เมตร และลึกลงไปในหุบเหวก็ยังมีต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น

ในช่วงฤดูฝน สภาพอากาศในภาคเหนือนั้นสดชื่นเย็นฉํ่า เหมาะอย่างยิ่งกับการขับรถเที่ยวชมธรรมชาติ จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญหลายแห่ง โดยเฉพาะถํ้า ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวได้แก่ “ถํ้าลอด” ซึ่งอยู่ในเขตอำเภอปางมะผ้า

ลักษณะของถํ้าลอดจะเป็นภูเขาถํ้าที่มีนํ้าไหลเป็นสายนํ้าอยู่ภายในตัวถํ้า ซึ่งลำนํ้านี้ชาวบ้านจะเรียกว่า “นํ้าลาง” สันนิษฐานว่าอาจมีต้นกำเนิดอยู่ในเขตติดต่อระหว่างไทยกับพม่า เมื่อถึงฤดูฝนนํ้าในถํ้าลอดจะกลายเป็นสีแดงขุ่นไหลเชียวอย่างรุนแรง ส่วนในฤดูร้อนนํ้าในถํ้าจะน้อยไหลเอื่อย ใสจนสามารถมองเห็นพื้นทรายข้างล่างได้

ความเชื่อของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่นี่เชื่อว่า ถํ้าลอดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยปกป้องคุ้มครองอยู่ ในอดีตที่ผ่านมาชาวบ้านไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าไปในบริเวณถํ้า เพราะกลัวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำร้าย

ลักษณะภายนอกของถํ้าลอดเป็นภูเขาถํ้าที่มีทางเข้าไปภายใน เมื่อมายืนบริเวณนี้จะได้ยินเสียงนํ้าไหลและเสียงนํ้ากัดเซาะหินดังออกมาจากภายในถํ้า ซึ่งหากฟังดีดีเหมือนกับเสียงดนตรีที่ไม่มีทำนอง

เมื่อหลายปีก่อนได้มีการสำรวจภายในถํ้าลอด พบโลงศพโบราณที่ทำจากไม้ทั้งต้นขุดเอาเนื้อไม้ออก มีลักษณะเป็นไม้ทั้งต้นผ่าซีกประกบกันทั้งสองด้านชาวบ้านเรียกโลงศพที่พบพวกนี้ว่าเป็นโลงศพของ “ผีแมน” นอกจากนี้ในบริเวณถํ้ายังพบภาพเขียนสีโบราณตามผนังถํ้า ซึ่งนักโบราณคดีสันนิษฐานว่าในอดีตบริเวณนี้อาจเคยเป็นที่อยู่เก่าของพวกผีแมน

ถํ้าลอดนอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันลี้ลับมหัศจรรย์ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัสแล้ว ในบริเวณนี้ยังมีบริการนำเที่ยวภายในถํ้าของกลุ่มชาวบ้านอีกด้วย โดยคิดค่าบริการสำหรับตะเกียงที่ใช้ส่องนำทางคนละ 100 บาท และยังมีแพไม้ไผ่สำหรับถ่อเข้าไปชมถํ้าปลาซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้กัน ค่าบริการก็ไม่แพงเมื่อเทียบกับสิ่งที่นักท่องเที่ยวจะได้รับกลับไปถือว่าคุ้มค่าที่เดินทางมาเที่ยวถํ้าลอด

ธารถํ้าลอดแห่งอำเภอปางมะผ้า จึงเป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาค้นหาพิศวงที่แฝงเร้นอยู่ในถํ้าแห่งนี้ มนต์เสน่ห์ธรรมชาติของธารถํ้าลอดหากว่าได้รับการดูแลเอาใจใส่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เชื่อว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นที่พักผ่อนและท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่นักเดินทางอยากจะเข้ามาสัมผัสสักครั้งแน่นอน

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวชมความมหัศจรรย์ของธารถํ้าลอด อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน สามารถเดินทางโดยรถยนต์จากเชียงใหม่ใช้เส้นทางจากอำเภอแม่ริมไปจนถึงบ้านแม่มาลัย อำเภอแม่แตง เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสายอำเภอปาย ระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง ตลอดสองข้างทางระหว่างอำเภอปายไปจนถึงอำเภอปางมะผ้าเป็นหุบเขาลึกสลับด้วยภูเขา เส้นทางคดเคี้ยวไปตามแนวเขา นักท่องเที่ยวที่ไม่ชำนาญทางจึงต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง เพราะถนนแคบ นานๆ จะมีรถวิ่งสวนทางมาซักคันหนึ่ง

บริเวณรอยต่อระหว่างอำเภอปายกับอำเภอปางมะผ้าจะมีจุดตรวจและจุดชมวิวชื่อว่า “กิ่วลม” สาเหตุที่ชื่อกิ่วลมก็เพราะบริเวณนี้ตั้งอยู่ในช่องลมเมื่อเวลามีลมพัดมาจะแรงมาก นอกจากนั้นในบริเวณนี้ยังเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่อากาศเย็นสบาย หากไปในหน้าฝนจะมีเมฆหมอกบางๆ พัดไหลมาตามกระแสลม แต่หากมาในหน้าหนาว ว่ากันว่าสายหมอกจะลงหนาคล้ายๆ กับฝนตกเลยทีเดียว

เมื่อเดินทางมาถึงอำเภอปางมะผ้าถึงชานสบช่อง จะมีป้ายสัญญานบอกเลี้ยวขวาเข้าไปยังบ้านถํ้าลอดอีกประมาณ 8 กิโลเมตร ลักษณะเส้นทางในช่วงนี้เป็นถนนคอนกรีตเสริมไม้ไผ่ ป่าเขาธรรมชาติสองข้างทางยังคงสมบูรณ์ปราศจากการรบกวนจากมนุษย์ ขับรถเข้าไปไม่นานนักก็จะถึงบริเวณลานจอดรถ จากนั้นนักท่องเที่ยวก็สามารถเดินทางเข้าไปชมความงามของถํ้าลอดได้อย่างเต็มที่

จักรพงษ์ คำบุญเรือง
[email protected]

ร่วมแสดงความคิดเห็น