ล่องโขงเบิ่งลาวที่เชียงของ

เดี๋ยวนี้การเดินทางเที่ยวลาวไปไม่ยากอีกต่อไปแล้ว นับตั้งแต่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 บังเกิดขึ้นที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย สะพานแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทาง R3E ซึ่งเป็นถนน 4 ช่องจราจรเชื่อมโยง เส้นทางจากไทยลาวจีน มีความสมบูรณ์ โดยเส้นทาง R3E เริ่มจากประเทศไทยที่ อ.เมืองเชียงราย อ.เชียงของ ระยะทาง 130 กิโลเมตร สะพานข้ามแม่นํ้าโขงแขวงบ่อแก้ว ประเทศลาว เวียงภู คาหลวง นํ้าทาบ่อเต็น ระยะทางประมาณ 250 กิโล เมตรเชื่อมต่อชายแดนจีนที่ เชียงรุ้งบ่อหานคุนหมิง ระยะทางประมาณ 1,000 กิโลเมตร ซึ่งรวมระยะทางจากเชียงรายคุนหมิง ประมาณ 1,200 กิโลเมตร คนจะไปเที่ยวลาวเหนือได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องข้ามที่ท่าเรือบัค ไม่ต้องเอารถข้ามแพขนานยนต์ นักท่องเที่ยวแบบอิสระจะไปเที่ยวลาวเหนือ แขวงบ่อแก้ว แขวงอุดมไชย แขวงหลวงนํ้าทา และแขวงพงสาลี ได้ง่ายขึ้น ก็เหมือนกับไปเวียงจันทน์ยุคนี้ง่ายมาก เหมือนไปเที่ยวต่างจังหวัดธรรมดา ๆ ไม่ต้องซื้อทัวร์ก็ไปกันเองสบายๆ ได้ ส่วนหลวงพระบางนั้น ออกทางด่านสากลห้วยโกร๋นจังหวัดน่าน สะดวกสุด

สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือเรียกสั้นๆ แบบคุ้นปากว่า ลาว ประเทศเพื่อนบ้าน อันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งได้รับความนิยมไม่น้อยในหมู่คนไทยอย่างพวกเรา ซึ่งมีภาษาและวัฒนธรรมบ้านเราบ้านเขาจะใกล้เคียงกัน

นักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่จะเลือกเดินทางไปแขวงบ่อแก้วแบบเช้าไปเย็นกลับ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมเริ่มต้นการเดินทางไปยังเมืองหลวงพระบาง ด้วยการล่องเรือตามลำนํ้าโขงจากท่าเรือห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 วัน 1 คืน โดยจะแวะพักที่ปากแบงเพื่อเดินทางต่อไปในวันรุ่งขึ้น

อย่างไรก็ดี แขวงบ่อแก้วก็ยังมีสถานที่น่าสนใจให้เที่ยวชม ตั้งแต่วัดจอมแก้วมณีรัตน์ วัดเก่าแก่ของเมือง วัดพระธาตุตากผ้าทอง ที่ชาวบ้านเล่าว่า ทุกวันขึ้น 15 คํ่า จะมีแสงพวยพุ่งออกมาจากองค์พระธาตุ และอนุสรณ์สถานของท่านไกรสร พรหมวิหาร อดีตนายกรัฐมนตรีอันเป็นที่เคารพรักของชาวลาว ตลอดจนวิถีชีวิตของชาวบ้านหลากเผ่า ทั้งชาวเขาเผ่าแลนแตน ที่ยังคงรักษาประเพณีดั้งเดิมไว้อย่างเหนียวแน่น หมู่บ้านยองหิน ภูมิปัญญาของชาวไทลื้อที่สามารถสร้างบ้านไม้แบบเคลื่อนย้ายได้ หลังจากนั้นแวะชมหมู่บ้านต้มเหล้าขนาดใหญ่ แขวงบ่อแก้ว เป็นแขวงที่มีขนาดเล็กที่สุดของลาว มีพรมแดนติดกับไทย และพม่า ห่างจากชายแดนจีนเพียง 100 กิโลเมตร เดิมบริเวณนี้เรียกว่าหัวโขง เพราะตั้งอยู่บริเวณต้นแม่นํ้าโขง ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นบ่อแก้ว มีห้วยทรายเป็นเมืองหลวง เมืองท่าการค้าที่ใหญ่ที่สุดริมแม่นํ้าโขง ประกอบไปด้วยเมืองบริวารทั้งหมด 5 เมือง คือ เมืองห้วยทราย เมืองเมิง เมืองปากทา เมืองผาอุดม และเมืองต้นผึ้ง สมัยฝรั่งเศสเข้ามาปกครองลาว เมืองห้วยทรายมีความเจริญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นที่ทำการแขวง และได้สร้างค่ายทหารเอาไว้บนเนิน เรียกว่าป้อมการ์โน ทหารไทยเคยเข้าไปยึดสมัยเกิดกรณีพิพาทอินโดจีน ชาวบ้านที่อาศัยในเมืองห้วยทรายส่วนใหญ่เป็นชาวลาว ชาวไทลื้อ ส่วนริมแม่นํ้าโขงจะเป็นชาวไทเขิน และตามภูเขามีชนเผ่าอื่นๆ อีกมากมาย

ข้ามจากฝั่งลาวกลับมาที่อำเภอเชียงของ ฝั่งประเทศของเราบ้าง วันนี้ยังคงมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศแวะเวียนมาท่องเที่ยวไม่ขาดสาย ที่พักแบบแบ็คแพ็กคืนละไม่กี่ร้อยยังมีอยู่ ตกกลางคืนเชียงของก็เงียบๆ ไม่ค่อยมีอะไรมาก เพราะส่วนใหญ่คนจะข้ามไปพักห้วยทราย ฝั่งลาวเพราะถูกกว่านั่นเอง

อำเภอเชียงของ เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดเชียงราย ลักษณะภูมิประเทศพื้นที่ราบ สลับกับเทือกเขา มีพื้นที่ด้านทิศตะวันออกบางส่วนติดกับแม่นํ้าโขง ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือ เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีประชากรอาศัยอยู่ในพื้นที่หลายเชื้อชาติ เช่น ไตลื้อ ขมุ มูเซอ แม้ว เย้า โดยกลุ่มไทลื้อโดยมากจะอาศัยอยู่ที่ บ้านห้วยเม็ง และบ้านศรีดอนชัย อพยพมาจากทาง สิบสองปันนา ทางตอนใต้ของประเทศจีนปัจจุบันยึดอาชีพเกษตรกรเป็นหลัก เคยทำสวนส้มกันจนมีชื่อเสียงโด่งดังแต่ปัจจุบัน เนื่องด้วยโรคภัยของส้มเยอะหยุมหยิม ชาวบ้านบางรายเลยเลิกทำสวนส้ม หันไปทำไร่ข้าวโพดเหมือนกับชาวบ้านใกล้เคียงแทน

เชียงของมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น นํ้าตกห้วยเม็งซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในหุบเขาพื้นที่บ้านห้วยเม็งสามารถเดินทางไปได้โดยออกจากตัวอำเภอเชียงของมุ่งหน้าไปทางอำเภอเชียงแสนจากตัวอำเภอระยะทาง 3 กิโลเมตรจะถึงหมู่บ้านห้วยเม็ง เลี้ยวซ้ายเข้าไปผ่านหมู่บ้าน ระยะทางอีกประมาณ 6 กิโลเมตร สภาพเส้นทางเป็นลูกลัง โดยผ่านตามแนวเขาไปยังนํ้าตก เหมาะแก่การเดินเท้าสัมผัสธรรมชาติ และปั่นจักรยาน สำหรับรถยนต์ต้องเป็นรถกระบะถึงสามารถเข้าไปยังนํ้าตกห้วยเม็งได้ โดยตัวนํ้าตกจะมี 2 ฝั่งคือฝั่งซ้ายและฝั่งขวาเป็นนํ้าตกขนาดเล็ก ช่วงที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวคือ ปลายฝนต้นหนาว

 

จากตัวอำเภอเชียงของมุ่งหน้าไปทาง อ.เชียงแสน ประมาณ 13 กิโลเมตร จะถึงที่ตั้งของสวนป่าห้วยทรายมาน มีจุดชมวิว 2 ฝั่งของระหว่างไทย-ลาว ได้พื้นที่ติดนํ้าโขงบริเวณตัวอำเภอเชียงของจะมีการสร้างถนนเลียบนํ้าโขง เริ่มตั้งแต่บ้านหาดไคร้ไปถึงบ้านหัวเวียง นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมบรรยากาศริมโขงได้ ท่าจับปลาบึกทุกวันที่ 17-19 เมษายน บริเวณท่าจับปลาบึก (ลานหน้าวัดหาดไคร้) จะมีการบวงสรวงและจับปลาบึกซึ่งหาดูได้ที่เดียวในโลก ปัจจุบันการล่าปลาบึกจะล่าได้ปีละครั้งในช่วงเดือนเมษายนของทุกปีเพื่อเป็นการอนุรักษ์ปลาบึก การล่าจึงทำเพื่อเป็นการสืบทอดการล่าปลาบึกให้คงอยู่ตามประเพณีของชาวบ้านหาดไคร้ และช่วงสงกรานต์บริเวณท่าปลาบึก (ลานหน้าวัดหาดไคร้) และท่าเรือบั๊กจะจัดงานมหาสงกรานต์อย่างยิ่งใหญ่ทุกๆ ปี สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์มีมากมาย เช่น กล้วยอบเนยศรีลานนา ผ้าทอศรีดอนชัยที่มีการสืบทอดมาแต่โบราณจากบรรพบุรุษของชนชาวไตลื้อสามารถแวะชมได้ที่และศูนย์ผ้าทอไทลื้อตำบลศรีดอนชัย และสินค้าหัตถกรรมบ้านสถาน ศูนย์หัตถกรรมบ้านสถานปัจจุบัน อำเภอเชียงของเป็นอำเภอที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเริ่มให้ความสนใจเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น สิ่งก่อสร้างที่พักอาศัยเริ่มมีเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะบริเวณบ้านหัวเวียง จะมีที่พักเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยนักท่องเที่ยวที่มายังอำเภอเชียงของสามารถข้ามไปยัง เมืองห้วยทรายได้ที่ท่าเรือบ้านหัวเวียง สามารถทำหนังสือเดินทางชั่วคราวเพื่อข้ามไปท่องเที่ยวได้และสามารถใช้พาสปอร์ตข้ามได้เช่นกัน นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือจากท่าเรือบ้านหัวเวียงล่องนํ้าโขงไปยังเมืองหลวงพระบางได้ ทุก ๆ เย็นวันเสาร์จะมีการจัดงานถนนคนเดินที่ชาวบ้านในพื้นที่จะนำพืชผล ผลิตภัณฑ์ที่ทำขึ้นมา มาจำหน่ายกันยังบริเวณถนนสายหลักตั้งแต่บ้านวัดแก้วไปจนถึงบ้านหัวเวียง นักท่องเที่ยวสามารถหาซื้อของฝากที่ผลิตในท้องถิ่นได้ในวันดังกล่าว

การเดินทางมายังอำเภอเชียงของ สามารถใช้เส้นทางจากทาง อ.เทิง-อ.ขุนตาล-อ.เชียงของ, อ.เมือง-อ.พญาเม็งราย-อ.เชียงของ, อ.เมือง-อ.เวียงเชียงรุ้ง-อ.เชียงของ, อ.เมือง-อ.แม่จัน-อ.เชียงแสน-อ.เชียงของ โดยจะมีรถเมล์วิ่งผ่านทุกเส้นทางยกเว้นเส้นทางจาก อ.เมือง-อ.แม่จัน-อ.เชียงแสน-อ.เชียงของ จะมีเพียงรถสองแถววิ่งผ่านเท่านั้น โดยรถเมล์จะออกจากสถานีขนส่งเชียงราย สลับกันแต่ละเส้นทาง

สุวิมล ธรรมวรรณ/ข่าวเชียงราย

ร่วมแสดงความคิดเห็น