สาธารณสุขจังหวัดลำพูน ร่วมรณรงค์ “ยุติการเลือกปฏิบัติ” กับผู้ติดเชื้อเอชไอวี

นายปัจจุบัน เหมหงษา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า ตามมติ ที่ประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ ครั้งที่ 2/2559 เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2559 เห็นชอบในหลักการของนโยบายการไม่เลือกปฏิบัติต่อผู้มีเชื้อเอชไอวีในการสมัคร การคัดเลือกและการเรียนหรือศึกษาต่อในสถานศึกษา

ตามที่ประเทศไทยได้กำหนดเป้าหมายการยุติปัญหาเอดส์ภายในปี พ.ศ. 2573 โดยไม่มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ไม่มีการเสียชีวิตจากเอดส์ ไม่มีการตั้งข้อรังเกียจและการเลือกจากปฏิบัติต่อผู้มีเชื้อเอชไอวี ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ พ.ศ. 2541 คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ ได้กำหนดนโยบายการไม่เลือกปฏิบัติต่อผู้มีเชื้อเอชไอวีในการสมัคร การคัดเลือกและการเรียนหรือศึกษาต่อในสถานศึกษา เพื่อให้การศึกษาที่ครอบคลุม ทั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียนประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา วิทยาลัย มหาวิทยาลัย และหน่วยงานด้านการศึกษาอื่นๆ ทุกสังกัด ทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดังนี้

ให้สถานศึกษากำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติในการรับสมัคร การคัดเลือก การเรียนหรือศึกษาต่อที่ไม่เป็นการกีดกันและเลือกปฏิบัติต่อผู้มีเชื้อเอชไอวี หรือสงสัยว่ามีเชื้อเอชไอวี โดยห้ามเรียกร้องหรือบังคับให้มีการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี เป็นเงื่อนไขในการรับเข้าเรียน การเรียนหรือการศึกษาต่อ และจัดการเรียนการสอนที่แตกต่างกัน

ให้สถานศึกษากำหนดระบบการรักษาความลับข้อมูลส่วนตัว โดยไม่มีการเปิดเผยการมีเชื้อเอชไอวีของเด็กนักเรียน หรือนักศึกษาแก่บุคคลอื่น

ให้สถานศึกษาพิจารณาจัดการเรียนรู้หรือกิจกรรมให้กับครู อาจารย์ ผู้ดูแลเด็ก และบุคลากรในสถานศึกษา เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องเอดส์ที่ถูกต้อง รวมทั้งการมีเจตคติเชิงบวกต่อเอชไอวีและเอดส์ ทั้งนี้ ควรเป็นกิจกรรมในโรงเรียนที่จัดอย่างสมํ่าเสมอและจัดการเรียนรู้หรือกิจกรรมเฉพาะ หรือสอดแทรกเพิ่มเติมให้กับเด็กนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครองของเด็กในสถานศึกษา เพื่อให้มีเจตคติเชิงบวกและสามารถอยู่ร่วมกันกับผู้มีเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ได้เป็นปกติ

ให้สถานศึกษาพิจารณาประสาน หรือจัดให้มีการคุ้มครองสิทธิแก่เด็กนักเรียน นักศึกษา ที่มีเชื้อเอชไอวี หรือสงสัยว่ามีเชื้อเอชไอวี หรือเป็นบุตรของผู้อยู่ร่วมกับผู้มีเชื้อเอชไอวี โดยการมีส่วนร่วมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม และให้มีระบบการรายงานเมื่อเกิดกรณีมีการรังเกียจ หรือเลือกปฏิบัติต่อเด็กนักเรียน นักศึกษา ที่ได้รับผลกระทบจากเอดส์ในสถานศึกษาหรือในชุมชน เพื่อให้สามารถติดตามสถานการณ์และการดำเนินงานแก้ไขปัญหา

ร่วมแสดงความคิดเห็น