พบเตรียมปลูกข้าวรอบที่ 3 กว่า 1 พันไร่ ชลประทานถกด่วน คาดกระทบช่วงใช้น้ำมากแน่นอน

 

วันที่ 23 มี.ค.60 เวลา 15.00 น. ที่ห้องติดตามสถานการณ์น้ำ สำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ นายจานุวัตร เลิศศิลป์เจริญ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำตลอดทั้งแม่น้ำปิงตอนท้ายเมืองเชียงใหม่ตั้งแต่ประตูระบายน้ำท่าวังตาล ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ ถึงประตูระบายน้ำแม่สอย อ.จอมทอง ซึ่งประกอบด้วย ปตร.ท่าวังตาล ฝายแม่ปิงเก่า ฝายท่ามะโก๋ ฝ่ายสบร้อง ฝายพญาอุด ฝายหนองสลีก ปตร.ดอยน้อย ปตร.วังปาน และ ปตร.แม่สอย

นายธนิต จ่าภา หัวหน้าฝ่ายบริหารจัดการน้ำ ส่วนบริหารจัดการน้ำ สำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ รายงานการส่งน้ำในรอบเวรที่ 7 เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการปรับแผนการจะส่งน้ำในรอบเวรที่ 8 ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่แม่น้ำปิงตอนบน ณ วันที่ 23 มี.ค.60 มีน้ำไหลจากแม่น้ำปิงที่ อ.เชียงดาว ที่ 0.34 ลบ.ม.ต่อวินาที มีน้ำที่ไหลจากเมืองเชียงใหม่ลงสู่เขื่อนภูมิพลที่สถานี P73A ในอัตรา 1.50 ลบ.ม.ต่อวินาที ในรอบเวรที่ 7 มีการส่งน้ำจากเขื่อนแม่งัดจำนวน 4 วัน คือส่งที่ 18, 18, 12 และ 14 ล้าน ลบ.ม. รวมปริมาณน้ำ 5.4 ล้าน ลบ.ม. โดยเริ่มส่งตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 16 มี.ค.จนถึงวันที่จันทร์ที่ 20 มี.ค.เวลา 13.00 น. โดยน้ำเดินทางจากเขื่อนแม่งัดมาถึง ปตร.ท่าวังตาลในรอบนี้ใช้เวลา 15 ชั่วโมง เร็วกว่าเดิม 3 ชั่วโมง และใช้เวลายกระดับน้ำ 4 ชั่วโมง จากที่เคยยกในรอบเดิม 10 ชั่วโมง เนื่องจากช่องว่างของน้ำที่ต้องเติมเข้ามาน้อยลงจึงส่งผลให้น้ำลงมาเติมเต็มในระบบเร็วขึ้นกว่าเดิมมาก

“น้ำรอบนี้ใช้เวลาเดินทางไปถึงฝายหนองสลีก 16 ชั่วโมง โดยใช้เวลาในการเพิ่มระดับน้ำ 6 ชั่วโมง เดิมใช้เวลา 11 ชั่วโมง จากหนองสลีกมีน้ำล้นไปท้ายน้ำถึง ปตร.ดอยน้อย ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ไปถึง ปตร.วังปาน ใช้เวลา 7 ชั่วโมง และไปถึง ปตร.แม่สอย ใช้เวลา 3 ชั่วโมง รวมแล้วน้ำจากเขื่อนแม่งัดเดินทางถึง ปตร.แม่สอย ใช้เวลา 92 ชั่วโมง เดิมต้องใช้เวลา 119 ชั่วโมงใช้เวลาเร็วขึ้น 27 ชั่วโมง” นายธนิตฯ กล่าว

สำหรับการตรวจสอบปริมาณน้ำพบว่า น้ำจากเขื่อนแม่งัดส่งมาที่ 5.4 ล้าน ลบ.ม. มาถึงสถานี P75 จำนวน 4.5 ล้าน ลบ.ม. ถึงสถานี 103 บริเวณวงแหวนรอบ 3 ปริมาณ 4.7 ล้าน ลบ.ม. ส่วนน้ำที่เหลือซึ่งตามลงมาราว 2 วันถึง ปตร.แม่สอย ปริมาณน้ำก็ใกล้เคียงกับปริมาณน้ำที่ส่งจากเขื่อนแม่งัด
ในปีนี้ที่สถานีสูบน้ำของประปาอำเภอจอมทองมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว 46 ซม. ปีนี้เช่นกันที่สถานีสูบน้ำบ้านแท่นคำมีการกั้นกระสอบทรายเสริมในลำน้ำ ทำให้สามารถสูบน้ำได้วันละ 12 ชั่วโมง จากเดิมในปีที่แล้วสูบได้เพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งเมื่อกั้นกระสอบทรายที่จุดนี้ส่งผลให้จุดสูบน้ำสถานีประปาจอมทองมีน้ำเท้อขึ้นไปสนับสนุนด้วย
นายธนิต จ่าภา ประเด็นปัญหาที่พบมีอยู่ว่า ได้รับรายงานจากสถานีสูบน้ำหน้า ปตร.แม่สอย 5 สถานี และท้าย ปตร.อีก 1 สถานี จะมีการปลูกข้าวนาปรังรอบ 2 ก็คือการปลูกข้าวในรอบที่ 3 ของปีนี้ราว 780 ไร่ ซึ่งแจ้งว่าจะทำการปักดำในวันที่ 1 เม.ย.60 นี้ นอกจากนี้ยังพบว่ามีอีก 1 สถานีแจ้งอย่างไม่เป็นทางการมาแล้วว่าจะมีการปลูกข้าวด้วยเช่นกันแต่ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัดว่าจะมีกี่ไร เชื่อว่าหากรวมทั้ง 7 สถานที่มีข้อมูลเข้ามานี้ คาดว่าน่าจะมีพื้นที่ที่ปลูกข้าวในรอบที่ 3 นี้มากกว่า 1,000 ไร่
ด้าน นายจานุวัตร เลิศศิลป์เจริญ ผส.ชป.1 เชียงใหม่ กล่าวว่า เรื่องนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่จะส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการน้ำในรอบเวรที่เหลืออยู่ ในอนาคตยังไม่รู้ชัดว่าฝนจะมาเมื่อไร ทั้งที่ได้มีการประชุมผู้ใช้น้ำทั้งระบบไปแล้วโดยมีข้อสรุปว่าขอให้ทำนาแค่เพียงรอบที่ 2 หรือนาปรังรอบแรกเท่านั้น แต่ยังปรากฏว่ามีผู้ฝ่าฝืนมติที่ประชุมผู้ใช้น้ำจะปลูกข้าวในรอบที่ 3 ของปีอีก และเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าข้าวเป็นพืชใช้น้ำน้อย อีกทั้งนโยบายและข้อสั่งการของ รมว.เกษตรฯ ไม่ให้มีการปลูกข้างนาปรังรอบที่ 2 โดยเด็ดขาด แต่ยังพบว่ามีเกษตรกรในบางพื้นที่ฝ่าฝืนอีก

“ปัญหาที่จะตามมาคือ พฤติกรรมเลียนแบบ หากพื้นที่นี้ปลูกได้ พื้นที่ที่ยังไม่ได้ปลูกในบริเวณเดียวกันหรือใกล้เคียงกันก็ปลูกตามบ้าง นั่นหมายถึงจะต้องมีการใช้น้ำในปริมาณที่มากเกินกว่าแผนที่กำหนดไว้แต่ต้น ตรงนี้จะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนโดยตรงอย่างแน่นอน ซึ่งจะมีปัญหาคือการใช้น้ำในปริมาณที่มากในช่วงเวลาเดียวกันในเดือนเมษายนต่อเนื่องเดือนพฤษภาคม โดยลำไยก็ต้องการน้ำมากในช่วงนี้ ข้าวที่ปลูกในรอบที่ 3 ก็ต้องการน้ำมากในช่วงเวลานี้เช่นกัน นั่นหมายความว่าปัญหาใหญ่มากที่ไม่อาจคาดเดาได้จะขนาดไหนต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน” ผส.ชป.1 เชียงใหม่ กล่าว

นายจานุวัตร เลิศศิลป์เจริญ ผส.ชป.1 เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า ประเด็นเรื่องของการปลูกข้าวนาปรังรอบที่ 2 หรือข้าวรอบที่ 3 ของปีนี้ ในส่วนของสำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ จะเร่งทำเอกสารเพื่อนำเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ให้ทราบเป็นการเร่งด่วนภายในสัปดาห์หน้า โดยขอให้จังหวัดเชียงใหม่มีข้อสั่งการไปยังทุกอำเภอตั้งแต่ อ.สารภี หางดง สันป่าตอง ดอยหล่อ จอมทอง และ อ.ฮอด งดการปลูกข้าวนาปรังรอบที่ 2 หรือการปลูกข้าวในรอบที่ 3 นี้โดยเด็ดขาด เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ ไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนให้ได้ทั้งลำไยและข้าวที่จะปลูกในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งจะส่งให้ผลผลิตของทั้งข้าวและลำไยเกิดความเสียหายได้

ร่วมแสดงความคิดเห็น