ผุด “มาลาดา แม่ริม” สวนกระแสศก.นิ่ง!

เศรษฐกิจยังนิ่ง “มาลาดา” ไม่หวั่น ทุ่มเงินลงทุน 200 ล้านบาท ผุดโครงการอสังหาฯโครงการที่ 5 ทำเลดีย่านโซนเหนือของเชียงใหม่ “มาลาดา แม่ริม” ชูการออกแบบแนวโมเดิร์นวินเทจ มั่นใจปิดยอดขายได้ชิวๆ พร้อมเตรียมแผนเปิดโครงการที่ 6 ภายในปีนี้

นางศรีมาลา พรรณเชษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาลาดา จำกัด กล่าวในงานแกรนด์โอเพนนิ่ง โครงการ มาลาดา แม่ริม เมื่อวันที่ผ่านมา ว่า บริษัท มาลาดา จำกัด เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์น้องใหม่ของจังหวัดเชียงใหม่ จัดทำโครงการแรกบนถนนคลองชลประทาน กับโครงการ มาลาดาโฮม แอนด์ รีสอร์ท โครงการที่ 2 จะเป็นโครงการอาคารพาณิชย์ตรงข้ามกับโรงแรมเชียงใหม่ภูคำ ในชื่อ เอ็มทาวน์ บาย มาลาดา ต่อด้วยโครงการที่ 3 เป็นโครงการคอนโดมิเนียม ในชื่อว่า “เพลย์ คอนโดมิเนียม” และโครงการที่ 4 มาลาดา เมซ MALADAMAZ บนถนนเชียงใหม่-หางดง ล่าสุด ณ ปัจจุบันเราก่อตั้งมาถึงโครงการที่ 5 แล้วกับ โครงการมาลาดา แม่ริม

นางศรีมาลา กล่าวว่า ในส่วนโครงการ มาลาดา แม่ริม โครงการล่าสุดของเรา มีเนื้อที่ทั้งหมด 19 ไร่ 82 ยูนิต มูลค่าการลงทุน 200 ล้านบาท เหตุผลที่เลือก อ.แม่ริม เนื่องจากโซนอ.แม่ริม เป็นพื้นที่ที่น่าอยู่มาก อีกหนึ่งที่ของจังหวัดเชียงใหม่ เริ่มต้นจากเมื่อหลายปีก่อน หากกล่าวถึงเศรษฐีในประเทศไทย ก็คงอยากจะมีบ้านสักหลังอยู่ที่แม่ริม แต่ด้วยอุปสรรคในทางพื้นที่ของแม่ริมนั่นก็คือ ในพื้นที่จะเป็นภูเขาค่อนข้างมากและพื้นที่สีเขียวสำหรับการเกษตรและที่เหลือส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นพื้นที่สีขาวสำหรับหน่วยงานราชการ ดังนั้นพื้นที่ที่มีไว้สำหรับพัฒนาก็จะมีน้อยมาก นั่นก็หมายถึงราคาที่แพงขึ้น ย่านนี้ถือเป็นย่านที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทุกโครงการมีความต้องการ แต่หาพื้นที่ค่อนข้างยากนี่จึงถือเป็นความโชคดีของมาลาดาที่ได้ที่ดินแปลงนี้มาเมื่อหลายปีก่อน และทางเราจึงเห็นว่าย่านนี้เรายังไม่มีโครงการมาก่อน จึงริเริ่มคิดจะทำโครงการมาลาดาแม่ริมนี้ แม้ภาวะเศรษฐกิจจะยังนิ่งแต่เนื่องด้วยทำเลที่ดีจึงมีแนวคิดมาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ และคาดว่ามาลาดาแม่ริม 2, 3, 4 จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ด้วย

“จากภาวะเศรษฐกิจที่ยอมรับว่ายังไม่กระเตื้องนั้น โครงการมาลาดามองว่า ถ้าเราเน้นจุดยืนหลักๆของเราที่ให้กับลูกค้า ในเรื่องของคุณภาพเรื่องของดีไซน์และทำเลเชื่อว่าจะยังใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสได้ โครงการเราทั้งหมดในช่วงที่ผ่านมาสามารถปิดยอดขายไปได้ถึง 300 กว่ายูนิต และกลุ่มลูกค้านี้ถือเป็นลูกค้าตัวจริงไม่ใช่เป็นกลุ่มที่ซื้อเก็งกำไร จากประวัติของโครงการแรก ลูกค้าเข้าอยู่เกือบ 90 เปอร์เซ็น ดังนั้นถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ก็จะไม่มีผลกระทบ เนื่องจากความต้องการซื้อของกลุ่มลูกค้าตัวจริงยังมีเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ แต่เมื่อทุกๆคนตระหนักว่าเศรษฐกิจไม่ดี จึงทำให้นักลงทุนหน้าใหม่หรือแม้กระทั่งหน้าเก่าที่อาจจะมีสต็อกอยู่ในมือก็จะไม่กล้าที่จะเปิดโครงการใหม่ ๆ ขึ้นมา จึงทำให้กลายเป็นโอกาสที่เราจะเปิดโครงการในช่วงนี้ จะเห็นว่าในปี 59 ที่ผ่านมา ซึ่งเศรษฐกิจเหมือนจะไม่ดีเต็มที่แล้วแต่ทางมาลาดาก็สามารถปิดยอดโอนได้หลายยูนิตเลยทีเดียว” นางศรีมาลา กล่าว.

ด้านนางสาวอลีนา พรรณเชษฐ์ ผู้ช่วยกรรมการ บริษัท มาลาดา จำกัด กล่าวเสริมว่า ความแตกต่างของโครงการมาลาดาแม่ริม สิ่งแรกที่มองเห็นได้ชัดก็คือ ทำเล เนื่องจากโครงการที่ผ่านมาทั้งสี่โครงการจะอยู่โซนทางหางดง และในตัวเมือง แต่ว่าโครงการนี้เป็นโครงการแรกที่เรามาทำที่แม่ริม และความแตกต่างขั้นต่อไปคือเรื่องของดีไซน์ เพราะเมื่อเรามาทำที่แม่ริมแล้ว เราจึงออกแบบให้เข้ากับพื้นที่ จากเดิมที่เราเคยทำออกแนวโมเดิร์นมาตลอด โครงการนี้จะเป็นโครงการแรกที่จะเป็นดีไซน์โมเดิร์นวินเทจเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ ในส่วนของรูปแบบของบ้านจะมีทั้งหมด 3 แบบ คือแบบสไมล์ พื้นที่ 30 ตารางวา 148 ตารางเมตร แบบเมโลดี้ พื้นที่ใช้สอย54 ตารางวา 187 ตารางเมตร และลักชัวรี่ พื้นที่ใช้สอย 63 ตารางวา 226 ตารางเมตร นอกจากนี้ทางมาลาดายังมีสิ่งอำนวยความสะดวกจัดให้เป็นพื้นฐานเหมือนกันทุกโครงการ เช่น เรื่องความปลอดภัย ฟิตเนส สระว่ายน้ำ และจุดเด่นของสระว่ายน้ำในโครงการแม่ริมนี้จะพิเศษคือเป็นสระว่ายน้ำแบบอินดอร์ในร่ม และมีห้องสมุดเพิ่มขึ้นมา แต่จุดที่แตกต่างจากโครงการอื่นนั่นก็คือในโครงการมาลาดาแม่ริมนี้จะมีไบค์เลนหรือทางจักยานแทรกอยู่ในโครงการทั้งหมดมีถึง 7 จุดด้วยกัน ทำให้มีพื้นที่สีเขียวและเหมาะสำหรับผู้ที่รักในการปั่นจักรยานอีกด้วย

“เราคาดว่าจากการจัดงานแกรนด์โอเพนนิ่งจบลงจะทำให้ยอดการขายมีถึง 50% ในขณะที่ภายในปี 2560 นี้ มาลาดา เรามีแผนที่จะเปิดโครงการที่ 6 ซึ่งอยู่ที่ว่าจะเลือกทำเลใด อาจจะเป็นพื้นที่แม่ริมหรือหางดง” กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาลาดา จำกัด กล่าวทิ้งท้าย

ร่วมแสดงความคิดเห็น