สานพลังประชารัฐสร้างคุณภาพชีวิต ในโรงเรียนด้อยโอกาสที่จังหวัดน่าน

โครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนที่ด้อยโอกาสของสำนักงานรองนายกรัฐมนตรี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง จับมือสานพลังประชารัฐ กับภาคเอกชนกลุ่ม อินทัช สร้างความเข้มแข็งแก่โรงเรียนด้อยโอกาสที่น่าน สร้างความสุขให้มีน้ำสะอาดอุปโภคบริโภค ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ช่วยเสริมศักยภาพชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ขององค์การสหประชาชาติ

เมื่อเร็วๆ นี้ ที่โรงเรียนบ้านร่มเกล้า หมู่ที่ 10 ตำบลน้ำพาง อำเภอแม่จริม จังหวัดน่าน พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีส่งมอบโครงการระบบผลิตน้ำดื่ม ให้กับโรงเรียนบ้านร่มเกล้า อำเภอแม่จริม โรงเรียนบ้านสันเจริญ อำเภอท่าวังผา และ โรงเรียนราษฏร์รัฐพัฒนา อำเภอสันติสุข ภายใต้โครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนที่ด้อยโอกาสของสำนักงานรองนายกรัฐมนตรี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง โดยมี นายไพศาล วิมลรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พลตรี วิทยา วรรคาวิสันต์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 พร้อมด้วยข้าราชการ หน่วยงานและประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับและร่วมในพิธี


ตามโครงการความร่วมมือแบบประชารัฐ ที่สืบเนื่องจากบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ อินทัช ภาคเอกชนที่มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับนักเรียน โรงเรียนและชุมชน โดยเข้าร่วมโครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนที่ด้อยโอกาสของสำนักงานรองนายกรัฐมนตรี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของโรงเรียนให้มีความเหมาะสม มีหลักโภชนาการ มีการเสริมสร้างสุขภาพอนามัย รวมทั้งพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการศึกษา ส่งเสริมให้เกิดสภาพแวดล้อม และบรรยากาศที่ดีต่อการใช้ชีวิตของนักเรียนในโรงเรียน ที่ประสบปัญหาน้ำดื่มที่ไม่สะอาด รวมถึงการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย โรงเรียนบ้านร่มเกล้า อำเภอแม่จริม, โรงเรียนบ้านสันเจริญ อำเภอท่าวังผา และโรงเรียนราษฎร์รัฐพัฒนา อำเภอสันติสุข โดยบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ เข้าร่วมดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของทั้ง 3 โรงเรียนที่สอดคล้องกับความต้องการของสังคมและชุมชน และนำศักยภาพของบริษัทในกลุ่มอินทัชมาบูรณาการและสร้างประโยชน์ใน 3 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการจัดทำระบบน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคจากประปาภูเขาด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อให้นักเรียน โรงเรียนและชุมชนมีน้ำสะอาดสำหรับดื่มและใช้ในชีวิตประจำวันในการดำรงชีวิต ด้านระบบเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสาร เอไอเอส ติดตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการติดต่อสื่อสารสำหรับประชาชนในพื้นที่ พร้อมติดตั้ง AIS PLAYBOX ให้นักเรียนได้ใช้ประโยชน์ และด้านการศึกษา ไทยคม และซีเอส ล็อกซอินโฟ สนับสนุนติดตั้งจาน DTV ไทยคิดไทยคม ทุนสนับสนุนโครงการของโรงเรียน และตู้หนังสือ โดยการพัฒนาทั้ง 3 ด้านมีส่วนสำคัญในการส่งเสริม สนับสนุนให้โรงเรียนและชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนด้วย

นอกจากนี้โครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนที่ด้อยโอกาสฯ ยังได้มอบถังบรรจุน้ำดื่ม จำนวน 15 ถัง ขนาด 2,200 ลิตร ให้โรงเรียนละ 5 ถัง เพื่อนำไปสำรองน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคในโรงเรียน, ไทยคม และ ซีเอส ล็อกซอินโฟ สนับสนุนติดตั้งจาน DTV ไทยคิดไทยคม เพื่อการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียมที่ช่วยเปิดโลกทัศน์แห่งการเรียนรู้ของนักเรียน และมอบทุนดำเนินโครงการต่าง ๆ แก่โรงเรียน รวมทั้ง มอบตู้หนังสือ และสื่อการเรียนการสอน เสริมสร้างคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนที่ด้อยโอกาส อีกด้วย

ทั้งนี้ พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นอีกโครงการหนึ่งที่พยายามให้การพัฒนาเข้าถึงพื้นที่ด้อยโอกาสเช่นพื้นที่นี้ ซึ่งนอกจากนักเรียน โรงเรียน และชุมชนจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนแล้ว ยังได้รับข้อมูล สาระความรู้ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต และเทคโนโลยีทางไกลผ่านดาวเทียม สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการปฏิรูประบบการศึกษาที่ต้องการส่งเสริมให้คนทุกเพศทุกวัยได้รับโอกาสในการพัฒนาด้านต่าง ๆ อย่างทั่วถึงเท่าเทียมกัน รวมทั้งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals–SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ในด้านการจัดการน้ำและสุขาภิบาล การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี และการได้รับการศึกษาที่เท่าเทียมกัน และพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต โดยเป็นอีกความร่วมมือหนึ่งตามแนวประชารัฐ

ด้านนายฟิลิป เชียง ชอง แทน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัทฯ เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของนักเรียนและชุมชน จึงได้เข้าร่วมโครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของนักเรียนในโรงเรียนที่ด้อยโอกาส เมื่อปี 2559 จากการสำรวจสภาพพื้นที่และประชุมร่วมกับชาวบ้านในชุมชนพบว่า ทั้ง 3 โรงเรียนตั้งอยู่บนพื้นที่ภูเขาสูง ห่างไกลและทุรกันดาร ขาดแคลนน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภค น้ำที่ใช้มีลักษณะขุ่น เจือปนด้วยสารเคมีที่ตกค้างจากการใช้ยาปราบศัตรูพืชในการทำการเกษตรซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของนักเรียนและชุมชน อินทัช จึงได้ดำเนินการจัดทำระบบการผลิตน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคจากประปาภูเขาด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ โดยสนับสนุนองค์ความรู้ในการบริหารจัดการน้ำจากผู้เชี่ยวชาญ และดำเนินการจัดทำระบบน้ำตั้งแต่ต้นทางจนมาถึงผู้บริโภค คือ นักเรียน ครู และชาวบ้านในชุมชนได้มีน้ำสะอาดไว้อุปโภคบริโภค ทั้งนี้ น้ำที่ได้จากโครงการยังผ่านการตรวจสอบคุณภาพจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1 เชียงใหม่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่าสามารถนำไปบริโภคได้อย่างปลอดภัยบริษัทฯ สนับสนุนโครงการนี้ โดยมุ่งหวังให้นักเรียน โรงเรียน และชุมชนได้ดื่มน้ำที่สะอาด ลดปัญหาโรคภัยต่างๆ ส่งเสริมการมีสาธารณูปโภคจำเป็นขั้นพื้นฐาน รวมทั้ง สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ ก่อให้เกิดความสามัคคี การช่วยเหลือเกื้อกูลกันระหว่างโรงเรียนและชุมชนให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในอนาคต

ทั้งนี้การดำเนินโครงการผลิตน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคจากประปาภูเขาด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เริ่มจากวางท่อส่งน้ำเพื่อนำน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติมาสู่โรงเก็บน้ำที่สร้างขึ้น ขนาดความจุ 12,000 ลิตร ส่งต่อไปยังโรงกรองน้ำดื่ม ด้วยเครื่องกรองน้ำระบบ RO (Reverse Osmosis) ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) มาเป็นพลังงานทดแทนพลังงานไฟฟ้า ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า ลดต้นทุนการผลิตน้ำ และเป็นพลังงานทดแทนที่สะอาดไม่สร้างมลภาวะที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม นับเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่นำมาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม โดยสามารถผลิตน้ำดื่มได้ 6,000 ลิตร/วัน ให้บริการแก่นักเรียน ชุมชน รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ได้อย่างเพียงพอ และยังมีรายได้เสริมจากการบริหารจัดการน้ำให้ชาวบ้านซื้อน้ำในราคาถูกได้อีกทางหนึ่ง

ร่วมแสดงความคิดเห็น