กรมป่าไม้สั่งรื้อสายเคเบิ้ลสลิง(ซิปไลน์)ปางช้างแก่งกึ๊ด อ.แม่แตง ตรวจสอบพบบุกรุกและดำเนินคดีเจ้าของ

 บุกตรวจปางช้างแก่งกึ๊ด อำเภอแม่แตง สั่งรื้อถอนสายเคเบิ้ลสลิงหรือซิปไลน์ จำนวน 6 ฐาน หลังตรวจสอบพบมีการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อก่อสร้างเคเบิ้ลสลิง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แตง หากผลการตรวจพิสูจน์ปรากฏว่ามีการนำ เอกสาร ส.ค. 1 จากพื้นที่อื่นมาสวมสิทธิ์ หรือไม่ได้มีการทำประโยชน์มาก่อน ก็จะถือว่าเอกสาร ส.ค. 1 ดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นการบุกรุก พื้นที่ป่า ก็จะดำเนินคดีกับผู้บุกรุกอย่างเฉียบขาดต่อไป

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2560 เวลา 10.00 น.นายสายพิณ เปียสวน ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) ได้นำคำสั่งสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) ที่ 62/2560 เข้าไปติดประกาศที่ปางช้างแก่งกื้ด หมู่ที่ 1 ตำบลกื้ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แตง ที่มีการก่อสร้างเครื่องเล่นเคเบิ้ลสลิงหรือซิปไลน์ จำนวน 6 ฐาน เพื่อแจ้งให้ นายดวงงาม ศรีดวงแก้ว ดำเนินการรื้อถอนสายเคเบิ้ลสลิงและฐานต่างๆ ออกไปจากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ โดยจะครบกำหนดติดประกาศให้รื้อถอนในวันที่ 21 เมษายน 2560 หากพ้นกำหนดนี้แล้วยังไม่มารื้อถอน ทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) ก็จะดำเนินการรื้อถอนเองและจะคิดค่ารื้อถอนจากทางเจ้าของต่อไป

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2558 นายสนั่น เผือกพันธุ์ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม.8 (ปางกว้าง) ได้นำคณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบปางช้างแก่งกื้ด พบมีการก่อสร้างเครื่องเล่นเคเบิ้ลสลิงหรือซิปไลน์ จำนวน 6 ฐาน มีความยาวระยะสายเคเบิ้ลทั้งหมด 714 เมตร โดยมีนายดวงงาม ศรีดวงแก้ว รับเป็นเจ้าของ คณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบปรากฏว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แตง ตรวจสอบพบเครื่องเล่นเคเบิ้ลไม่ได้ขึ้นทะเบียน และไม่ได้มีการขออนุญาตใช้ประโยชน์พื้นที่ป่า จึงได้ตรวจยึดเครื่องเล่นเคเบิ้ลสลิงที่บุกรุกพื้นที่ป่า 0-3-75 ไร่ และควบคุมตัวนายดวงงาม ศรีดวงแก้ว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่แตง ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งศาลจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2560 พิพากษาว่านายดวงงาม ศรีดวงแก้ว มีความผิดตาม พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 พิพากษาจำคุก 6 เดือน ปรับ 25,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และให้จำเลยและบริวารออกไปจากบริเวณเขต ป่าสงวนแห่งชาติ ภายหลังจากที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้มีคำพิพากษาแล้ว สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) ได้มีหนังสือฉบับลงวันที่ 24 มกราคม 2560 แจ้งให้นายดวงงาม ศรีดวงแก้ว โต้แย้งและแสดง พยานหลักฐานภายใน 15 วัน หากพ้นกำหนดจะถือว่ารับทราบและไม่ประสงค์จะโต้แย้งสิทธิ์ ซึ่งได้ล่วงเลย กำหนดมานานแล้ว สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) จึงใช้อำนาจตามมาตรา 25 แห่ง พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ออกคำสั่งสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) ที่ 62/2560 ลงวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2560 และติดประกาศแจ้งให้นายดวงงาม ศรีดวงแก้ว ดำเนินการรื้อถอน สายเคเบิ้ลสลิงและฐานต่างๆ ออกไปจากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ โดยจะครบกำหนดติดประกาศให้รื้อถอน ในวันที่ 21 เมษายน 2560 หากพ้นกำหนดนี้แล้วยังไม่มารื้อถอน ทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) ก็จะดำเนินการรื้อถอนเองและจะคิดค่ารื้อถอนจากทางเจ้าของพร้อมกับเงินเพิ่มในอัตราร้อยละยี่สิบห้า ต่อปี และยังมีความผิดฐานขัดคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่อีกข้อหาหนึ่ง

นอกจากนี้แล้ว นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ ยังได้สั่งการให้ทุกจังหวัดตรวจสอบว่ามีเครื่องเล่น เคเบิ้ลสลิงที่อยู่ในเขตป่าหรือไม่ ซึ่งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มีเครื่องเล่นเคเบิ้ลสลิงที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ทั้งหมด จำนวน 12 ราย สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) ได้ทำการตรวจยึดดำเนินคดีไปแล้ว 6 ราย ส่วนอีก 6 ราย อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารการครอบครองที่ดิน โดยผู้ประกอบการจะอ้างว่ามีเอกสารการ แจ้งครอบครองหรือ ส.ค. 1 ซึ่งสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) จะประสานงานกับสำนักงานที่ดิน จังหวัดเชียงใหม่ตรวจสอบเอกสาร ส.ค. 1 ว่าถูกต้องตรงกับแปลงที่ดินหรือไม่ และจะมอบหมายให้ผู้เชี่ยวชาญ ตรวจสอบจากภาพถ่ายทางอากาศย้อนหลังแต่ละชั้นปีไปจนถึงปี พ.ศ. 2495 ว่าได้มีการเข้าครอบครองทำ ประโยชน์มาจริงหรือไม่ หากผลการตรวจพิสูจน์ปรากฏว่ามีการน เอกสาร ส.ค. 1 จากพื้นที่อื่นมาสวมสิทธิ์ หรือไม่ได้มีการทำประโยชน์มาก่อน ก็จะถือว่าเอกสาร ส.ค. 1 ดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นการบุกรุก พื้นที่ป่า ก็จะดำเนินคดีกับผู้บุกรุกอย่างเฉียบขาดต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น