ลุงภูมิ ขอเดินตามรอยศาสตร์พระราชา

เกษตรตามรอยพ่อ เปิดตำราของศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติที่ยั่งยืน น้อยคนที่จะได้นำเอาควารู้ คำสั่งสอนจากพระองค์ท่านมาปฎิบัติและพัฒนานำมาใช้เอง และใช้ในการเกษตร วันนี้เราได้เจอลุงคนหนึ่งที่เป็นผู้คิดค้นเอาเรื่องการนำน้ำมาใช้จากแหล่งน้ำเล็กๆ ที่ใช้แรงดันของน้ำเองสามารถเอาน้ำนั้นมาใช้รถต้นไม้ ในสวนได้เลยโดยที่ไม่ใช้ไฟฟ้า น่าปลื้อมากกับไอเดีย์เจ๋งๆ ของหนุ่มใหญ่วัย 62 ปี ลุงภูมิ หรือ นายภูมิพัฒน์ ตันติวัฒนชัยกุล จากหนุ่มปวส. ที่หลายคนมองข้ามเขาไป แต่วันนี้กลับมีคนเรียกเป็นอาจารย์ ด้วยประสบการร์และความชำนาญงานในด้านเครื่องจักรกล มา 30 กว่าปี พร้อมกับคิดค้นในด้านอื่นๆ อีกเพียบ

จาก..ช่างซ่อมเครื่องจักรกลหนัก ระบบไอดรอลิก ระบบไฟฟ้าควบคุม รถดับเพลิงทุกชนิด และเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องตะบันน้ำ ผู้ที่คิดค้นและพัฒนาต่อยอดแนวคิด ตามหลักการของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช ในการประดิษฐ์เครื่องตะบันน้ำ ซึ่งมีหน่วยงานของรัฐเป็นผู้ที่สนองโครงการเป็นผู้รับผิดชอบศาสตร์พระราชา แต่กลับไม่ประสานงานต่อ ลุงภูมิ เห็นว่าเครื่องตะบันน้ำนี้เป็นสิ่งที่ดี จึงผลิตมาใช้ในสวนที่บ้านแม่หลอดเหนือ หมู่ 10 ตำบลสบเปิง อำเภอ แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ สูงจากระดับน้ำทะเล 680 เมตร บนสวนมีแท้งค์น้ำที่เก็บน้ำไว้ 5 แท้งค์ด้วยกัน ก็อาศัยแรงดันจากเครื่องตะบันน้ำสองเครื่องที่ส่งน้ำขึ้นไปให้ได้ไว้รดกล้าพันธุ์ไม้ทั้งหลาย

ซึ่งเดิมมีปัญหาเกี่ยวกับการใช้น้ำในพื้นที่เกษตร จึงได้ไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากเว็บไซต์ต่างๆ จนได้มาพบแนวคิดในเว็บไซต์โครงการพระราชดำริ ของในหลวง ที่มีมาตั้งแต่พศ.2521 และได้ไปศึกษาเพิ่มเติมจากห้องสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เครื่องตะบันน้ำนี้อยู่ในข้อที่6 ซึ่อยู่หนึ่งในสิบข้อของการบันทึกในศาสตร์พระราชา นับเป็นความภูมิใจของลุงภูมิ ที่ได้คิดค้นมาใช้ และนำมาทดลองใช้เองแรกๆก็ทำผิดๆถูกๆบ้าง พอได้ทดลองใช้ก็หาข้อผิดพลาดจากจุดนั้น จุดนี้มาปรับปรุงแก้ไขมาเรื่อยๆจนดีและใช้งานได้ยาวนาน

สำหรับเครื่องเล็กๆที่เห็นอยู่นี้ลุงภูมิผลิตเองบอกว่าใช้มา 10 ปีแล้ว เครื่องนี้ใช้ในสวน กว่าจะออกมาเป็นเครื่องตะบันน้ำที่สมบูรณ์แบบใช้ในปัจจุบัน โดยไม่ใช้ระบบไฟฟ้าเข้ามาช่วย และได้พัฒนาต่อยอดมาเป็นอาชีพ ทำให้หน่วยงานทางราชการได้เล็งเห็นถึงความสำคัญจึงได้ช่วยเข้ามาทำงานร่วมกับกองบัญชาการหน่วยรบพิเศษ เรื่องการใช้เครื่องตะบันน้ำให้เพื่อนำระบบน้ำนี้ไปเพื่อช่วยชาวเกษตรกรพื้นที่สูงที่มีปัญหาในเรื่องการใช้น้ำ ประปาภูเขาก็ยังทำไม่ได้ เท่ากับเครื่องตะบันน้ำนี้ แรงดัน การส่งน้ำไปเก็บไว้ในบนแท้งค์ เครื่องนี้ทำได้ดี


ในหนังสือบอกไว้ว่าในจังหวัดเชียงใหม่มีใช้อยู่ 3 อำเภอ คือ อำเภออมก๋อย อำเภอแม่วาง และอำเภออ่างขาง ยังจะใช้ได้ดีอยู่หรือไม่อันนี้ก็ไม่ทราบ เพราะสามจุดนี้ลุงไม่ได้เป็นคนทำ ที่เห็นได้ชัดและกล้ารับรองได้ก็สวนของลุงนี้แหละก่อนหน้านี้ก็ได้ส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศลาว และประเทศพม่า อีกด้วย พร้อมให้คำแนะนำทุกอย่าง ซึ่งทางโน้นก็ยอมรับและได้มีน้ำใช้กันอย่างแฮปปี้ ซึ่งลุงภูมิได้เอารูปที่ทางประเทศเพื่อนบ้านส่งมาให้ ให้เราได้ดูกัน พร้อมกับออเดอร์ที่กำลังสั่งมาอีก พร้อมกับของปตท.ที่ไปทำจ.กาญจนบุรี น่าภาคภูมิใจแทนคนไทยเราที่เก่งอย่างนี้

และเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาทางลุงภูมิ ก็ได้ไปร่วมงานเปิดการใช้เครื่องตะบันน้ำของพี่น้องชาวม้ง ที่เขาข้อ ซึ่งที่นี่ได้สั่งเอาเครื่องตะบันน้ำจากลุงภูมิไปใช้สามตัวใหญ่ โดยมีกองทัพบก เป็นผู้สนับสนุน และจะเอาที่ตรงนี้เป็นศูนย์การเรียนรู้ การผลิตน้ำได้จริง และไม่ใช้ไฟฟ้ามาช่วยแต่อย่างใด พร้อมที่จะนำไปใช้ในโครงการพระราชดำริอีกด้วย ส่วนรายละเอียดลึกๆอะไรที่ใครสนใจนั้น ท.ลุงเกษตร ก็ขอให้ผู้ที่สนใจ ติดต่อสอบถามมาโดยตรงกัลลุงภูมิ ได้เลยที่หมายเลข 081-992 0468

บอกได้เลยว่าเครื่องนี้ดีจริง ใช้ได้จริง ท.ลุงเกษตรและทีมงานได้ไปสัมผัส ได้เปิดน้ำใช้กับมือมาแล้วแรงจริง ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่จะให้เอาเครื่องตะบันน้ำไปติดตั้ง ลุงภูมิบอกมาว่า ต้องมีแหล่งน้ำสูง 2 เมตร เป็นแหล่งน้ำไหล น้ำที่เก็บอยู่ในสระ ไม่เหมาะสม ถ้าจะให้ดี ก็บอกลุงเขาไปดูพื้นที่ก่อนได้ เห็นหน้าตาลุงเค้าอย่างนี้ไม่ต้องกลัวนะ ลุงภูมิเป็นคนใจดีมาก คุยสนุก พร้อมที่จะให้คำชี้แนะและช่วยเหลือพี่น้องคนไทยเสมอในเรื่องนี้ ลุงบอกว่าขอเป็นส่วนหนึ่งในการเดินตามรอยบาท ศาสตร์พระราชา ที่จะช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน

ถือว่าเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่นำหนึ่งในศาสตร์ของพระราชา มาประยุกต์ใช้ในวิถีชีวิต และกำลังจะเป็นอีกก้าวหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติของเรา โบราณท่านว่า สิบปากว่า ยังไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นก็ยังไม่เท่าได้มาดูของจริง ดอยที่ว่าสูงไม่มีน้ำใช้ แต่ลุงภูมิทำได้ จะเห็นชัดที่สวนของลุงเอง ข้อมูลเพิ่มเติมโทรมาสอบถามกันเองที่ หนุ่มใหญ่วัย 62 ปี ลุงภุมิ 081-992 0468 เครื่องตะบันน้ำ

[email protected]
ท.ลุงเกษตร

ร่วมแสดงความคิดเห็น