ยุทธจักร โล่ห์เงิน วันที่ 07 เม.ย. 60

นายดาบริค รายงานตัวเข้าเวรประจำวัน ศุกร์ที่ 7 เมษายน 2560…ตำรวจภาค 5 มีโครงการดี !!!…โดยการนำของ พล.ต.ท. พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ. 5 ให้จัดทำโครงการอบรมเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้านการพูดในที่สาธารณะ ของตำรวจภูธรภาค 5 กองบังคับการอำนวยการ ตำรวจภูธรภาค 5 การฝึกอบรมโครงการนี้ ดำเนินการขึ้น เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในทุกๆ ด้าน ที่ผ่านมาประชาชนมักจะทราบถึงผลการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ เท่าที่ปรากฏจากการนำเสนอของสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เพียงด้านเดียว สร้างความเคลือบแคลงใจ ต่อประชาชน ที่รับรู้ รับทราบ เฉพาะประเด็นที่สื่อมวลชนนำเสนอเท่านั้น ทำให้ผลงานของตำรวจ ไม่เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณะ สาเหตุหนึ่งซึ่งต้องยอมรับ คือขาดการประชาสัมพันธ์ในเชิงรุก หรือขาดการพูดหรือผู้พูดที่ดี โดยเฉพาะการพูดในที่สาธารณะ หากผู้พูดไม่เคยรับการฝึกอบรมมาก่อน หรือไม่มีประสบการณ์ในการพูด ก็จะทำให้การพูดในเรื่องนั้นๆ เกิดผลในทางลบต่อผู้พูดโดยตรง ทั้งยังส่งผลกระทบทางลบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรอีกด้วย !!!…

เพื่อเพิ่มศาสตร์และสร้างศิลป์ ในการพูดให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจภูธรภาค 5 จึงได้จัดการฝึกอบรมตามโครงการนี้ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับความรู้ ความเข้าใจในหลักการพูดในสถานการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะการพูดในที่สาธารณะ มีผู้ฟังจำนวนมาก หรือพูดสื่อสารในสถานการณ์นั้นๆ ได้อย่างมั่นใจ เกิดสาระต่อผู้ฟัง ผู้ปฏิบัติ ได้มีโอกาสรับความรู้ รับประสบการณ์การฝึกอบรมด้านการพูด โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศ มีความพร้อม ความมั่นใจ ในการปฏิบัติหน้าที่มากยิ่งขึ้น ผู้รับการฝึกอบรมเป็นข้าราชการตำรวจ สังกัดตำรวจภูธรภาค 5 ระดับตั้งแต่สารวัตรขึ้นไป อบรมจำนวน 1 วัน …

คาดว่า เมื่อการฝึกอบรมตามโครงการนี้ เสร็จสิ้นแล้ว ข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 5 จะมีความมั่นใจ ในการพูดของตนเองมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในการพูดต่อที่สาธารณะ หรือในสถานการณ์ที่มีผู้ฟังจำนวนมากได้อย่างมีหลักการ สร้างความศรัทธา สร้างการรับรู้ ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้อย่างไม่ขาดสายเพื่อให้ภาพลักษณ์ขององค์กรได้รับการชื่นชม ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ…ไปที่ สภ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เกิดเหตุลูกทรพี ทาสยานรก ทำร้ายแม่จนตาย ก่อนจะหลบหนีไป…

เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นขณะที่ ร.ต.อ.ฐิติกร แสนกันทะ รองสารวัตร สอบสวน สภ.เชียงดาว กำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่นั้นได้รับแจ้งความจาก นายดวงดี แก้วดาว อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 297/7 ม.7 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ว่า นางอัมพร ดวงใจ อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นภรรยา ถูกลูกชายแท้ๆ ทำร้ายอาการสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล ขอให้เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวลูกทรพีรายนี้มาลงโทษด้วย และขอประกาศหากใครพบเห็น นายธงชัย แก้วดาว อายุ 36 ปี ซึ่งมีอาการคล้ายคนเมายาอยู่ตลอดเวลา ขอให้แจ้งตำรวจจับกุมโดยด่วนและอย่าเข้าใกล้เพราะถือว่าเป็นบุคคลอันตราย !!!…ฝากถึง (เชียงดาว 1) พ.ต.อ.ศักดิ์ศรี ยะปาละ ผกก.สภ.เชียงดาว ตามลากคอ วายร้าย ลูกทรพี รายนี้มารับโทษและชดใช้กรรมโดยด่วน !!!… ปล่อยไว้ไม่มีประโยชน์ คนแบบนี้…มันเลวระยำมาก ทำร้าย แม้กระทั่ง ผู้บังเกิดเกล้า เลี้ยงตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย ยังเนรคุณ อยู่ไปก็รกที่ เป็นขยะสังคมเปล่าๆ ครับ …

บรรทัดนี้ เป็นห่วงสถานการณ์ยาเสพติด ช่วงเทศกาลสงกรานต์ …คนร้ายอาจจะฉวยโอกาส ช่วงที่ประชาชนกลับบ้าน ปะปน แล้วแอบซุกยาบ้า เพราะขบวนการมาทุกรูปแบบ …วันก่อน ก็ซุกมากับกะปิ ป้องกันการดมกลิ่นของสุนัขตำรวจ !!!..

งานนี้ ต้องชื่นชม ทหาร ตำรวจ แก่งปันเต๊า ครับ …และแน่นอน ต้อง คนนี้ พ.ต.อ.ศักดิ์ศรี ยะปาละ ผกก.สภ.เชียงดาว และ พ.ต.ท.ภาสกร ปกปิงเมือง รอง ผกก.ป.สืบทราบว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดผ่านพื้นที่ จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.ดวงเด็ด กันทะคำ สว.สส. จับกุม นายอเนก หอยสังข์ อายุ 35 ปี ที่อยู่ 17/5 ม.4 ต.หนองหนาม อ.เมือง จ.ลำพูน และ น.ส.แรม บุญยัง อายุ 32 ปี ที่อยู่ 151/1 ม.16 ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ โดยกล่าวหาว่าร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย โดย จับกุมได้ที่ด่านแก่งปันเต๊า ต.แม่นะ อ.เชียงดาว ซุกซ่อนอยู่ในกระปุกใส่กะปิ ใส่ในถุงหิ้วพลาสติกใสวางไว้ตะกร้าใส่ของหน้ารถจักรยานยนต์ จำนวน 200 เม็ด แต่เหนือสิ่งอื่นใด ไม่รอดมือ ตำรวจไทย …ยอดเยี่ยมครับ …

นายดาบริค ออกเวรแล้ว เจอกันฉบับต่อไป…

นายดาบริค

ร่วมแสดงความคิดเห็น