สกู๊ปหน้า1..ใช้กล้อง cctv รับมือปี๋ใหม่เมือง

ที่บริเวณศูนย์ควบคุมสัญญาณไฟจราจรและกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เทศบาลนครเชียงใหม่ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รอง ผวจ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.อ.เศรษฐพล เกตุเต็ม รองผบ.มทบ.33 พ.ต.อ.ฐาปนพงศ์ ชัยรังษี พ.ต.อ.ฐาปนพงศ์ ชัยรังษี ผกก.กลุ่มงานจราจร ภ.จว.เชียงใหม่ และ นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ได้ร่วมกันเปิด งานประชาสัมพันธ์เพื่อความปลอดภัยในการท่องเที่ยวงานประเพณีสงกรานต์ ด้วยระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ควบคุมปัญหาที่อาจจะเกิดจากอาชญากรรม ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุทางถนน รวมทั้งเป็นการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมีประสิทธิภาพสูงมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน โดยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด สามารถตรวจจับภาพด้วยกล้องที่มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล สามารถเห็นภาพได้อย่างคมชัดและส่งสัญญาณภาพที่ได้จากสถานที่ต่างๆ ผ่านระบบดิจิตอล ไปยังศูนย์ควบคุมระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (cctv control center) โดยมีสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานจำนวนมาก

โดยทาง นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เทศบาลนครเชียงใหม่ ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด cctv เพิ่มเติมรวมขณะนี้มีกว่า 300 จุด โดยสร้างพื้นที่ปลอดภัย หรือ Safety Zone เพื่อเป็นการป้องกันและลดการเกิดอาชญากรรม เพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินในช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมถึงการบันทึกภาพเพื่อเก็บพยานหลักฐานทางด้านอาชญากรรม รวมถึงเก็บหลักฐานบันทึกภาพของผู้ใช้รถใช้ถนนที่ทำผิดกฎวินัยจราจร เพื่อจัดระเบียบความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่สาธารณะและชุมชนในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ซึ่งจะเป็นโครงการด้านความปลอดภัยตามนโยบายของเทศบาลนครเชียงใหม่ที่มุ่งเน้นการลดปัญหาอาชญากรรมด้วยการติดตั้งกล้องวงจรปิด cctv ให้ครอบคลุมทั่วเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ซึ่งปัจจุบันภายในพื้นที่เขตเทศบาลนครเชียงใหม่ มีการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด จำนวน 315 จุด และจะดำเนินการเพิ่มเติมอีก จำนวน 109 จุด ภายในปี 2560 และจะทำให้พื้นที่ในเขต เทศบาลนครเชียงใหม่มีกล้องโทรทัศน์วงจรปิดทั้งหมด 424 จุด

นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมากล้องโทรทัศน์วงจรปิดเทศบาลนครเชียงใหม่สามารถจับผู้ร้ายในคดีอาญากรรม ลัก ชิง วิ่งราวทรัพย์ และมีผู้มาขอใช้ภาพจากกล้องดูเรื่องอุบัติเหตุ ตั้งแต่ปี 2558 – 2560 แล้ว 285 คดี และในอนาคตเทศบาลนครเชียงใหม่จะได้ปรับปรุงและพัฒนาระบบการทำงานของกล้อง cctv ให้สามารถทำงานเป็นระบบการวิเคราะห์สัญญาณภาพและแจ้งเตือนอัตโนมัติ ที่เรียกว่าระบบ Video Content Analysis (VCA) หรือระบบโทรทัศน์วงจรปิดอัจฉริยะ โดยระบบ VCA จะคอยทำหน้าที่แจ้งเตือนภัยล่วงหน้าให้ผู้ควบคุมระบบ เพื่อจะได้เข้าไปแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์วัตถุต้องสงสัย ที่ถูกวางทิ้งไว้ในจุดอ่อนไหวเกินเวลาที่กำหนด หรือการแจ้งเตือนหากมีผู้บุกรุกเข้าในเขตหวงห้าม และหากใช้ร่วมกับกล้องโทรทัศน์วงจรปิดชนิดหมุนได้รอบตัว จะสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของบุคคลต้องสงสัยได้โดยอัตโนมัติ แม้จะไม่มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในห้องควบคุม แต่ระบบจะทำการแจ้งเตือนผ่านทาง E-Mail หรือ SMS อีกทั้งยังสามารถจดจำใบหน้าบุคคลต้องห้ามได้อย่างแม่นยำด้วย

นอกจากนี้เทศบาลนครเชียงใหม่ติดตั้งจุด EMERGENCY CALL ไว้อีก 4 จุด คือ ข่วงประตูท่าแพ, หน้าวัดพระสิงห์, ด้านข้างอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ และ สี่แยกกลางเวียง เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ผู้ประสบเหตุสามารถกดแจ้งเหตุฉุกเฉินได้ทันที ซึ่งสัญญาณจะถูกส่งไปที่ศูนย์ฝึกอบรมและควบคุมสัญญาณไฟจราจรด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (ATC) สำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อเขาช่วยเหลือผู้ประสบเหตุได้ทันที

ขณะที่ทางด้าน นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 1/ 2560 เพื่อวางมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของจังหวัดเชียงใหม่ โดยตั้งเป้าหมายสร้างความปลอดภัยแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บลงให้เหลือน้อยที่สุด ให้สงกรานต์เชียงใหม่ปีนี้มีความงดงามทางศิลปวัฒนธรรมล้านนา ท่องเที่ยวสนุกสนานและปลอดภัย

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้ส่งเสริมวัฒนธรรม สร้างความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยการรณรงค์และเสริมสร้างวินัยจราจรมาตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม – 10 เมษายน 2560 และในช่วงควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2560 จะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ทั้งในจุดตรวจ จุดบริการ ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่มีจุดตรวจบูรณาการ 48 จุด จุดบริการประชาชน 18 จุด ด่านรักษาความสงบเรียบร้อยของทหาร 6 จุด และด่านชุมชนในทุกชุมชน เพื่อเพิ่มความระมัดระวัง ดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากพบว่า ในช่วงเทศกาลทุกปีอุบัติเหตุส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในหมู่บ้าน/ชุมชนเป็นหลัก สาเหตุมาจากเมาสุรา และเกิดในช่วงเวลา 16.00 – 20.00 น.มากที่สุด

นอกจากนี้ ได้ให้ทุกอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง กำหนดถนนปลอดภัยในพื้นที่ 1 ท้องถิ่น 1 ถนนปลอดภัย และในที่ประชุมได้เสนอให้ใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือ กล้อง CCTV ที่มีอยู่ในพื้นที่ ทุกจุดบันทึกภาพทะเบียนรถ ผู้ไม่สวมหมวกกันน็อค และฝ่าฝืนกฎหมายจราจร ส่งให้ตำรวจจราจรเปรียบเทียบปรับย้อนหลังตามกฎหมาย การกวดขันอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะและการคุมเข้มผู้ขับขี่ที่ดื่มแล้วขับ รวมถึงการจัดตั้งจุดตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์และตรวจจับความเร็วบนถนนและเส้นทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัดเชียงใหม่

เจ็ดขุนพล

ร่วมแสดงความคิดเห็น