นานาสาระน่ารู้…อันตราย! อากาศร้อนจัด เสี่ยงเกิดโรค “ฮีตสโตรก

สภาพอากาศร้อนจัดเสี่ยงเกิดโรค “ฮีตสโตรก” หรือโรคลมแดด ซึ่งอันตรายมาก โอกาสเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 70 ผู้ที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือ ผู้สูงอายุ เด็ก คนอดนอน ดื่มเหล้าจัด รวมทั้งผู้เป็นโรคความดันสูง แนะต้องดื่มนํ้ามากๆ เพื่อป้องกัน

ขณะนี้สภาพอากาศในประเทศไทยร้อนจัดกว่าทุกปี มีความเสี่ยงในการเจ็บป่วยหลายโรค ที่ สธ.เน้นในขณะนี้ คือ โรคในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเกิดบ่อยที่สุด แต่โรคที่ยังมีการพูดถึงกันน้อยมาก คือ โรคลมแดด ซึ่งเกิดในช่วงที่สภาพอากาศร้อนจัด ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา มีประชาชนเสียชีวิตจากสาเหตุนี้ปีละประมาณ 371 คน ในประเทศไทยยังไม่เคยมีรายงานใครเสียชีวิต ซึ่งทางการแพทย์เรียกว่า ฮีตสโตรก (Heat stroke) เป็นภาวะวิกฤติของ
ร่างกาย จะไม่สามารถควบคุมความร้อนได้

โรคลมแดดนี้เป็นอาการที่เกิดจากการได้รับความร้อนมากเกิน ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังหรือเล่นกีฬาในภาวะอากาศร้อนจัดเป็นเวลานาน อาจจะเกิดขึ้นได้ แม้ผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง อาการสำคัญ ได้แก่ ตัวร้อนจัด เพ้อ หรือหมดสติ
ชีพจรเต้นเร็ว ความดันเลือดลดลง ช็อก ผิวหนังแห้งและร้อน ระดับความรู้สึกตัวลดลง การทำงานของอวัยวะต่างๆ ล้มเหลว กระสับกระส่าย เอะอะ ก้าวร้าว หมดสติ เกร็ง ชัก โดยกลไกการทำงานของร่างกายหลังจากที่ได้รับความร้อน จะมีการปรับตัวโดยส่งนํ้าหรือเลือดไปเลี้ยงอวัยวะภายใน เช่น สมอง ตับ และกล้ามเนื้อ เป็นต้น ทำให้ผิวหนังขาดเลือดและนํ้าไปหล่อเลี้ยง จึงไม่สามารถระบายความร้อนออกจากร่างกายได้ ทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น ตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อยๆ เกิน 40 องศาเซลเซียส ถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องให้การรักษาอย่างรีบด่วน เนื่องจากมีโอกาสเสียชีวิตร้อยละ 17-70

การช่วยเหลือผู้ที่มีอาการเป็นลมแดด ให้นอนราบ ยกเท้าสูงทั้งสองข้าง เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ถอดเสื้อผ้าออก ใช้ผ้าชุบนํ้าเย็นหรือนํ้าแข็งประคบตามซอกตัว คอ รักแร้ เชิงกราน ศีรษะ ร่วมกับการใช้พัดลมช่วยเป่าระบายความร้อน หรือเทนํ้าเย็นราดลงบนตัวเลย เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกายให้ตํ่าลง และรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด ในรายที่อาการยังไม่มาก ควรให้ดื่มนํ้าเปล่ามากๆ

ทั้งนี้ ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ดีเท่าคนหนุ่มสาว ผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง ที่ต้องกินยาควบคุมความดัน เช่น ยาขับปัสสาวะ ซึ่งมีผลขับสารโซเดียมออกจากร่างกาย ทำให้มีโอกาสเกิดความผิดปกติของระดับเกลือแร่ได้เร็วกว่าผู้อื่น รวมทั้งผู้ที่เป็นโรคอ้วน หรือผู้ที่อดนอน เนื่องจากจะทำให้ร่างกายตอบสนองต่อความร้อนที่ได้รับช้ากว่าปกติ

ร่วมแสดงความคิดเห็น