เชียงใหม่ บูรณาการความร่วมมือ ตั้งจุดบริการนักท่องเที่ยว ช่วงสงกรานต์


จ.เชียงใหม่ บูรณาการทุกภาคส่วน ร่วมตั้งจุดดูแลความปลอดภัย และบริการนักท่องเที่ยว 7 วัน อันตราย ช่วงเทศ กาลสงกรานต์ แนะประชาชน และนักเดินทาง หากเหนื่อยหรือง่วงสามารถแวะพักรับประทานเครื่องดื่ม และพักผ่อนได้ หวังลดอุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทในการเดินทาง พร้อมขอความร่วมมือชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวขับขี่ยวดยานพาหนะด้วยความปลอดภัย เคารพกฎจราจร

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 เม.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณริมทางหลวงหมายเลข 11 สายอินทร์บุรี – เชียงใหม่ (ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์) แยกสารภี (ขาเข้า) อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พ.อ.สืบสกุล บัวระวงศ์ รอง ผบ.มทบ.33 ได้เดินทางลงตรวจจุดบริการทั่วไทย ช่วง 7 วันอันตราย ห้วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2560 โดยมี นายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่ง จ.เชียงใหม่ และตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยจุดบริการดังกล่าวได้มีการให้บริการผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วง 7 วันอันตรายตั้งแต่ วันที่ 11 เม.ย.60 ไปจนถึง วันที่ 17 เม.ย.60 เพื่ออำนวยความสะดวกและเป็นจุดพักรถ พักคน ในการเดินทางมาจากต่างจังหวัด อีกทั้งยังมีการให้บริการตรวจเช็คความพร้อมของรถฟรี และบริการเครื่องดื่มให้กับผู้เดินทาง


ทาง พ.อ.สืบสกุล บัวระวงศ์ รอง ผบ.มทบ.33 เปิดเผยว่า เนื่องในวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ปี 2560 ซึ่งมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน และเป็นช่วงที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยว ใช้เส้นทางสัญจรในการเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยว เป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการให้บริการแก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายัง จ.เชียงใหม่ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.เชียงใหม่ ได้จัดตั้งจุดบริการประชาชน โดยร่วมกับส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอด 24 ชั่วโมง

ให้บริการดูแลผู้เดินทางและนักท่องเที่ยว ในห้วงเทศกาลสงกรานต์บนเส้นทางหลัก จำนวน 7 จุด รอบเมืองเชียงใหม่ โดยจัดชุดช่าง , ชุดเสนารักษ์ และเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 11-17 เม.ย.60 ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง เป็นจุดพักรถ บริการตรวจซ่อมรถ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ตลอดจนให้คำแนะนำข้อมูลการเดินทางแก่นักท่องเที่ยว ให้ได้รับความสะดวกและความปลอดภัย ในการใช้ยานพาหนะบนเส้นทางอีกด้วย


สำหรับมาตรการการรักษาความปลอดภัย ของสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า อันเนื่องมาจากพระราชดำรินั้น กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.เชียงใหม่ ได้จัดตั้งกองอำนวยการรักษาความปลอดภัยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูแลนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักผ่อนในพื้นที่ มีจัดระบบจราจรแบบวันเวย์ , ติดตั้งกล้องวงจรปิด 6 จุด , บริหารจัดการเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยทางน้ำ โดยจัดยามอยู่ชายฝั่งโดยรอบ , จัดตั้งหอสังเกตการณ์กลางน้ำ , จัดเรือยนต์ จำนวน 2 ลำ ทำการลาดตระเวนป้องปรามการเล่นน้ำนอกเขตแนวทุ่น และเข้าที่หมายเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ประสบเหตุจมน้ำ , จัดอากาศยานไร้คนขับ (โดลน) ติดกล้องลาดตระเวนทางอากาศโดยจะส่งข้อมูลมายังกองอำนวยการ , จัดเตรียมชุดปฏิบัติการทางน้ำ และอาสาสมัคร จากบริกรร้านค้าที่ได้ผ่านการอบรมมาแล้วรอบอ่างทุกร้าน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุจมน้ำได้ทันท่วงที

ขณะที่ทางด้าน นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ทางรัฐบาลก็ได้มีนโยบายในการลดอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนนลดน้อยลงจากปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ นั้นมีสถิติของการเกิดอุบัติเหตุทางถนนเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ และเป็นอันดับ 1 ในจำนวนครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ รวมถึงจำนวนผู้ประสบเหตุ และจำนวนผู้บาดเจ็บ ดังนั้นภายใต้ยุทธศาสตร์ของรัฐบาลในเรื่องขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร ทาง จ.เชียงใหม่ก็จะเน้นในหลายๆ เรื่องด้วยกัน คือ

เรื่องของมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยในปีนี้จะใช้คำสั่งจากหัวหน้า คสช. โดยหากไม่อยู่ในสภาพที่ขับรถได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะช่วยดูแลอำนวยความสะดวกให้ เพื่อไม่ให้ผู้ขับขี่เสี่ยงเดินทางต่อที่อันก่อให้เกิดอันตรายขึ้นได้ ส่วนอีกมาตรการที่จะเน้น คือ เรื่องของการให้บริการของหน่วยต่างๆ ที่จะคอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวกกับผู้เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง เพื่อให้ผู้เดินทางได้พักผ่อน รวมทั้งมีการแนะนำการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย เนื่องจาก จ.เชียงใหม่นั้น มีเส้นทางหลายจุดที่มักเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากผู้เดินทางที่มาจากต่างจังหวัด อาจจะไม่ชินกับเส้นทาง นอกจากนี้ยังได้เน้นในเรื่องของมาตรการที่ให้ทางชุมชน เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน โดยมีการจัดตั้งด่านชุมชน หรือให้ทางท้องถิ่นทำจุดตรวจ 1 จุด ตามเส้นทางในชุมชนเพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด

นอกจากนี้ยังได้มีการจัดการจราจรตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่ขึ้นชื่อของ จ.เชียงใหม่ โดยได้มีการจุดตั้งจุดตรวจ และจุดให้บริการแก่นักเดินทาง อีกทั้งมีการจัดระยะเวลาในการเดินทางขึ้นลง และเรื่องของเส้นทางในการเดินทาง โดยจะไม่ให้รถขับขึ้นและลง สวนกันมากจนเกินเหตุ เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายค่อนข้างสูง แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความร่วมมือของประชาชน ในการขับขี่แลการใช้ถนน จึงอยากฝากด้วยว่าในช่วงนี้เป็นช่วงของเทศกาลแห่งความสุข ที่หลายคนได้มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวกับครอบครัว จึงควรที่จะเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางให้มากยิ่งขึ้น เพื่อลดความสูญเสียและการเกิดอุบัติเหตุต่อตัวเองและผู้อื่นด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น