ประชาชนล้นอาเขต เทศกาลสงกรานต์ นักท่องเที่ยวเต็มสถานีขนส่ง

เชียงใหม่ ประชาชนและนักท่องเที่ยวแน่นอาเขต แห่เดินทางและจองตั๋วล่วงหน้า เตรียมเดินทางช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ด้านขนส่งเชียงใหม่เตรียมความพร้อม สำรองเที่ยวรถรับนักเดินทาง มั่นใจไม่มีผู้โดยสารตกค้างแน่นอน พร้อมทั้งเน้นย้ำมาตรการรักษาความปลอดภัย เปิดศูนย์ 1584 รับเรื่องร้องทุกข์ และจัดชุดเจ้าหน้าที่คอยดูแลอำนวยความสะดวก ตลอด 24 ชั่วโมง
  
วันที่ 11 เม.ย.60  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่สถานีสถานีขนส่งเชียงใหม่ แห่งที่ 3 หรืออาเขต 2 ช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์เป็นไปอย่างคึกคัก โดยตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงเย็น มีประชาชนจำนวนมากขนสัมภาระ ข้าวของต่างๆ มานั่งและนอนรอรถโดยสารที่ชานชาลา และมาเข้าแถวต่อคิวเพื่อที่จะซื้อตั๋ว เพื่อเดินทางกลับยังภูมิลำเนาตามจังหวัดต่างๆ ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์นี้ จนทำให้จุดรอรถในสถานีแน่นขนัด และคาดว่าจะมีผู้เดินทางกลับหนาแน่นไปจนถึงวันที่ 17 เม.ย.นี้
โดยในจุดรับผู้โดยสารวันนี้ พบว่ามีทั้งประชาชนที่เดินทางออกจากจังหวัดและประชาชน ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว พบว่ามีปริมาณรถโดยสารทั้งเข้าและออกมากกว่าช่วงปกติ ซึ่งขณะเดียวกันก็ได้มีการจัดชุดเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางอย่างใกล้ชิด โดยช่วง วันที่ 12  เม.ย.60 นี้ คาดว่าน่าจะมีผู้คนแห่กันเดินทางอย่างหนาแน่นยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ในส่วนของการเตรียมความพร้อมจำนวนรถโดยสารทุกเส้นทาง เพื่อรองรับการเดินทางที่มากขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้น ทางด้านสำนักงานขนส่ง จ.เชียงใหม่  ก็ได้มีการเตรียมมาตรการรองรับโดยการสำรองรถเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของผู้เดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางของภาคเหนือตอนบน คือ จากเชียงใหม่ไปยังเชียงราย รวมถึง พะเยา แพร่ น่าน ที่ถือเป็นเส้นทางที่มีผู้เดินทางมากที่สุด เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีพี่น้องประชาชนมาทำงานอยู่ที่เชียงใหม่ แล้วเมื่อถึงช่วงเทศกาลโดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ ก็จะหยุดยาวและเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อไปกราบไหว้และสระเกล้าดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ รวมถึงบรรพบุรุษ กันเป็นจำนวนมาก
ซึ่งในจุดนี้ทางบริษัทไทยพัฒนกิจขนส่ง ซึ่งเป็นผู้ประกอบการขนส่ง ได้ให้บริการรถเดินทางกับพี่น้องประชาชนที่เดินทางไปยังที่ต่างๆ 100 เที่ยว/วัน โดยพบว่าเที่ยวปรกติที่ให้บริการในขณะนี้เต็มหมดแล้ว และคาดว่ามีแนวโน้มที่จะต้องเพิ่มเที่ยวรถสูงขึ้นอีกเรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงของวันที่ 11-13 เม.ย. นี้ที่จะมีการเดินทางมากเป็นพิเศษและน่าจะต้องเสริมเที่ยวรถขึ้นอีกเป็น 100 เที่ยว โดยในขณะนี้ทางบริษัทไทยพัฒนกิจขนส่ง ก็ได้มีการวางแผนสำรองรถไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าไม่น่าจะเกิดปัญหาในการให้บริการ ด้านการเดินทางกับพี่น้องประชาชน
ขณะที่มาตรการคุ้มครองดูแลผู้โดยสาร ที่มาใช้บริการที่สถานีขนส่งผู้โดยสารนั้น มีการเน้นย้ำดำเนินการอย่างเข้มงวด ทั้งการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ, ทหาร และเจ้าหน้าที่ขนส่งเข้าดูแลความปลอดภัยของประชาชน ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังได้มีการคุมเข้มพนักงานขับรถทุกคัน ที่จะต้องตรวจวัดแอลกอฮอล์ และตรวจหาสารเสพติด เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ขณะที่ตามเส้นทางจะมีขนส่งแต่ละจังหวัดและตำรวจ คอยตั้งด่านตรวจอีกทางหนึ่งด้วย จึงขอผู้โดยสารให้มีความมั่นใจได้

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับบรรยากาศ บริเวณถนนซุเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเส้นทางสายหลาก ที่ผู้คนมักใช้สัญจรเข้ามาในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ในช่วงเทศกาลต่างๆ โดยเฉพาะเทศกาลวันสงกรานต์หรือป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองที่ถือได้ว่า เป็นเทศกาลสำคัญของทุกปีนั้น โดยจากการลงพื้นที่สำรวจพบว่า ตั้งแต่เมื่อช่วง 06.00 น. ที่ผ่านมา พบสภาพการจราจรบนถนนหลวงแผ่นดิน หมายเลข 11 ค่อนข้างมีรถมากกว่าช่วงวันปรกติ แต่ไม่หนาแน่น การจราจรยังอยู่ในสภาพคล่องและเดินทางได้สะดวก
ขณะที่เทศกาลวันสงกรานต์ หรือป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ จะเริ่มต้นขึ้นในระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2560  ซึ่งจากการประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ถึงการดูแลด้านความเรียบร้อยในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ ถึงการเดินรถในช่วงนี้พบว่า ได้มีการประสานถึงทุกภาคส่วนให้สอดส่องดูแลเรื่องความปลอดภัย รวมถึงการดูแลด้านการคมนาคม โดยเฉพาะปัญหารถติดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ พร้อมได้มีการจัดตั้งจุดพักรถขึ้นเป็นระยะ พร้อมได้ติดป้ายประกาศ ให้ลดความเร็ววิ่งได้ไม่เกิน 80 กม./ชม.ตลอดสาย
ด้านของจุดเสี่ยง 141 เส้นทั่วไทย พบว่ามี 39 จุดเสี่ยงซึ่งเป็นเส้นทางตรง และอาจก่อให้เกิดการหลับในของผู้ขับขี่ยานพาหนะนั้น ซึ่งหนึ่งในจุดเสี่ยงจาก 39 จุด คือ บริเวณแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 เส้นทางหมายเลข 1317 สันกลางใต้ ห้วยแก้ว บริเวณแยกบ้านต้นดู่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ แขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 ระบุว่า ได้มีการจัดกำลังบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกอำเภอ ในการอำนวยความสะดวกดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ตามโครงการ “เดินทางอุ่นใจ ปลอดภัยไปกับกรมทางหลวง” โดยผู้ใช้รถใช้ถนน สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือ แจ้งเหตุ หรือสอบถามข้อมูลได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ สายด่วน 1586 ตลอด 24 ชั่วโมง

ร่วมแสดงความคิดเห็น