ฟ้าครึ้ม….ประชาชนเรือนแสน แห่ออกมาเล่นสงครามน้ำกันอย่างสนุก !!!!

วันที่ 2 ของการจัดประเพณีสงกรานต์ที่ จ.เชียงใหม่ ยังคึกคัก ประชาชนและนักท่องเที่ยว หนุ่ม-สาว แห่เล่นน้ำอย่างสนุกสนาน ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงค่ำ พร้อมร่วมกันทำกิจกรรมทางศาสนา เพื่อความเป็นศิริมงคลต่อตัวเองและครอบ ครัว ขณะที่รายงานการก่อเหตุอาชญากรรมช่วงสงกรานต์ลดลง ประชาชนให้ความร่วมมือเล่นน้ำตามกฎระเบียบข้อบังคับ
วันที่ 14 เม.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ ซึ่งถือเป็นวันที่ 2 ของการจัดเทศกาลยังคงคึกคักและสนุกสนาน โดยในช่วงเช้าวันนี้ ชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวที่นับถือศาสนาพุทธ ต่างพร้อมใจกันเดินทางไปตามวัดต่างๆ เพื่อทำบุญและปักตุงบนกองทราย ตามความเชื่อและวัฒนธรรมของชาวล้านนา เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตนเอง พร้อมทั้งได้จัดซื้อจัดหาไม้ง่ามขนาดยาว เพื่อนำไปค้ำต้นโพธิ์ภายในวัด มีความหมายถึงการค้ำชูพระพุทธศาสนา โดยบรรยากาศที่วัดเจ็ดลิน ถนนพระปกเกล้า ต.พระสิงห์ อ.เมืองเชียง ใหม่ ซึ่งเป็นวัดหนึ่งที่ผู้คนนิยมเดินทางไปปักตุงกัน  ที่วัดนี้มีการนำทรายมาก่อจัดทำเป็นเจดีย์ทรายสุดส้าว  ถือเป็นเจดีย์ทรายที่สูงที่สุดในโลก
นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายประชาชนจำนวนมาก ก็ได้มีการจัดพิธีขนทรายเข้าวัดไปตามวัดต่าง ๆ บนถนนท่าแพ ตามประเพณี ซึ่งเชื่อว่าวันที่ 14 เมษายน เป็นวันครอบครัว และทางเหนือจะถือเป็นวันเนา ที่ห้ามด่าทอ หรือพูดจาไม่ดี โดยถือว่าจะทำให้ปากเน่าเหม็น วันเนา คือวันที่อยู่ถัดจากวันมหาสงกรานต์ และอยู่ก่อนวันเถลิงศก กำหนดตามปฏิทินจุลศักราช ปัจจุบันมักตกอยู่ในวันที่ 14 เมษายน หรือ 15 เมษายน โดยคำว่า ” เนา ” เป็นภาษาเขมรแปลว่า ” อยู่ “ในแง่ของโหราศาสตร์แล้ว วันนี้ควรจะเรียกว่า วันเนา เพราะเป็นวันที่พระอาทิตย์โคจรอยู่ระหว่างราศีมีนและราศีเมษ อันเป็นวันที่ถัดจากวันสังขารล่อง แต่ในการออกเสียงแล้วทั่วไปมักเรียก”วันเน่า”
ทำให้เกิดความคิดที่ห้ามการกระทำสิ่งที่ไม่เป็นมงคล โดยเฉพาะห้ามการด่าทอทะเลาะวิวาทกัน กล่าวกันว่าผู้ใดที่ด่าทอผู้อื่นในวันนี้แล้ว ปากของผู้นั้นจะเน่า และหากวิวาทกันในวันนี้ บุคคลผู้นั้นจะอัปมงคลไปตลอดปี ส่วนผู้ประสงค์จะปลูกเรือนด้วยไม้ไผ่ ก็ให้รีบตัดในวันนี้ เพราะเชื่อกันว่าไม้จะ”เน่า”และไม่มีมอดหรือปลวกมากินไม้ดังกล่าว วันเนานี้จะเป็นวันเตรียมงาน ชาวบ้านจะพากันไปซื้อของเพื่อกินและใช้ในวันพญาวัน เมื่อถึงตอนบ่ายจะมีการขนทรายเข้าวัด กองรวมกัน การขนทรายเข้าวัดนี้ถือว่าเป็นการนำทรายมาทดแทน ส่วนที่ติดเท้าของตนออกจากวัด ซึ่งเสมอกับได้ลักของจากวัด วันเนานี้อาจเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วันดา เพราะเป็นวันที่ ดา หรือจัดเตรียม สิ่งของต่างๆ จะใช้ทำบุญนั่นเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะเดียวกันทางเทศบาลนครเชียงใหม่ ก็ได้มีการจัดพิธีแห่ไม้ค้ำสะหลี หรือไม้ค้ำโพธิ์ โดยเริ่มขบวนตั้งแต่บริเวณเชิงสะพานเหล็ก ผ่านสะพานนวรัฐ ไปยังถนนท่าแพมีขบวนทั้งหมด 5 ขบวน ประกอบด้วยเทศบาลนครเชียงใหม่และแขวงทั้ง 4 แขวง เพื่อจะนำไปค้ำยันต้นโพธิ์ที่วัดต่างๆ 5 วัดบนถนนท่าแพ อันเป็นสัญลักษณ์หมายถึงการค้ำจุนบวรพระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป เช่นเดียวกับตามวัดต่างๆที่คนในชุมชนได้ร่วมมือร่วมใจกันจัดขบวนแห่ไม้ค้ำโพธิ์ ซึ่งเป็นประเพณีที่มีขึ้นในภาคเหนือของประเทศไทย ประเพณีแห่ไม้ค้ำโพธิ์ตามความเชื่อของชาวพุทธที่ว่า ต้นไม้ใหญ่มักมีเทวดาอารักษ์สิงสถิตอยู่
โดยเฉพาะต้นโพธิ์ ซึ่งนอกจากจะปลูกไว้ในวัดแล้ว ยังเป็นต้นไม้ในพุทธประวัติ ที่พระพุทธเจ้าได้ประทับตรัสรู้อีกด้วยต้นต้นโพธิ์เมื่อเจริญเติบโตจะมีกิ่งก้านสาขาทอดยาว บางกิ่งโน้มเอียงจนเกรงว่าจะหักโค่นยามลมพัดแรง จึงมีคนนำไม้ง่ามมาค้ำยันกิ่งไว้ ไม้ง่ามนั้นเรียกว่า “ไม้ค้ำโพธิ์” หรือ “ไม้ค้ำสะหลี” ซึ่งนอกจากจะเป็นการค้ำยันกิ่งไม่ให้ล้มแล้ว ยังมีความหมายไปถึงการค้ำชูพระพุทธศาสนาให้ยืนยาวสืบต่อไป
อีกทั้งเชื่อกันว่ากุศลในการถวายไม้ค้ำโพธิ์จะช่วยคุ้มครองดวงชะตาให้เจริญขึ้น ไม่ตกต่ำ มีคนช่วยเหลือค้ำชูไปตลอดความเชื่อดังกล่าวเป็นที่ศรัทธาเชื่อถือโดยทั่วไป ในกลุ่มชาวล้านนาทางภาคเหนือของไทย วัดต่างๆ ในภาคเหนือหากมีต้นโพธิ์ใหญ่ก็มักจะมีผู้นำไม้ค้ำสะหลีไปค้ำยันไว้ และในภาคกลางหรือในกรุงเทพฯ ก็ยังพบเห็นภาพความเชื่อดังกล่าวด้วยเช่นกัน และใน อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ก็ถือเป็นสถานที่ที่เรียกได้ว่ามีความเชื่อและศรัทธาในการถวายไม้ค้ำสะหลี โดยมีการจัดงานประเพณีแห่ไม้ค้ำโพธิ์ที่ อ.จอมทอง มายาวนานถึง 200 กว่าปีแล้ว
สำหรับบรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์ ของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่ จ.เชียงใหม่ยังคงคึกคัก โดยในวันนี้ยังคงมีประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยวจำนวนมาก หลั่งไหลมาร่วมกิจกรรมการเล่นสาดน้ำกันอย่างเนืองแน่นตามจุดต่างๆ ซึ่งที่บริเวณข่วงประตูท่าแพที่เป็นอีกจุด ที่มีนักท่องเที่ยวแห่เข้ามาเล่นน้ำนั้นยังคงคึกคัก และมีคนเล่นน้ำกันอย่างเนืองแน่น พร้อมกับเปิดเพลงเต้นกันกลางถนนอย่างสนุกสนาน ขณะที่จุดต่างๆ รอบคูเมืองด้านในและคูเมืองด้านนอกยังคงมีประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมถึงกลุ่มวัยรุ่นทั้งชาย-หญิงออกมาเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน จนทำให้พื้นที่การจราจรรอบคูเมือง มีการสัญจรไปมาของรถอย่างยากลำบาก
ขณะเดียวกันประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนหลายพันคน ก็ได้เดินทางไปร่วมกิจกรรมที่บริเวณหน้ากาดสวนแก้ว ซึ่งมีการปิดถนนจัดแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง และร่วมกิจกรรมเล่นน้ำกันอย่างแน่นขนัด ตั้งแต่ช่วงบ่ายไปจนถึงช่วงเย็น เรียกได้ว่าสงกรานต์ของเชียงใหม่ในปีนี้ ยังคงคึกคักเหมือนทุกปี อย่างไรก็ตามจากการรายงานความเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ยังคงพบการละเมิดผิดกฎหมายอยู่บางส่วน ในเรื่องของการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ร่วมแสดงความคิดเห็น