เชียงใหม่เดินหน้า ติดตามบริหารข้าว

เชียงใหม่ตั้งโต๊ะถกประชุมติดตามการบริหารจัดการข้าวระดับจังหวัด หวังให้เกษตรกรมีช่องทางการจำหน่ายผลผลิต เพิ่มรายได้และมีเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มมากขึ้น พร้อมเชื่อมโยงการจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุง ภายใต้โครงการตลาดข้าวประชารัฐ ร่วมกับภาครัฐภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรกลุ่มเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร ได้มีช่องทางการจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง

นายกฤษณ์ ธนาวณิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการบริหารจัดการข้าวระดับจังหวัด จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 3/2560 ณ ห้องประชุมสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่

ทั้งนี้ในการประชุม มีประเด็นที่น่าสนใจ ได้แก่ โครงการตลาดข้าวประชารัฐจังหวัดเชียงใหม่ ในปีการผลิต 2559/60 เนื่องจากที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่มีพื้นที่เพราะปลูกข้าวนาปีจำนวน 4,319,109 ผลผลิตรวม 269,312 ตัน ซึ่งจากปัญหาผลผลิตที่ออกสู่ตลาดมาก ทำให้ราคาข้าวเปลือกในฤดูการผลิตปี 2559/60 มีราคาตกต่ำ เกษตรกรชาวนาได้รับความเดือดร้อน ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาราคาผลผลิตข้าวเปลือกนาปีในปีการผลิต 2560/61 ตกต่ำเหมือนปี 2559/60 ที่ผ่านมา และเพื่อเป็นการช่วยเหลือชาวนาในการขายผลผลิตที่ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง โดยให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และรัฐวิสาหกิจ เป็นแกนกลางในการจัดสถานที่ให้ชาวนาขายข้าวให้กับผู้บริโภคโดยตรง หรือ การรวมตัวของชาวนาในการขายข้าวให้ผู้บริโภคโดยตรง

นายกฤษณ์ ธนาวณิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้จัดกิจกรรมเชื่อมโยงการจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุง ภายใต้โครงการตลาดข้าวประชารัฐ ร่วมกับภาครัฐภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรกลุ่มเกษตรกร และสถาบันเกษตรกร ได้มีช่องทางการจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง ทำให้เกษตรกรมีรายได้จากการจำหน่ายผลผลิตเพิ่มขึ้น ผู้บริโภคได้บริโภคข้าวที่ได้รับมาตรฐานตาม GAP และ GMP ซึ่งจะส่งผลดีต่อเกษตรกรผู้ผลิต ผู้บริโภค และเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้จะได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 – มีนาคม 2561 โดยคาดว่าเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และสถาบันเกษตรกรจะมีช่องทางการจำหน่ายผลผลิตเพิ่มขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น และมีเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้นด้วย

นอกจากนี้ ยังมีการประชาสัมพันธ์โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อก (นาปรัง) ปีการผลิต 2560 โดยคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการ จะต้องเป็นผู้ประกอบการค้าข้าวที่ได้รับหนังสืออนุญาตประกอบการค้าข้าว ตาม พ.ร.บ. การค้าข้าวพ.ศ. 2589 เป็นลูกค้าที่กู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์ในรูปแบบตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือลูกค้าที่กู้ยืมจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โดยมีวัตถุประสงค์การกู้ยืม เพื่อเก็บสต๊อกข้าวมีสถานที่ในการเก็บสต๊อกข้าวเปลือก ข้าวสาร ประเภทคลังสินค้ายุ้งฉางข้าว หรือไซโลที่เป็นของตนเอง ต้องไม่เป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลหรือกรรมการหรือผู้ถือหุ้น หรือผู้เป็นหุ้นส่วนในนิติบุคคล ซึ่งเป็นผู้ได้ทำความเสียหายให้กับทางราชการ และมีหนังสือกรมการค้าภายในด่วนที่สุด ในวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา เรื่องการเข้าร่วมโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้แก่ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อกข้าวนาปรังปี 2560 พร้อมกันนี้ยังได้จัดทำแผนการจัดตลาดนัดข้าวเปลือกปี 2560 ได้แก่ วันที่ 3-5 พฤษภาคม 2560 ที่อำเภอสันป่าตอง วันที่ 22 – 24 พฤษภาคม 2560 ที่อำเภอสันทราย และวันที่ 25 – 27 พฤษภาคม 2560 ที่อำเภอฝาง เป็นต้น ซึ่งในทุกมาตรการจะเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ในทุกพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวนาโดยเร็วที่สุด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น