กลุ่มตัวแทนพร้อมทนาย ยื่นหนังสือร้องศาลปกครอง ระงับการทำประชาพิจารณ์ ขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า กฟผ.แม่เมาะ

ช่วงสายเวลาประมาณ 11.00 น.วันที่ 20 เม.ย. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านหน้าอาคารศาลปกครอง จ.เชียงใหม่ นายสุนทร ใจแก้ว อดีตนายก อบต.สบปาด อ.แม่เมาะ จ.ลําปาง พร้อมด้วย น.ส.ณัฏฐ์ศศิ หมูแก้วเครือ ทนายตัวแทนแกนนำภาคประชาชน อ.แม่เมาะ และคณะตัวแทนแกนนำภาคประชาชน อ.แม่เมาะ ประมาณ 10 คน ได้เดินทางยื่นหนังสือที่ศาลปกครอง จ.เชียงใหม่ เพื่อขอระงับการทำประชาพิจารณ์ขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า กฟผ.แม่เมาะ เนื่องจากทางภาคประชาชน อ.แม่เมาะ มีความกังวลในเรื่องของการปฏิบัติตามกฎหมาย โดยการที่จะดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้านั้น จะต้องผ่านหลายกระบวนการตามกฎหมาย

ซึ่งที่ผ่านมา กฟผ.แม่เมาะ ได้ทำในเรื่องของการทำโรงไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิต อยู่ที่ 600 เมกะวัตต์ แต่ ณ ปัจจุบันที่ได้มีข่าวแพร่กระจายออกมานั้น พบว่าเครื่องที่จะดำเนินการนั้นเป็นเครื่องขนาด 655 เมกะวัตต์ ซึ่งก็มีคำสั่งและความเห็นของหน่วยงานอื่นๆ ที่ให้การไฟฟ้าต้องดำเนินการทำ EHIA ใหม่ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีการทำ EHIA ดังกล่าวใหม่แต่อย่างใด เนื่องจากตามกฎหมายรัฐธรรมนูญนั้น ระบุว่าจะต้องทำให้สำเร็จเสร็จสิ้นก่อน รวมทั้งต้องมีการจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน อีกทั้งต้องจัดให้มีทั้งองค์กรอิสระหรือหน่วยงานต่างๆ ที่ให้ความเห็นอีกมากมาย ถึงจะสามารถดำเนินการได้

ขณะเดียวกันการดำเนินการดังกล่าว ยังไม่ได้ยุติการทำโรงไฟฟ้า ณ ปัจจุบัน ทั้งๆ ที่จุดประสงค์ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปแล้วจากอดีตที่ทำ เพื่อรองรับเครื่อง 600 เมกะวัตต์ แต่ ณ ปัจจุบันนี้มีการทำเพื่อรองรับเครื่อง 655 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นกิจการที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างรุนแรง ทั้งคุณภาพของทรัพยากรธรรมชาติ สภาวะมลพิษหรือสุขภาพ จึงจำเป็นที่จะต้องผ่านความเห็นชอบในหลายๆ ด้านก่อนที่จะทำได้ นอกจากนี้ในเรื่องของการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่จะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 29 เม.ย.60 ที่จะถึงนี้ ก็มีหลักการที่จะรับฟังความคิดเห็น ก็เป็นตามการทำตามระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรี

ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งจะมีขั้นตอนการประกาศให้พี่น้องประชาชนรับรู้ และมีขั้นตอนที่จะต้องให้ประชาชนเข้าถึงข่าวสารก่อน ถึงจะมีการรับฟังได้ รวมถึงวิธีการที่รับฟังนั้นจะมีหลากหลาย ซึ่งอยู่ใน พ.ร.บ. แต่วิธีการที่ทาง กฟผ.แม่เมาะ เลือกนั้น เป็นวิธีการโดยให้ประชาชนเข้ามารับข้อมูลข่าวสารในการจัดประชุม แล้วจึงให้แสดงความคิดเห็นด้วยวาจา

ทาง น.ส.ณัฏฐ์ศศิ หมูแก้วเครือ ทนายตัวแทนแกนนำภาคประชาชน อ.แม่เมาะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สิ่งที่มีความน่าเป็นห่วงคือ เนื่องจากว่าในการรับฟังความคิดเห็นในวันดังกล่าว ตามกำหนดการ แล้วนั้นจัดให้มีขึ้นในเวลา 08.00-12.00 น. โดยจะมีการฟังอภิปราย และการให้ข้อมูลเป็นที่เรียบร้อย จากนั้นจึงจะมีช่วงเวลาที่ให้รับฟังความคิดเห็น คือช่วงเวลาตั้งแต่ 09.15 -11.30 น. แต่หลักปฏิบัติและหลักกฎเกณฑ์ของเค้านั้น ทางประชาชนและตัวแทนกลุ่มแม่เมาะ มองว่าเป็นข้อปฏิบัติที่จำกัด ลิดรอนสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นได้ เนื่องจากผู้ที่จะแสดงความคิดเห็นได้นั้น ต้องลงทะเบียนให้เรียบร้อยเสียก่อน

หากไม่ใมีการลงทะเบียนก็ไม่มีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็น รวมทั้งในการรับฟังการแสดงความคิดเห็นนั้น จะให้เวลาต่อคนที่จะแสดงความคิดเห็นได้เพียงแค่ไม่เกิน 5 นาที ซึ่งถือเป็นเวลาที่น้อยตั้งแต่ 09.15 -11.30 น. เฉลี่ยแล้วหากอยู่ที่ 5 นาทีต่อคน ก็มีคนแสดงความคิดเห็นได้ไม่เกิน 30 คนแน่นอน แต่ประชากร อ.แม่เมาะ มีอยู่ประมาณ 40,000 – 50,000 คน”


“วันนี้จึงอยากขออำนาจศาลให้มีการระงับเรื่องนี้ไว้ก่อน แล้วมีการดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบ รวมถึงให้มีการเปิดกว้างมากกว่านี้ เนื่องจากผู้ที่จะแสดงความคิดเห็นได้นั้น ไม่ใช่เพียงแค่ประชาชน อ.แม่เมาะ แต่ยังเป็นประชาชนทั้ง จ.ลำปาง รวมถึงภาคเหนือ และทั้งประเทศด้วย เนื่องจาก กฟผ.แม่เมาะ เป็นกิจการเพื่อสาธารณะประโยชน์เพื่อประเทศไทยไม่ใช่เฉพาะคน อแม่เมาะ เพียงอย่างเดียว ซึ่งจริงๆ แล้วในส่วนของเราไม่ได้มุ่งหวังที่จะคัดค้านแต่อย่างใด แต่จำเป็นที่จะต้องมีการดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบ ตามกฎหมายเสียก่อน

เพราะว่ามันมีผลกระทบจริงๆ และตามกฎหมายก็ได้มีการบัญญัติไว้แล้วว่า การก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิตมากกว่า 100 เมกะวัตต์ ขึ้นไป อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพของประชาชนอย่างรุนแรงได้ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องทำ EHIA ก่อน ถึงจะก่อสร้างได้ และรับฟังความคิดเห็นก่อน รวมถึงองค์กรอิสระต่างๆ ต้องให้ความเห็นในการดำเนินการให้เรียบร้อยก่อน ถึงจะดำเนินการก่อสร้างได้”

“แต่ล่าสุดที่ทาง กฟผ.แม่เมาะ ได้มีการประกาศเลื่อนการแสดงความคิดเห็นออกไปอีก 2 สัปดาห์นั้น ทางกลุ่มและทางตัวแทนยังไม่ได้รับทราบเรื่องแต่อย่างใด โดย ณ วันนี้ ที่มาข้อมูลพื้นฐานทราบเพียงว่าในวันที่ 29 เม.ย.60 นี้จะมีการจัดขึ้นเนื่องจากมีการขึ้นป้ายต่างๆ มากมาย และจริงๆ แล้ว ในการขึ้นป้ายหรือการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารประชา ชนก็ต้องติดประกาศหรือเผยแพร่ในประกาศ ต้องให้ประชาชนรับรู้ถึงทั้งวิธีการ ระยะเวลา สถานที่ รวมถึงข้อมูลการแสดงความคิดเห็นต่างๆ เนื่องจากเมื่อมีการแจ้งว่าจำเป็นที่จะต้องลงทะเบียนก่อน แต่ประชาชนไม่ทราบข้อมูลเลย ว่าต้องลงทะเบียนก่อน แต่ไปวันนั้นไปลงทะเบียนก็ทำให้ไม่ทราบข้อมูลข่าวสารที่จะแสดงความคิดเห็นได้

รวมทั้งการติดประกาศต่างๆ จะต้องติดล่วงหน้าอย่างน้อย 15 วัน ที่จะทำให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้ทั้งสถานที่ที่จะก่อสร้าง ทั้งสถานที่ติดประกาศของหน่วยงานรัฐ และหน่วยงาน กฟผ.แม่เมาะ เอง นอกจากนี้ยังต้องมีการขึ้นประกาศการรับฟังความคิดเห็น ในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของสำนักปลัด สำนักนายกรัฐมตรี แต่ปัจจุบันก็พบว่ายังไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด” น.ส.ณัฏฐ์ศศิ กล่าวทิ้งท้าย

ร่วมแสดงความคิดเห็น