ผบช.5 เอาผิด ตร.ทุกนาย พัวพันค้ากาม เหตุน้ำเพียงดิน-สั่งการสอบวินัย

ออกชี้แจงสื่อ…………..พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 เปิดชี้แจงแถลงการต่อคณะสื่อมวลชน ถึงกรณีคดีค้ากามเด็กหญิงที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน หลังทางแม่เด็กหญิงผู้เสียหายเข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน และมีข่าวในกระแสโซเชียลวิจารณ์ การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเจ้าตัวยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย และไม่ได้เพิกเฉย มีการดำเนินการตามขั้นตอนทุกอย่าง ตามข่าว

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ยืนยันเอาผิดโทษสูงสุดข้าราชการตำรวจทุกนายที่เข้าไปมีส่วนพัวพันคดีค้ากามเด็กหญิงที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายไม่เข้าข้างลูกน้องแน่นอน หลังมีกรณีวิจารณ์ในกระแสโซเชียล พร้อมยืนยันไม่ได้เพิกเฉย มีการดำเนินการตามขั้นตอนทุกอย่าง

จากการณีที่ นางน้ำเพชร เกยพุฒซา อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129 หมู่ 1 ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน กรณีเรื่องลูกสาว ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำเพียงดิน ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน บังคับให้ค้าประเวณีให้กับผู้ใหญ่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีทั้ง ตำรวจ ครู แขวงการทาง ซึ่งได้มีการร้องเรียนไปยัง ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน และ ตำรวจภูธรภาค 5 แต่เรื่องกลับเงียบหายไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบแล้วอ้างเด็กเข้าใจผิดเอง จึงทำให้ต้องตัดสินใจเดินทางเข้าร้องเรียนต่อ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ปคม. ผ่านมา 6 เดือน เรื่องก็ยังไม่คืบหน้าแต่อย่างใด จนล่าสุดหลังจากที่ตกเป็นข่าวพบว่าทางตำรวจพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้มีการ ชี้แจงออกมาว่าตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนดำเนินคดีอยู่

โดยคดีนี้พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายและพยานเพิ่มเติมมาโดยตลอด รวมถึงประเด็นที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย พร้อมทั้งส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมให้กับพนักงานอัยการแล้ว คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานอัยการ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับคดีนี้ อยู่ระหว่างตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้นได้มีการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดทำคดีนี้ออกนอกพื้นที่เพื่อไม่ให้เกี่ยวข้อง หรือ ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานในคดีนี้ และขณะนี้ ผู้เสียหายและมารดาของผู้เสียหาย ได้เข้าสู่ระบบคุ้มครองพยาน ของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ฯ แล้ว ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2560

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 เม.ย.60 ทางด้าน พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ในฐานะผู้บังคับบัญชา เปิดเผยกับทางสื่อมวลชนในเรื่องนี้ว่า จากกรณีที่มีข่าวและกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากในโลกโซเชียลเกี่ยวกับเรื่องของการที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้หนึ่งถูกกล่าวหาในเรื่องของการบังคับหยิงสาวค้าประเวณี และในเวลาต่อมาแม่ของหญิงสาวคนดังกล่าวได้นำเรื่อวราวไปเผยแพร่ในโซเชียลต่างๆ จนขณะนี้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นาๆ ในสังคม และมีความสับสน ซึ่งในความเป็นจริงคดีดังกล่าวทางตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจภูธร จ.แม่ฮ่องสอน ได้มีการดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง และจริงจัง ดดยไม่ได้ละเลยหรือละทิ้งหน้าที่ รวมทั้งไม่ได้มีการเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจนไม่ได้รับความเป็นธรรม

โดยเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องที่เริ่มมาตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิการยน พ.ศ.2559 ที่ได้มีการดำเนินการระดมกวาดล้างในเรื่องของการค้าประเวณีในพื้นที่ โดยในการดำเนินการดังกล่าวได้มีการจับกุมและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในหลายๆ คดี จนนกระทั่งมาถึงคดีดังกล่าวที่เกิดเรื่องขึ้นในครั้งนี้ ทางแม่ของเด็ก ซึ่งปกตินั้นก็คลุกคลีอยู่กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่แล้วในฐานะเป็นสายข่าว และเป็นผู้ให้ข้อมูลข่าวสารในเรื่องของยาเสพติดและอาชญากรรมในพื้นที่ แต่บังเอิญไปเห็นข้อมูลการติดต่อการค้าประเวณี ที่มีรูปของลูกสาวตัวเองปรากฎอยู่ด้วย จึงเกิดความตกใจและมีการให้ดำเนินคดี และในเวลาต่อมาเมื่อได้มีการแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประมาณเมื่อช่วงเดือนพฤศจิการยน พ.ศ.2559 หลังการระดมการจับกุม และปรากฎกรณีของแม่และลูกสาว ปรากฎในภาพการติดต่อเสนอการค้าประเวณี จึงได้มีการแจ้งทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการดำเนินการแล้วโดยมีการล่อซื้อจากผู้หญิงคนที่ชื่อ เมย์ แต่ปรากฎว่าวันที่ทำการล่อซื้อนั้นคนที่ชื่อ เมย์ ไม่ปรากฎตัว ซึ่งภายหลังทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการสืบสวนและทำเป็นคดีขึ้นมา จนกระทั่งหยิงคนชื่อ เมย์ ก็ได้เข้ามามอบตัวในที่สุด และกลายเป็นผู้ต้องหา โดยได้มีการดำเนินคดีตามกฎหมาย

แต่ในเวลาต่อมาปรากฎว่าทางแม่เด็ก นั้นมีความรู้สึกว่าจากข่าวที่ปรากฎมาพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ทำไมกลับไม่ถูกลงโทษหรือถูกดำเนินการแต่อย่างใด แต่จากเรื่องที่เกิดขึ้นข้อเท็จจริงทางผู้บังคับบัญชาก็ได้มีการดำเนินการในส่วนนี้อยู่ และได้มีการสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีคำสั่งออกมาตั้งแต่ เดือนพฤศจิการยน ที่ผ่านมา ที่ให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และหลังจากนั้นทางภาคก็ได้มีการสั่งเพิ่มเติม และให้ทำการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงให้เป็นไปตามกำหมาย และทางผู้การก็ได้สั่งการให้ทาง สภ.น้ำเพียงดิน ทำการสืบสวนสอบสวนตามวินัยกฎหมายของตำรวจ และจากการสืบสวนสอบสวนก็ได้มีข้อเสนอมายังผู้การว่าให้มีการยุติเรื่องนี้ไว้ก่อนเนื่องจากว่ายังไม่มีพยานหลักฐาน ซึ่งทางท่านผู้การก็ได้พิจารณาและยังไม่สามารถยุติได้และจะต้องสอบสวนประเด็นเพิ่มเติมอีก 4-5 ประเด็น ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงดำเนินการอยู่ และอาจจะไปเกี่ยวพันกับคดีอาญาด้วย

ส่วนในเรื่องของการดำเนินการตามคดีอาญานั้น หลังจากที่ได้มีการดำเนินคดีกับทาง น.ส.เมย์ แต่ตอนนี้คดียังไม่สิ้นสุดทางพนักงานสอบสวนก็ได้มีการสอบสวนมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีทางท่านผู้การคอยดูแลกำกับอย่างใกล้ชิด และล่าสุดพนักงานอัยการได้มีหนังสือสั่งการ วันที่ 20 ก.พ.60 มาโดยให้ทำการสอบสวนเพิ่มเติมอีก ดดยมีเนื้อหาประมาณ 2 หน้ากระดาษ โดยให้สอบสวนในส่วนของแม่เด็ก และในส่วนของผู้เสียหาย รวมถึงผู้เกี่ยวข้องในคดีอีกหลายคน แต่กว่าจะทำการติดต่อสอบสวนบุคคลเหล่านี้ได้นั้นก็วันที่ 25 มี.ค.60 เนื่องจากทางเจ้าตัวไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร ประกอบกับทางเจ้าตัวไปอยู่ที่ กทม. อยู่ในความคุ้มครองของกรมคุ้มครองสิทธิ์ในคดีอื่น และยังอ้างว่ามีความเกรงกลัว รวมถึงเหตุผลอื่นๆ ทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้พยายามติดตามจนกระทั่งสามารถสอบสวนได้ในวันที่ วันที่ 25 มี.ค.60 ดังกล่าว ซึ่งยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นไม่ได้นิ่งนอนใจและเพิกเฉยเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นเลย รวมทั้งในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวกับนายตำรวจก็ได้มีการดำเนินการสอบสวนทั้งหมดแล้ว ซึ่งทางอีกฝ่ายก้ยืนยันมา เมื่อมีการยืนยันทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการส่งผลการสอบสวนไปให้ทางอัยการเมื่อช่วงประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมา และขณะนี้จะต้องรอว่าทางอัยการจะสั่งการในเรื่องของคดีอย่างไร ซึ่งหากทางอัยการแจ้งมาว่ามีความผิดก็จะต้องมีการจับกุมตัวนายตำรวจดังกล่าวส่งพนักงานอัยการเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งทางตนยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนทุกกอย่างโดยไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ผิดก็ต้องว่าผิด และพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ร่วมแสดงความคิดเห็น