“เชียงราย” ถูกหวยสามเด้ง “รถไฟรางคู่” มาแล้ว “รัฐมนตรีคมนาคม” เผยโรดแมปเข้า ค.ร.ม. เดือนมิถุนายนนี้ คาดทำ ทีโออาร์ ได้ในต้นปีหน้า แถมมอเตอร์เวย์ และระบบขนส่งทางน้ำ รับเขตเศรษฐกิจพิเศษ
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดการเสวนาและนิทรรศการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแผนงาน โครงการ ผลการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคม ยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558 – 2565 และส่งเสริมพัฒนาความรู้ด้านการคมนาคมขนส่งและความปลอดภัย “Thailand Transport 2017 Better Connect, better Life” ครั้งที่ 2 ณ ห้องยูโทเปีย โรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงราย รีสอร์ท เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่อยู่ในความรับผิดชอบ ให้การปฏิบัติงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย และแผนปฏิบัติการด้านการคมนาคมขนส่งระยะเร่งด่วน ตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ตามวิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยังยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ในยุทธศาสตร์ที่ 7 พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ขับเคลื่อนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ สร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนและนักลงทุน มีระบบการขนส่งและการจราจรที่มีประสิทธิภาพ เชื่อมโยงทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคอาเซียนและภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า จังหวัดเชียงราย ที่มีโครงข่ายสามารถเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งลาว เมียนมาร์ และจีนตอนใต้ นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมโยงเข้าไปในกลุ่มอนุภูมิภาคกลุ่มแม่น้ำโขงรวมถึง อาเซียนและเอเชีย ได้ จึงได้เร่งผลักดันแผนงานคำนับผมในด้านต่างๆ หลายโครงการ โดยเฉพาะสิ่งที่ชาวเชียงราย รอคอยกันมานาน นั่นคือรถไฟรางคู่จากเด่นชัย มายังอำเภอเชียงของ ซึ่ง คาดว่าจะสามารถนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ภายในเดือนมิถุนายน 2560 นี้ โดยมีจุดเริ่มต้นโครงการที่สถานีเด่นชัย ผ่านจังหวัดแพร่ ลำปาง พะเยา และสิ้นสุดที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ระยะทางรวมทั้งสิ้น 325 กิโลเมตร โดยมีสถานีสุดท้ายเชื่อมต่อกับศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำโขง แห่งที่ 4 เพื่อสนับสนุนกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่ม แม่น้ำโขง
นอกจากนี้ยังจะมีการพัฒนาท่าเรือเชียงแสน ท่าเรือเชียงของ โดยเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่เดิม ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณสินค้าผ่านท่าเรือเชียงแสนถึง 2.1 แสนตันต่อปี ปริมาณตู้สินค้าผ่านสูงถึง 7,700 TEUs ต่อปี คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 22,100 ล้านบาท และมีปริมาณสินค้าผ่านท่าเรือเชียงของ 8.5 หมื่นตันต่อปี คิดเป็นมูลค่า 20,600 ล้านบาท โดยจะมีการพัฒนาให้รองรับการขนส่งตู้สินค้าแช่แข็ง รวมถึงการจัดตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อบริการข้อมูลข่าวสาร สำหรับลูกเรือ ทั้งไทย-ลาว-เมียนมาร์ และจีน ให้ได้รับความสะดวกในการส่งสินค้าอีกด้วย และสิ่งที่เป็นเรื่องเร่งด่วนในอนาคตอันใกล้นี้ ได้ศึกษาความเหมาะสมของเส้นทาง”โครงการไฮเวย์เชียงใหม่-เชียงราย” เพื่อลดเวลาเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ มายังจังหวัดเชียงราย โดยจะให้ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะมีพื้นที่ครอบคลุม 4 จังหวัดคือ เชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และเชียงราย รวมระยะทาง 185 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 100,000 ล้านบาท ส่วนการพัฒนาการขนส่งทางอากาศนั้น ได้มีแนวคิดที่จะเชื่อมโยง เส้นทางการบินในกลุ่มภาคเหนือตอนบนให้สามารถเชื่อมโยงกันได้ เพื่อรองรับการท่องเที่ยว การค้า การลงทุน โดย ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ได้มีการพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้
ร่วมแสดงความคิดเห็น