เตวแอ่วเวียงเชียงใหม่ มีอะไรมากกว่าที่คุณคิด

เชียงใหม่ ถูกยกให้เป็น “นครที่เป็นที่สุดแห่งความสง่างามทางวัฒนธรรม” เนื่องด้วยเป็นเมืองที่มีความเป็นมายาวนาน มีประเพณี วัฒนธรรมที่ดีงาม และมีเอกลักษณ์โดดเด่นหลายประการ

แหล่งท่องเที่ยวในเขตเมืองเชียงใหม่ ก็ล้วนเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่า สมควรแก่การเข้าไปศึกษาเที่ยวชมอย่างมาก ทุกทิศทั่วถิ่นฯ วันนี้จะพาไปเที่ยวชมความงดงามของเมืองเชียงใหม่ ซึ่งแต่ละแห่งก็มีความงดงามน่าสนใจไม่น้อยเลย

เชื่อว่านักท่องเที่ยวผู้มาเยือนจังหวัดเชียงใหม่ หรือแม้กระทั่งผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองเชียงใหม่เอง หลายคนก็ยังไม่รู้ถึงประวัติความเป็นมาของเมืองเชียงใหม่ ดีนักจึงขออธิบายให้ได้ทราบพอสังเขป …กำแพงเมืองเชียงใหม่ เป็นกำแพงเมืองชั้นในของเวียงเชียงใหม่สร้างขึ้นพร้อมกับการสถาปนาอาณาจักรล้านนา ในรัชสมัยพญามังราย เพื่อเป็นเมืองหลวงของล้านนา โดยขั้นแรกได้ขุดคูเมืองเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีความยาวด้านละประมาณ 1.63 กิโลเมตร และนำดินที่ได้จากการขุดเมืองนั้นไปถมเป็นแนวกำแพงเมือง จะมี 4 มุม (4แจ่ง) ซึ่งถือเป็นป้อมปราการของเมืองในอดีต มีแจ่งศรีภูมิ เดิมชื่อ แจ่งสะหลีภูมิ แจ่งก๊ะต้ำ แจ่งกู่เฮือง และแจ่งหัวลิน ซึ่งเวลาล่วงเลยผ่านไปนานแสนนาน ปัจจุบันบริเวณแจ่งหัวเมืองต่างๆ ก็มีชาวบ้านอาศัยอยู่ในพื้นที่สี่เหลี่ยมคูเมือง ที่เรียกว่าเป็นย่านเมืองเก่า มีเรื่องราวต่างๆที่น่าสนใจ สถานที่ท่องเที่ยว วัดวาอารามต่างๆ ตลอดจนชุมชนที่มีระบบการจัดการที่ดี เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ชุมชนอื่นๆได้อีกด้วย

โอกาสนี้จะพาไปท่องเที่ยวแบบเดินทัวร์ชุมชนในตัวเมืองเชียงใหม่ ปกติเราอาจจะเคยนั่งรถส่วนตัวขับไปตามเส้นทางหลักๆ ของเมืองเชียงใหม่ แต่วันนี้ลองเปลี่ยนบรรยากาศเข้าไปสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนที่อยู่ในชุมชน ตามตรอกซอกซอยต่างๆ กันบ้าง เริ่มที่ชุมชนควรค่าม้าสามัคคีพัฒนาซอยสิงหราช ซอย 4 ซึ่งการเดินทางท่องเที่ยวในชุมชนครั้งนี้ มีนายพิเชฐ พิศุทธกุล รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ รักษาการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเดินทางด้วย

“ชุมชนในเมืองเชียงใหม่มีมากมาย และมีจุดเด่นแตกต่างกันไป มีทั้งชุมชนย่านเมืองเก่า ชุมชนที่มีงานหัตถกรรม มีวัดวาอารามที่สวยงามทั่วเมืองเชียงใหม่เลย หากทุกท่านได้ลองจอดรถและเดินเท้า ท่านจะพบอะไรดีๆหลายอย่างมากกว่าที่เห็นครับ” นายพิเชฐ กล่าว

และครั้งนี้ที่เรามาที่ชุมชนควรค่าม้า เพราะว่าที่นี่เขาได้มีการริเริ่มกิจกรรมที่ชื่อว่า “เตวแอ่วเวียง” หรือเดินเที่ยวเมืองเชียงใหม่ ได้รับการต้อนรับที่ดีเยี่ยมจากประธานชุมชน (ป้าน้อย รัตนา ชูเกษ) พร้อมทั้งคนในชุมชนที่มีความสามัคคี เรียกได้ว่า สมชื่อ ชุมชนควรค่าม้าสามัคคีพัฒนาจริงๆ 2 ข้างทางที่ได้เดินชมในซอยสิงหราช 4 มีบ้านไม้เก่า ผู้คนในชุมชนที่นี่ให้ความสำคัญในเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ปลูกต้นไม้ร่มรื่นแทบจะทุกหลังคาเรือน

ประธานชุมชนบอกว่า “เราขอความร่วมมือ สื่อสารสร้างความเข้าใจคนในชุมชน ว่าการปลูกต้นไม้เป็นพื้นที่สีเขียวของเมือง การดูแลและอยู่ร่วมกันของชุมชน ผู้คนที่นี่หวงแหนรักในธรรมชาติ และต้องการให้ต้นไม้อยู่ โดยเฉพาะต้นไม้เก่าแก่ที่มีอายุมาก ขนาดที่ว่าจะซ่อมบ้านสร้างบ้าน ยังไม่ตัดต้นไม้เลย”

การเดินลัดเลาะเข้าซอยต่างๆในชุมชนที่นี่ เชื่อเลยว่าใครที่ได้มาสัมผัส จะประทับใจอย่างแน่นอน จึงอยากแนะนำให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสการท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่งที่อาจถูกมองข้ามไป แต่เป็นการท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ตัว เดินทางก็สะดวกสบาย แสนง่าย หากนักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสวิถีชีวิตของชุมชนเมือง ที่ซ่อนตัวอยู่ตามตรอกซอกซอยต่างๆ ไม่ใช่เพียงแค่ชุมชนควรค่าม้าสามัคคีพัฒนา ยังมีชุมชนต่างๆที่แฝงตัวอยู่ในย่านเมืองเก่า อย่าลืมวันไหนว่างๆอากาศดีๆ ลองจอดรถแล้วลงมาเดินดูความเป็นมาเป็นไปของเมือง ชมวิถีชุมชน วิถีของเมืองเชียงใหม่ ภายในสี่เหลี่ยมคูเมือง มีชุมชนที่แฝงไว้ด้วยความงดงาม สร้างสีสันการท่องเที่ยวของทุกท่านกับการมาเชียงใหม่ครั้งต่อไป ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการท่องเที่ยว

ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวได้ที่ ฝ่ายพัฒนาสังคมและการท่องเที่ยว องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ที่เบอร์ 053-998333 ต่อ 208 และ 211 และ www.chiangmaipao.go.th

ร่วมแสดงความคิดเห็น