จนท.ระดมกำลัง กวาดล้างตัดไม้

เจ้าหน้าที่อุทยานผาแดง สนธิกำลังตำรวจ ตชด.เชียงดาว บุกทลายโรงชำแหละไม้แปรรูปกลางป่า ผู้ต้องหา แตกฮือวิ่งหลบหนี ทิ้ง อุปกรณ์ตัดไม้ทำลายป่าและรถ จยย.ไว้ให้ดูต่างหน้า เช่นเดียวกันกับพื้นที่ อ.ป่าซาง ทหารสนธิกำลัง เข้าตรวจป่าไม้ซางถูกชาวบ้านลักลอบตัดไว้กองใหญ่ ส่วนผู้ต้องหาเผ่นหนีป่าราบ ส่วนที่ จ.น่าน เข้าตรวจยึดไม้แปรรูปซุกซ่อนในดงกล้วยไร้ผู้กระทำผิด

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 25 เมษายน 2560 นายศรัณยวิทย์ ทอดเสียง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติผาแดง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ร่วมกับตำรวจตระเวณชายแดนกองร้อย 335 เชียงดาว ทำการตรวจยึดไม้พลวงแปรรูป 40 แผ่น ปริมาตร 0.77 ลบ.ม. และไม้พลวงท่อน 2 ท่อน ปริมาตร 3.09 ลบ.ม. และอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำผิด 5 รายการ คือ เลื่อยโซ่ไฟฟ้า 2 เครื่อง, เครื่องปั่นไฟ 2 เครื่อง, สายไฟ 1 เส้น, มีด 1 ด้าม และรถ จยย. 1 คัน เหตุเกิด ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแดงบริเวณป่าบ้านดอยนาหลวง หย่อมบ้านแม่กอน หมู่ 2 ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

ทั้งนี้ก่อนการจับกุม นายศรัณยวิทย์ ทอดเสียง หัวหน้าอุทยบานแห่งชาติดอยผาแดง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ รับแจ้ง ที่บริเวณ ป่าบ้านดอยนาหลวง หย่อมบ้านแม่กอน หมู่ 2 ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ มีชาวบ้านกำลังทำการแปรรูปไม้โดยใช้เลื่อยยนต์ขอให้ทำการตรวจสอบด้วย ภายหลังจากได้รับแจ้ง จึงประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 335 เพื่อ เข้าตรวจค้น จนกระทั่งเห็นชายฉกรรจ์ประมาณ 3-5 คน กำลังทำการแปรรูปไม้พลวงอยู่

เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังเพื่อจะเข้าจับกุม ปรากฎว่า ขณะกำลังกระจายกำลังจะปิดล้อมจับกุม กลุ่มชายฉกรรจ์เห็นเจ้าหน้าที่ก่อนจึงพากันแตกฮือวิ่งหลบหนีเข้าป่าไปคนละทิศคนละทาง ทิ้งอุปกรณ์ตัดไม้ทำลายป่าเอาไว้ พร้อมด้วย รถ จยย.อีก 1 คัน จึงยึดไว้ทั้งหมด พร้อมกันนี้จะได้ทำการขยายผลจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขณะเดียวกันทำบันทึก ตรวจยึดนำส่ง พงส.สภ.นาหวาย อ.เชียงดาว คดีที่ 129/2560 ยึดทรัพย์ที่55/2560 พ.ต.ท.สมบัติ อินถอด พงส. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงาน จาก อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ซึ่งทหาร ร่วม ผู้ใหญ่บ้านและป่าไม้ บุกตรวจป่าไม้ซาง หลังพบมีการลักลอบตัด เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 25 เม.ย. 60 พ.ท.เฉลิมพล ศรีทะ ผบ.ร.7 พัน.1/ผบ.ร้อย.รส.ที่ 2 (ร.7 พัน.1) ได้สั่งการให้ ร.ท.นันท์พิพัชญ์ คำวงค์ปิน รอง ผบ.ร้อย.รส.ที่ 2 (ร.7 พัน.1) ร่วมกับ นายสุทธิพงษ์ ไชยเมืองชื่น พนักงานพิทักษ์ป่า ส.2 (ลพ.5 แม่อาว) พร้อม เจ้าหน้าที่ป่าไม้ 3 นาย และ นายจิรกิต ติ๊บกวาง ผู้ใหญ่บ้าน บ้านห้วยไฟ ต.นครเจดีย์ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ลงพื้นที่ตรวจสอบการลักลอบตัดไม้ (ไม้ไผ่/ไม้ซาง) ในพื้นที่เขตติดต่อ บ้านห้วยไฟ ต.นครเจดีย์ อ.ป่าซางฯ-บ้านห้วยน้ำดิบ ต.ป่าพลู อ.บ้านโฮ่งฯ โดยใช้เส้นทางเข้า ออก ผ่านบ้านห้วยไฟ ต.นครเจดีย์ อ.ป่าซาง

จากการตรวจค้น พบไม้ไผ่ที่ถูกตัด แต่ลำเลียงออกไปไม่หมด จำนวน 50 เล่ม แต่ไม่พบผู้ลักลอบตัดไม้ เนื่องจากน่าจะหลบหนีขณะที่เจ้าหน้าที่บุกเข้าทำการตรวจสอบอย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุทาง นายจิรกิต ติ๊บกวาง ผู้ใหญ่บ้านบ้านห้วยไฟ รับปากว่าจะดำเนินการปิดเส้นทางการลักลอบขนไม้ซาง เพื่อไม่ให้ขนอีกต่อไป

ส่วนด้าน จ.น่าน จนท.สนธิกำลังกว่า 50 นาย บุกยึดไม้แปรรูป ในเขตป่าสงวนซุกซ่อนอยู่ในดงกล้วยเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2560 เวลาประมาณ 09.30 น. พันเอกรุศมนตรี จิณเสน รอง ผอ.กอ.รมน.น่าน, นายนิทรรศ เวชวินิจ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่, นายชีวภาพ ชีวธรรม หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) กรมป่าไม้ และนายสักรินทร์ ปัญญาใจ ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ จนท.ศูนย์ปฏิบัติการสนธิกำลังหยุดยั้งการบุกรุกทำลายป่าจังหวัดน่านที่ 3, นายมนตรี พลภักดี หน.ศูนย์ฯ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ตามแผนปฏิบัติการสนธิกำลังหยุดยั้งการบุกรุกทำลายป่าจังหวัดน่านที่ 3 บริเวณป่าห้วยหยวก ได้สนธิกำลัง จนท.ป่าไม้ในส่วนที่เกี่ยวข้อง กว่า 50 นาย ร่วมกันออกปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้

หลังจากได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าพิกัด 659667, 2080342 บ้านห้วยหยวก หมู่ที่ 6 ต.แม่ขะนิง อ.เวียงสา จ.น่าน ว่ามีการลักลอบทำไม้และแปรรูปไม้ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำยาวและป่าน้ำสวด จนท.ชุดปฏิบัติงานดังกล่าว จึงได้ออกตรวจสอบและตรวจค้นยังพื้นที่เป้าหมายตามที่ได้รับแจ้งดังกล่าว พบไม้กระยาเลยหวงห้าม (จำปีป่า, ตุ้มเต๋น, ยมหอม) แปรรูปขนาด ปริมาตร 6.12 ลบ.ม.จำนวน 242 แผ่น ซุกซ่อนอยู่ใต้สังกะสีเก่าๆ ขึ้นสนิมปิดทับไว้ จำนวนหลายแผ่นปกปิดอำพรางไว้อย่างมิดชิดในป่ากล้วยอยู่ในลำห้วยที่น้ำแห้งขอด แต่ไม่พบตัวผู้กระทำผิด จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นไม้ของกลาง นำส่ง พงส.สภ.เวียงสา เพื่อเร่งดำเนินคดีติดตามหาตัวผู้กระผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้านนายมนตรี พลภักดี หน.ศูนย์ฯ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ตามแผนปฏิบัติการสนธิกำลังหยุดยั้งการบุกรุกทำลายป่าจังหวัดน่านที่ 3 บริเวณป่าห้วยหยวก ได้กล่าวว่าไม้ของกลางดังกล่าวนั้นคาดว่า นายทุนน่าจะเป็นคนต่างจังหวัดโดยจ้างคนในพื้นที่รวมไปถึงคนต่างพื้นที่เข้ามาบุกลุกตัดไม้ในเขตพื้นที่จังหวัดน่าน ซึ่งการตัดไม้ของพวกลักลอบตัดไม้ จะแอบตัดในช่วงกลางคืน และจะซุกซ่อนไม้ไว้ก่อน หลังจากนั้นจะค่อยๆ ลำเลียงออกไปทีละน้อยเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต จึงยากต่อการจับกุมที่ผ่านมา