ตำรวจภาค 5 สั่งมือปราบมือดี ลุยคดีค้ากาม หลังพบบิ๊กข้าราชการ มีเอี่ยวหลายคน

ตำรวจภาค 5 สั่งมือปราบมือดี ลุยคดีค้ากาม หลังพบบิ๊กข้าราชการมีเอี่ยวหลายคน พร้อมสั่งย้ายอีก 4 นายตำรวจพื้นที่แม่ฮ่องสอน ออกนอกพื้นที่

จากกรณี มีการร้องเรียนผ่านสื่อว่า เกิดขบวนการค้ามนุษย์ โดยคนมีสีเข้าไปเกี่ยวข้อง ใช้ยาเสพติดหลอกล่อ และถ่ายคลิปแบล็คเมล์ให้ค้าประเวณี ซึ่งมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี หลังจากเกิดเหตุทาง พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ. 5 สั่งให้ตรวจสอบเรื่องนี้เร่งด่วน และจะต้องนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีให้หมดทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่ง คนมีสี ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ข่าวความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 26 เม.ย.60 พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 ได้ออกคำสั่งตำรวจภูธรภาค 5 ที่ 171/2560 แต่ตั้งคณะ พงส.ความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน สืบเนื่องมาจากที่มีประชาชนร้องเรียนว่าแก๊งค้ามนุษย์ในพื้นที่ มีการบังคับหญิงสาวค้าประเวณีโดยมีการบังคับให้เสพยา และถ่ายคลิปวีดีโอไว้ข่มขู่ให้ยินยอมค้าประเวณี โดยผู้เสียหายบางคนยินยอมเพราะต้องการใช้เงิน หรือเพราะฐานะครอบครัว และเข้าใจว่าผู้ที่มาซื้อประเวณีเป็นข้าราชการชั้นสูง ผู้หลักผู้ใหญ่ในพื้นที่ จึงไม่กล้าเปิดเผยข้อมูลเรื่องดังกล่าว เพราะเกรงว่าตนเองจะเดือนร้อนภายหน้า

ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการในกรณีดังกล่าวนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงอาศัย พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 14 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวน โดยมี พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ.5 เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวน พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ รอง ผบช.ภ.5 เป็นรองหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวน พล.ต.ต.จารึก ลิ้มสุวรรณ ผบก.สส.ภ.5 เป็นผู้ช่วยหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวน และนายตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิอีก 13 คน ดำเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง และให้รายงานผลการดำเนินการทุกๆ 15 วัน

ต่อมาเวลา 13.00 น.ที่ห้องประชุมใหญ่ บช.ภ.5 พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ.5 หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวน พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.จารึก ลิ้มสุวรรณ ผบก.สส.ภ.5 พร้อมทีมพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้ร่วมประชุมสรุปการดำเนินการในคดีที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยมีการแบ่งงานการดำเนินการเป็นขั้นตอน

พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ.5 กล่าวว่าคดีนี้ เบื้องต้นมีเหยื่อ 3 ราย จากการสอบปากคำมารดาของหนึ่งในเหยื่อ 3 ราย ให้การอ้างว่าบุตรสาวให้ข้อมูลว่า ตนเองและพวกถูกนำไปขายบริการให้กับข้าราชการ ชั้นผู้ใหญ่ รวมถึงบุคคลทั่วไปหลายครั้ง เฉพาะแค่กลุ่มที่เป็นข้าราชการมีที่จำชื่อได้ประมาณ 3-4 คน ส่วนที่จำชื่อไม่ได้ จำได้แต่ตำแหน่งหน้าที่การงานได้ อีก 6 – 7 คน รวมแล้ว มากกว่า 10 คน แต่ข้อมูลที่ได้ในวันนี้ ก็เป็นเพียงข้อมูลจากแม่ของเหยื่อที่ได้ฟังคำบอกเล่ามาเท่านั้น

เมื่อเราตั้งทีมสืบสวนสอบสวนขึ้นมา เราก็จะเดินหน้าทำการลงพื้นที่ทำการสืบสวนหาข้อมูล พยาน หลักฐาน ทั้งหมด หาข้อเท็จจริง คดีนี้ทางตำรวจภูธรภาค 5 เราดำเนินการสาวต่อจากคดีค้ามนุษย์ที่เราได้รับแจ้งความ แต่ส่วนของที่แม่เด็กพาเด็กไปร้องที่ ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ปคม.)ทางปคม. ก็ทำการออกหมายจับและจับกุม และเตรียมขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องคนอื่นๆ ซึ่งเราก็มีการประสานข้อมูลการทำงานเพียงแต่แยกเป็นคนละคดี

คำกล่าวอ้างที่มารดาผู้เสียหายกล่าวไว้ ทั้งเรื่องบิ๊กข้าราชการทั้งจำชื่อได้ จำตำแหน่งได้ ตำรวจที่เกี่ยวข้อง หรือบุคคลอื่นที่ชัดถอดมาทั้งหมด เราก็นำเก็บไว้เป็นข้อมูล ก่อนจะสอบสวนปากคำตัวผู้เสียหายทั้งหมดที่เป็นเหยื่อของแก๊งค้ามนุษย์ แล้วทำการรวบรวมพยานหลักฐาน ข้อมูลทุกว่า ว่าเหยือมีอีกไหม ผู้เอาเด็กทั้งหมด มีใครบ้าง ผู้ประ กอบการธุรกิจค้ามนุษย์ มีใครอีกบ้าง เราจะทำความจริงให้ปรากฏ แล้วค่อยพิจารณาตามฐานความผิดของแต่ละกลุ่มคนไป

ซึ่งทั้งหมดที่ถูกกล่าวชัดถอด จะต้องเชิญตัวมาสอบปากคำ คณะทำงานที่ ผบช.ภ.5 ตั้งขึ้นมา มีความตั้งใจทำงานในคดีนี้เพื่อให้ความกระจ่างแก่สังคม สำหรับกลุ่มข้าราชการ ที่ร่วมกันใช้บริการค้าประเวณี ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมน ตรี มีเรื่องการป้องกันการค้ามนุษย์ ไม่ให้ข้าราชการเกี่ยวข้องส่งเสริมการค้ามนุษย์ ท่านที่เป็นข้าราชการควรมีวุฒิภาวะ ต้องรู้ ต้องตระหนักว่า เรื่องพวกนี้ไม่ควรเข้าไปยุ่งหรือส่งเสริมใดๆทั้งสิ้น

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกรณีมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่พยายามช่วยเหลือคดีที่นางน้ำเพชร ร้องเรียน และพยายามเอาผิดกับกลุ่มตำรวจที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ กลับถูกย้ายออกจากพื้นที่แทน รอง ผบช.ภ.5 กล่าวว่าตรงนี้ไม่ทราบข้อมูล แต่เท่าที่ทราบมีการย้ายตำรวจ จำนวน 4 นาย ออกจากพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ชั่วคราว

ร่วมแสดงความคิดเห็น