จิตอาสาเดินตามรอยในหลวง รวมพลซ่อมแซมฝาย นัดรวมพลังที่ 12 พ.ค.

เครือข่ายตามรอยในหลวง ระดมพลังจิตอาสาเชียงใหม่ นัดรวมตัว 12 พ.ค.นี้ ที่น้ำตกมณฑาธาร ร่วมขุดลอกตะกอนทรายและซ่อมแซมฝายชะลอน้ำห้วยแก้ว คืนความชุ่มชื้นให้กับผืนป่าดอยสุเทพ โดยทำต่อเนื่อง เป็นปีที่ 2

นายพันธวัสย์ กรรณกุลสุนทร ประธานเครือข่ายตามรอยในหลวง เปิดเผยว่า จากการที่ ตัวแทนเครือข่ายตามรอยในหลวง และจิตอาสาจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้ร่วมกันเดินสำรวจสภาพพื้นที่และลำน้ำห้วยแก้ว ที่ไหลลงมาจากยอดดอยสุเทพ ช่วงที่อยู่เหนือน้ำตกมณฑาธารขึ้นไปจนถึงน้ำตกไทรย้อย ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร เพื่อเก็บข้อมูลนำไปวางแผนเตรียมพร้อมในการดำเนินกิจกรรมตามโครงการฟื้นฝายตามรอยในหลวง ประจำปี 2560 ที่จะทำการขุดลอกตะกอนทรายที่ทับถมและซ่อมแซมฝายต่างๆ ที่อยู่ในลำน้ำห้วยแก้ว ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ที่ไหลจากยอดดอยสุเทพลงสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ หลังจากที่ในปี 2559 ได้ดำเนินไปแล้วครั้งหนึ่งเป็นปีแรก และได้ผลเป็นที่น่าพอใจในการช่วยชะลอกักเก็บน้ำและคืนความชุ่มชื้นให้กับผืนป่า
ทางคณะกรรมการที่ร่วมกันจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ได้ทำการวางแผนงานและเตรียมความพร้อมในการดำเนินการขุดลอกตะกอนทรายที่ทับถมและซ่อมแซมฝายในลำน้ำห้วยแก้ว ที่บริเวณน้ำตกไทรย้อย ซึ่งกำหนดจะดำเนินการในวันที่ 12 พ.ค.60 โดยจะมีการระดมกลุ่มจิตอาสาในจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันขุดลอกตะกอนทรายและซ่อมแซมฝายบริเวณน้ำตกไทรย้อย ตั้งแต่เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป ที่บริเวณน้ำตกมณฑาธาร

สำหรับการดำเนินการในครั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจะยังคงได้รับความร่วมแรงร่วมใจเป็นอย่างดี จากกลุ่มจิตอาสา ทั้งประชาชน นักเรียน และนักศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ ในการดำเนินการขุดลอกตะกอนทรายและซ่อมแซมฝายบริเวณน้ำตกไทรย้อย ให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายอย่างแน่นอน หลังจากที่ในปีที่ผ่านมามีผู้เข้าร่วมกิจกรรมรวมกว่า 3,000 คน จนทำการขุดลอกฝายที่อยู่ใต้น้ำตกมณฑาธารลงไปรวมทั้งสิ้น 40 ฝาย

โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ หากมีจำนวนผู้เข้าร่วมมากเพียงพอ จะมีการทำการขุดลอกและซ่อมแซมฝายเพิ่มเติมในจุดอื่นๆ ที่ได้ดำเนินการไปเมื่อปีที่แล้วด้วย ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ปีนี้ปริมาณน้ำในลำห้วยเพิ่มขึ้น และยังคงมีน้ำไหลต่อเนื่องแม้จะเป็นในช่วงฤดูแล้ง เนื่องจากฝายที่ทำการขุดลอกตะกอนทรายออกไปแล้วสามารถกักเก็บน้ำได้มากขึ้นและทำให้เกิดความชุ่มชื้นในพื้นที่เพิ่มมากขึ้นด้วย เป็นผลดีต่อการฟื้นตัวของสภาพป่า และต้นไม้ รวมทั้งระบบนิเวศน์ของดอยสุเทพ

ร่วมแสดงความคิดเห็น