เพลิงพิโรธ ไหม้กุฎิวัดทุ่งหลวง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เสียหายหลายล้านบาท

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำ เวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 4 พ.ค.60 โดยทาง พ.ต.ท.ธงชัย ใจบุญ พนักงานสอบสวน สภ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่ามีเหตุเพลิงไหม้กุฎิวัด และกำลังลุกลามอย่างหนัก เหตุเกิดที่ภายในวัดทุ่งหลวง ต.แม่แตง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ภายหลังทราบเรื่องจึงได้รุดเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกันกับทางเจ้าหน้าที่สายตรวจของสถานี และได้ประสานทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ให้ช่วยกันเข้าช่วยเหลือและระงับเหตุอย่างเร่งด่วน เนื่องจากทราบว่าเพลิงได้ลุกลามอย่างหนัก
ซึ่งเมื่อไปถึงบริเวรที่เกิดเหตุ พบกลุ่มชาวบ้าน พระสงฆ์ กำลังช่วยกันระงับเพลิงกันอย่างจ้าละหวั่น ซึ่งเพลิงดังกล่าวกำลังลุกไหม้หนักภายในและนอกตัวกุฏิหลังใหญ่ที่ทำจากไม้ และมีทีท่าว่าจะลุกลามไปยังกุฏิที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเมื่อทางเจ้าหน้าที่เห็นดังนั้นจึงได้ช่วยกันระดมรถดับเพลิงเข้าทำการฉีดน้ำระงับเพลิงที่ลุกไหม้อย่างเร่งด่วน แต่เนื่องจากกุฏิดังกล่าวทำจากไม้ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีจึงทำให้การระงับเพลิงนั้นทำได้อย่างยากลำบาก และในเวลาต่อมาต้องประสานขอความช่วยเหลือสบทบจากทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิง รวมทั้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก และต้องระดมฉีดน้ำเข้าควบคุมเพลิงนานราว 2 ชั่วโมง

จนกระทั่งในเวลาต่อมาประมาณ 22.40 น. สามาถควบคุมเพลิงไว้ได้ในที่สุด ส่วนความเสียหายนั้นเบื้องต้นทราบว่า กุฎิหลังใหญ่ซึ่งเป็นต้นเพลิงได้ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง และลุกลามไปติดยังกุฏิหลังที่อยู่ข้างเคียงอีกด้วย โดยต่อมาหลังสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้วนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้ทำการเข้าสำรวจความเสียหายทั้งหมดจากการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้พบว่ามีกุฏิที่ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 หลัง และหลังที่ 3 ที่อยู่ใกล้เคียงถูกเพลิงลุกลามไปติดแต่ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถช่วยกันดับได้ทันจึงทำให้ได้รับความเสียหายเล็กน้อย ส่วนกุฏิที่ถูกเพลิงไหม้โดยตรงทั้ง 2 หลังนั้นพบว่าทรัพย์สินที่อยู่ภายในก็ได้รับความเสียหายไปด้วยเช่นกัน

ขณะเดียวกัน จากการสอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ซึ่งเป็นชาวบ้านในระแวกดังกล่าวเล่าว่า ก่อนนเกิดเหตุเป็นช่วงค่ำ ขณะที่กำลังเดินกลับบ้านนั้นได้พบเห็นเปลวไฟและกลุ่มควันดำออกมาจากกุฏิหลังใหญ่ภายในวัด ด้วยความตกใจจึงรีบตะโกนบอกให้ชาวบ้านทราบและช่วยกันดับไฟที่ลุกไหม้ ส่วนพระสงฆ์ที่อาศัยอยู่ภายในวัดเมื่อเห็นดังนั้นต่างก็พากันนำน้ำเข้ามาช่วยกันควบคุมเพลิงแต่ก็ไม่ทันการเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ประกอบกับกุฏิดังกล่าวทำจากไม้ จึงทำให้เพลิงลุกลามขึ้นอย่างรวดเร็วจนขยายเป็นวงกว้าง ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะเข้ามาช่วยกันระดมฉีดน้ำควบคุมเพลิงได้ในที่สุด อย่างไรก็ตามสาเหตุในการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด ซึ่งต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาทำการตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ และค่าความเสียหายนั้นคาดว่าอยู่ที่หลายล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการประเมินและตรวจสอบ

ร่วมแสดงความคิดเห็น