ระดมความคิด บูรณาการระบบพลังงานไทย

วิทยาลัยพลังงานทดแทน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จัดเปิดการประชุมวิชาการเครือข่ายพลังงานแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 13 พร้อมนำเสนอผลงานจาก 15 สถาบันการศึกษา นำไปสู่การพัฒนางานวิชาการเชิงบูรณาการและต่อยอดความร่วมมือทางด้านวิชาการต่อไปในอนาคต ตอบรับนโยบายของรัฐบาลในการผลักดันยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 มุ่งหาแนวทางการพัฒนาพลังงานของประเทศไทยอย่างยั่งยืน
ฯพณฯ พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการ ประชุมวิชาการเครือข่ายพลังงานแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 13 (13th Conference on Energy Network of Thailand) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน 2560 ณ โรงแรมดิเอ็มเพรส เชียงใหม่ โดยมีนายปวิณ ชำนิประศาสตร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้กล่าวต้อนรับ และ ผู้ช่วยศาสตร์จารย์ ดร.จำเนียร ยศราช อธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นผู้กล่าวรายงาน
ทั้งนี้ ฯพณฯ พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันพลังงานนับเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญยิ่ง ในการตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของสังคม และเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมาโดยตลอด เป็นปัจจัยพื้นฐานต่อยอดสู่การพัฒนาทุกด้าน ทั้งภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม แรงงาน สังคม ตลอดจนภาคครัวเรือน ล้วนต้องพึ่งพาพลังงานด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 จำเป็นต้องมีแนวทางการพัฒนาพลังงาน 4.0 ของกระทรวงพลังงาน โดยได้กำหนดนโยบายพลังงาน 4.0 เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภายในหลักการ คือ การยกระดับประสิทธิภาพของระบบพลังงาน และนำนวัตกรรมที่เหมาะสมมาใช้ในการพัฒนา ซึ่งต้องครอบคลุมทั้งระบบ ตั้งแต่การผลิต จัดหา แปรรูป จนถึงการใช้ตามประเภทพลังงาน ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ ไฟฟ้า และต้องสอดคล้องกับการทำงานด้านประชารัฐด้วย
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ดังนั้น หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนจึได้มีความพยายามร่วมกันในการพัฒนาพลังงานทดแทน พลังงานทางเลือก รวมถึงการอนุรักษ์พลังงาน โดบรัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายให้สามารถทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลได้อย่างน้อยร้อยละ 25 ภายใน 10 ปี ทั้งนี้ให้มีการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร ส่งเสริมและผลักดันการอนุรักษ์พลังงานอย่างเต็มรูปแบบ โดยลดระดับการใช้พลังงานต่อผลผลิตลงร้อยละ 25 ภายใน 20 ปี และมีการพัฒนาอย่างครบวงจร ส่งเสริมการใช้อุปกรณ์และอาคารสถานที่ที่มีประสิทธิภาพสูง ส่งเสริมกลไกการพัฒนาพลังงานที่สะอาดเพื่อลดก๊าซเรือนกระจกและแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน สร้างจิตสำนึกของผู้บริโภคในการใช้พลังงานอย่างประหยัด และมีประสิทธิภาพให้เป็นระบบจริงจังและต่อเนื่องทั้งภาคการผลิต ภาคการขนส่ง และภาคครัวเรือน รวมถึงพัฒนาส่งเสริมเทคโนโลยีพลังงานทกแทนสัญชาติไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดสากล อย่างไรก็ตามเป้าหมายของพลังงาน 4.0 เพื่อยกระดับการบริหารจัดการระบบพลังงานของประเทศต้องดำเนินไปพร้อมกับการสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนด้านอื่นด้วย จึงจะสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศได้อย่างแท้จริง ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้นับเป็นส่วนหนึ่งที่จะผลักดันให้ประเทศชาติมีการดำเนินดารด้านพลังงานทางเลือก และพลังงานทดแทนให้เป็นไปอย่างเหมาะสม
ด้าน ผู้ช่วยศาสตร์จารย์ ดร.จำเนียร ยศราช อธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดเผยว่า การจัดประชุมวิชาการเครือข่ายพลังงานแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 13 เป็นความร่วมมือระหว่างวิทยาลัยพลังงานทดแทน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี รวมไปถึง ผู้ผลิต ผู้ใช้ และหน่วยงานวิจัยทางด้านพลังานในประเทศไทย โดยการจัดงานจะจัดขึ้นทุกๆปี โดยมีสมาชิกเครือข่ายหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพในการจัดโครงการ
ผู้ช่วยศาสตร์จารย์ ดร.จำเนียร กล่าวต่อว่า ซึ่งการจัดงานประชุมวิชาการเครือข่ายพลังงานแห่งประเทศไทยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.เพื่อสร้างเครือข่ายทางพลังงาน รวมทั้งระดมความคิด แลกเปลี่ยนแนวคิดระหว่าง นักวิชาการ นักวิจัย นักศึกษา ในสาขาที่เกี่ยวข้องด้านพลังงาน 2.เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนระดมความคิดเห็นและประสบการณ์ระหว่างนักวิชาการเชี่ยวชาญทางด้านพลังงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อเสนอแนะแนวทางในการกำหนดทิศทางนโยบาย การวิจัยและพัฒนาทางด้านพลังงานของประเทศไทย 3.เพื่อเป็นพื้นที่ในการนำเสนิผลงานเชิงวิชาการของนักวิชาการ นักวิจัย นักศึกษา ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับด้านพลังงาน 4.เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้เพิ่มพูนความรู้และทักษาทางวิชาการ รวมทั้งได้แลกเปลี่ยนแนวความคิดและประสบการณ์ เพื่อนำไปประยุกต์ในการพัฒนางานวิจัย
สำหรับการจัดการประชุมวิชาการเครือข่ายพลังงานแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 13 จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าขาดความร่วมมือร่วมใจของทุกๆฝ่ายๆ เพื่อนำสู่การวิจัยและพฒนาทางด้านพลังงานมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาและลดอัตราการใช้พลังงานของประเทศต่อไป อธิการบดี ม.แม่โจ้ กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น