ธุรกิจโรงแรมแข่งขันรุนแรงขึ้น คาดปี60รายได้ธุรกิจขยายตัว

รายได้ของธุรกิจโรงแรมส่วนใหญ่มาจากการให้บริการห้องพักเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้บริการห้องพักรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อย่างไรก็ดี ธุรกิจโรงแรมยังมีรายได้จากการให้บริการอื่นๆ อย่างสถานที่จัดงาน ที่พบว่า ทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรระหว่างประเทศ นิยมใช้บริการธุรกิจโรงแรมเป็นสถานที่จัดงานต่างๆ โดยในปี 2560 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมนานาชาติอย่าง World Travel and Tourism Council Global Summit 2017 รวมถึงงานประชุมนานาชาติด้านอื่นๆ เช่น วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การแพทย์ เป็นต้น ที่ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมได้รับอานิสงส์จากการให้บริการสถานที่จัดงาน และบริการห้องพักเพิ่มมากขึ้น

แม้การแข่งขันในตลาดธุรกิจโรงแรมเป็นไปอย่างรุนแรงขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการโรงแรมในตลาดขยายธุรกิจอย่างระมัดระวัง แต่ยังมีการเข้าสู่ตลาดของผู้ประกอบการรายใหม่ ทั้งในรูปแบบการเข้าซื้อ/ควบรวมธุรกิจโรงแรมในตลาด และในรูปแบบการลงทุนก่อสร้างโรงแรมแห่งใหม่ ทั้งนี้ การลงทุนก่อสร้างโรงแรมของกลุ่มผู้ประกอบการรายใหม่ที่เป็นกลุ่มทุนรายใหญ่ น่าจะส่งผลให้การแข่งขันในเซ็กเมนต์โรงแรมระดับสามดาวลงมาในจังหวัดศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเป็นไปอย่างรุนแรงยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี สถานการณ์การท่องเที่ยวในปี 2560 ยังคงมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากในปี 2559 ประกอบกับแนวโน้มการฟื้นตัวของตลาดการจัดงานต่างๆ น่าจะช่วยเพิ่มรายได้จากการให้บริการสถานที่จัดงาน ส่งผลให้
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 2560 ธุรกิจโรงแรมน่าจะมีรายได้ 564,000-574,000 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 3.7-5.5 ชะลอลงจากปี 2559 ที่เติบโตร้อยละ 6.0 จากปีก่อนหน้า
แม้สถานการณ์การท่องเที่ยวในปี 2560 มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากในปี 2559 และส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมได้รับอานิสงส์จากการให้บริการรองรับนักท่องเที่ยว แต่ธุรกิจโรงแรมก็ยังเผชิญแรงกดดันจากจำนวนผู้ประกอบการโรงแรมที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าสู่ตลาดของผู้ประกอบการรายใหม่ที่ลงทุนก่อสร้างโรงแรม ซึ่งเล็งเห็นโอกาสในการลงทุนธุรกิจโรงแรมในพื้นที่ต่างๆ ที่มีระดับการให้บริการตั้งแต่โรงแรมระดับห้าดาว สี่ดาวไปจนถึงสามดาวลงมา

ผู้ประกอบการโรงแรมในตลาดขยายธุรกิจอย่างระมัดระวัง คาดการลงทุนก่อสร้างโรงแรมของผู้ประกอบการรายใหม่ ส่งผลให้โรงแรมระดับสามดาวลงมาแข่งขันรุนแรงขึ้น
การแข่งขันธุรกิจโรงแรมรุนแรง … ผู้ประกอบการในตลาดขยายธุรกิจอย่างระมัดระวัง จำนวนโรงแรมและห้องพักที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายธุรกิจโรงแรมของผู้ประกอบการในตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การแข่งขันในตลาดธุรกิจโรงแรมเป็นไปอย่างรุนแรงขึ้น โดยพบว่าธุรกิจโรงแรมเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีความเคลื่อนไหวอย่างผันผวน ทั้งการซื้อขาย/ควบรวมกิจการ ไปจนถึงมีผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยไม่ประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจ กระทั่งเลิกกิจการไป
โดยการแข่งขันในตลาดธุรกิจโรงแรมที่เป็นไปอย่างรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้ ส่งผลให้ผู้ประกอบการโรงแรมแต่ละกลุ่มปรับกลยุทธ์ในรูปแบบแตกต่างกัน โดยในปี 2560 ผู้ประกอบการโรงแรมรายใหญ่บรรเทาความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจ ด้วยการมุ่งเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการรับบริหารโรงแรมมากขึ้น จากเดิมที่สัดส่วนรายได้หลักของผู้ประกอบการโรงแรมรายใหญ่ส่วนใหญ่เกินกว่าร้อยละ 50 มาจากการเป็นเจ้าของลงทุนก่อสร้างโรงแรมเอง

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการโรงแรมรายใหญ่ยังให้ความสำคัญกับการกระจายการลงทุนธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศเพื่อเปิดตลาดใหม่ๆ และบรรเทาการพึ่งพิงรายได้จากธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยเป็นหลัก อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการเพิ่มรายได้จากการให้บริการอื่นๆ อย่างสถานที่จัดงานประชุมและสัมมนา งานแต่งงาน และงานอีเว้นท์
สำหรับธุรกิจโรงแรมรายกลางและเล็กเผชิญความท้าทายด้านการแข่งขันจากบริการที่พักประเภทอื่นๆ เช่น คอนโดมิเนียม บ้านพัก เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ เป็นต้น ซึ่งตั้งราคาที่พักแข่งขันกับโรงแรมระดับสามดาวลงมา ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการโรงแรมรายกลางและเล็ก โดยนักท่องเที่ยวมีทางเลือกในการเช่าที่พัก ทั้งจากเจ้าของโดยตรง และผ่านเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นที่เป็นตัวกลาง อย่างตัวกลางที่เป็นเครือข่ายจับคู่ระหว่างเจ้าของที่พักและนักท่องเที่ยว และตัวกลางให้บริการทำธุรกรรมด้านการท่องเที่ยวผ่านอินเทอร์เน็ต (Online Travel Agent)
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การแข่งขันในตลาดธุรกิจโรงแรมเป็นไปอย่างรุนแรงขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการโรงแรมในตลาดขยายธุรกิจอย่างระมัดระวัง โดยการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารเพื่อการโรงแรมทั่วประเทศในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2559 ที่อยู่ที่ 1,936 อาคาร เพิ่มขึ้นจากในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2558 ถึงร้อยละ 68.51 สะท้อนถึงแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของจำนวนโรงแรมและห้องพักในอนาคต ที่จะส่งผลให้การแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการโรงแรมทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
การลงทุนก่อสร้างโรงแรมของผู้ประกอบการรายใหม่ ส่งผลให้การแข่งขันในเซ็กเมนต์โรงแรมระดับสามดาวลงมาในจังหวัดศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวรุนแรงขึ้น
แม้การแข่งขันในตลาดธุรกิจโรงแรมจะเป็นไปอย่างรุนแรงขึ้น แต่ยังมีการเข้าสู่ตลาดของผู้ประกอบการรายใหม่ ทั้งในรูปแบบการเข้าซื้อ/ควบรวมธุรกิจโรงแรมในตลาด และในรูปแบบการลงทุนก่อสร้างโรงแรมแห่งใหม่ โดยผู้ประกอบการรายใหม่ที่เข้าซื้อ/ควบรวมธุรกิจโรงแรมในตลาด มุ่งเน้นปรับปรุงและรีแบรนด์โรงแรม เพื่อดึงดูดการใช้บริการจากนักท่องเที่ยว ในขณะที่ ผู้ประกอบการรายใหม่ที่เล็งเห็นโอกาสในการลงทุนก่อสร้างโรงแรม เป็นกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจอื่นๆ ที่เป็นกลุ่มทุนรายใหญ่ เช่น ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจค้าปลีก เป็นต้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ผู้ประกอบการรายใหม่ที่ลงทุนก่อสร้างโรงแรมน่าจะเป็นกลุ่มที่ขับเคลื่อนการลงทุนธุรกิจโรงแรมในปี 2560 อย่างไรก็ตาม การเข้าสู่ตลาดของผู้ประกอบการรายใหม่น่าจะส่งผลให้จำนวนโรงแรมและห้องพักในตลาดมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และการแข่งขันในตลาดธุรกิจโรงแรมเป็นไปอย่างรุนแรงขึ้น ซึ่งกดดันการเพิ่มอัตราการเข้าพัก และการขึ้นราคาห้องพักในปี 2560
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการรายใหม่เข้าสู่ตลาดธุรกิจโรงแรม โดยเลือกลงทุนก่อสร้างโรงแรมในเซ็กเมนต์ต่างๆ ที่แตกต่างกัน ตามจุดแข็งและทรัพยากรที่ผู้ประกอบการแต่ละรายมีอยู่ เช่น ความเชี่ยวชาญ ที่ดิน เงินลงทุน เครือข่ายพันธมิตร เป็นต้น โดยกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ใช้จุดแข็งด้านการมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประกอบกับความสามารถในการจัดหาที่ดิน พัฒนาโครงการรูปแบบ Mixed-use Project ที่ประกอบด้วยที่อยู่อาศัย โรงแรม อาคารสำนักงาน และศูนย์การค้า โดยในส่วนของธุรกิจโรงแรมนั้น เป็นการมุ่งลงทุนก่อสร้างโรงแรมระดับสี่ดาวขึ้นไป ในทำเลใจกลางจังหวัดศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การแข่งขันในเซ็กเมนต์โรงแรมระดับสี่ดาวขึ้นไปในจังหวัดศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวยังอยู่ในระดับที่ไม่รุนแรง เนื่องจากธุรกิจโรงแรมในเซ็กเมนต์ดังกล่าวยังมีจำนวนไม่มาก โดยการลงทุนก่อสร้างโรงแรมของกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ น่าจะส่งผลให้ตลาดธุรกิจโรงแรมในเซ็กเมนต์ดังกล่าวคึกคักขึ้น ประกอบกับในปี 2560 ภาครัฐกระตุ้นการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลุ่มตลาดระดับบน เช่น กลุ่มล่องเรือยอร์ช กลุ่มท่องเที่ยวเชิงกีฬา กลุ่มไมซ์ กลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ กลุ่มฮันนีมูนและจัดงานแต่งงาน เป็นต้น น่าจะหนุนให้เกิดการใช้บริการโรงแรมระดับสี่ดาวขึ้นไปในจังหวัดศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวมากขึ้น
สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจอื่นๆ ที่เป็นกลุ่มทุนรายใหญ่ เช่น ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจค้าปลีก เป็นต้น ซึ่งมีความพร้อมในด้านทรัพยากร ทั้งที่ดิน เงินลงทุน และเครือข่ายพันธมิตร ได้ขยายการลงทุนมาสู่ธุรกิจโรงแรมระดับสามดาวลงมา ทั้งในจังหวัดศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว และจังหวัดเมืองรอง เช่น บุรีรัมย์ เลย ตาก สระแก้ว เป็นต้น ที่ภาคส่วนต่างๆ ได้นำเสนอเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ๆ และการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัด เพื่อให้บริการรองรับนักท่องเที่ยวระดับกลาง รวมถึงยังเจาะตลาดผู้ใช้บริการกลุ่มใหม่ๆ อย่างผู้ติดต่อธุรกิจในกลุ่มผู้จัดการ พนักงานระดับกลาง และพนักงานขายในจังหวัดที่เริ่มมีการขยายตัวของการค้าและการลงทุน
กล่าวโดยสรุปได้ว่า ผู้ประกอบการโรงแรมต้องจับตาการเข้าสู่ตลาดของผู้ประกอบการรายใหม่ในปี 2560 ที่น่าจะส่งผลให้การแข่งขันในเซ็กเมนต์โรงแรมระดับสามดาวลงมาในจังหวัดศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเป็นไปอย่างรุนแรงขึ้น ในขณะที่ยังมีช่องว่างในตลาดธุรกิจโรงแรม อย่างโรงแรมระดับสี่ดาวขึ้นไป และจังหวัดเมืองรอง ที่การแข่งขันยังอยู่ในระดับที่ไม่รุนแรง ซึ่งสะท้อนโอกาสให้ผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาลงทุนก่อสร้างโรงแรมในปี 2560
คาดปี’ 60 รายได้ธุรกิจโรงแรมขยายตัวร้อยละ 3.7-5.5
รายได้ของธุรกิจโรงแรมส่วนใหญ่มาจากการให้บริการห้องพักเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้บริการห้องพักรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อย่างไรก็ดี ธุรกิจโรงแรมยังมีรายได้จากการให้บริการอื่นๆ อย่างสถานที่จัดงาน ที่พบว่า ทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรระหว่างประเทศ นิยมใช้บริการธุรกิจโรงแรมเป็นสถานที่จัดงานต่างๆ โดยในปี 2560 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมนานาชาติอย่าง World Travel and Tourism Council Global Summit 2017 รวมถึงงานประชุมนานาชาติด้านอื่นๆ เช่น วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การแพทย์ เป็นต้น ที่ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมได้รับอานิสงส์จากการให้บริการสถานที่จัดงาน และบริการห้องพักเพิ่มมากขึ้น
สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติยังคงเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสร้างรายได้สะพัดสู่ธุรกิจโรงแรมในปี 2560 ประกอบกับเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีอนุมัติต่ออายุมาตรการยกเว้นวีซ่า และมาตรการปรับลดค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival) ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 21 ประเทศ ที่จะสิ้นสุดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 ออกไปอีก 6 เดือน กล่าวคือมาตรการดังกล่าวมีผลจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2560
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ธุรกิจโรงแรมน่าจะได้รับอานิสงส์จากการต่ออายุมาตรการดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจโรงแรมรายกลางและเล็กที่พึ่งพิงรายได้จากการเข้าพักของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อย่างชาวจีน อินเดีย และไต้หวัน ซึ่งเป็นกลุ่มที่สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านวีซ่าจากการต่ออายุมาตรการดังกล่าว รวมถึงยังเป็นกลุ่มที่ท่องเที่ยวประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในระยะที่ผ่านมา ในขณะที่ธุรกิจโรงแรมรายใหญ่ได้มีการบริหารความเสี่ยงอยู่แล้ว ทั้งการกระจายการสร้างรายได้จากการเข้าพักจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลากหลายตลาด การกระจายการลงทุนธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศ รวมถึงการเพิ่มรายได้จากการให้บริการอื่นๆ อย่างสถานที่จัดงานต่างๆ
สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวชาวไทย มีสัญญาณที่ดีตั้งแต่ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2560 โดยภูมิอากาศที่หนาวเย็นยาวนานมาจนถึงในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2560 เป็นปัจจัยหนุนการท่องเที่ยวในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับการนำเสนอเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ๆ อย่างการท่องเที่ยวตามรอยพระบาทน่าจะส่งผลให้เม็ดเงินจากการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทยสะพัดไปสู่พื้นที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้ตลอดปี 2560
ทั้งนี้ สถานการณ์การท่องเที่ยวในปี 2560 ทั้งจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และชาวไทยยังคงมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากในปี 2559 และส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมได้รับอานิสงส์จากการให้บริการรองรับนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับแนวโน้มการฟื้นตัวของตลาดการจัดงานต่างๆ เช่น งานประชุมและสัมมนา งานแต่งงาน และงานอีเว้นท์ น่าจะช่วยเพิ่มรายได้จากการให้บริการสถานที่จัดงาน ส่งผลให้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี2560 ธุรกิจโรงแรมน่าจะมีรายได้ 564,000-574,000 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 3.7-5.5 ชะลอลงจากปี 2559 ที่เติบโตร้อยละ 6.0 จากปีก่อนหน้า
โดยจำนวนผู้ประกอบการโรงแรมที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากการเข้าสู่ตลาดของผู้ประกอบการรายใหม่ ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อธุรกิจโรงแรมกลุ่มที่พึ่งพิงรายได้จากการให้บริการห้องพักเป็นหลักที่เผชิญแรงกดดันในการเพิ่มอัตราการเข้าพัก และการขึ้นราคาห้องพัก ในขณะที่ธุรกิจโรงแรมกลุ่มที่กระจายการสร้างรายได้จากการให้บริการอื่นๆ อย่างสถานที่จัดงานน่าจะได้รับอานิสงส์จากแนวโน้มการฟื้นตัวของตลาดการจัดงานต่างๆ ในปี 2560

ร่วมแสดงความคิดเห็น