แจ้งผู้ประกอบการนวด-สปา ขึ้นทะเบียนก่อนหมดเขต

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งผู้ให้บริการนวดยื่นคำขอขึ้นทะเบียนได้แล้วและผู้มีใบรับรองผู้ดำเนินการสปายื่นคำขอใบอนุญาตได้แล้ว ภายในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ สามารถยื่นคำขอได้ทั้ง 17 อำเภอและยื่นได้ที่ ศุนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ(คันคลองชล) สอบถามวัน เวลา สถานที่ได้ที่สาธารณสุขในแต่ละอำเภอที่ท่านอาศัยอยู่ เผยเชียงใหม่มีสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ จำนวน 450 แห่ง มีผู้ให้บริการนวดและสปา จำนวน 3,748 ราย ผู้ให้บริการอิสระที่ไม่มีสังกัดประมาณ 6,000 ราย
เภสัชกร พลแก้ว วัชระชัยสุรพล หัวหน้างานธุรกิจสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เรื่อง “ให้ผู้บริการนวดและร้านสปาสามารถยื่นขอคำขึ้นทะเบียนได้แล้ว” ในวาระแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์ ในวาระการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 33/2560 ณ ห้องประชุม 4 ชั้น 4 อาคารอำนวยการ ศาลากลาง จังหวัดเชียงใหม่
โดย เภสัชกร พลแก้ว วัชระชัยสุรพล หัวหน้างานธุรกิจสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ให้บริการนวดและผู้มีใบรับรองผู้ดำเนินการสปายื่นคำขอใบอนุญาตได้แล้ว สืบเนื่องจากที่กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้ออก พ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2559 ส่งผลให้ผู้ให้บริการนวดและสปาที่ทำงานในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ 3 ประเภท ได้แก่ สปา นวดเพื่อสุขภาพ และนวดเพื่อเสริมความงาม ทั้งที่กำลังทำงานและประสงค์จะเข้าทำงานต้องมายื่นคำขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการ โดยไม่มีค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด โดยมีข้อกำหนดดังนี้ 1.ผู้ให้บริการที่มีวุฒิบัตรหรือใบประกาศนียบัตรที่ได้รับการอบรมจากสถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรค์ต่างๆของภาครัฐ หลักสูตร 60 ชั่วโมงขึ้นไปแต่หลักสูตรดังกล่าวยังไม่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินมาตรฐานสถานประกอบการกลาง ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ (วันที่ 27 กันยายน 2560) ต้องมาขึ้นทะเบียนก่อน วันที่ 21มิถุนายน 2560
เภสัชกร พลแก้ว กล่าวต่อว่า 2.ผู้ให้บริการเป็นบุคคลพิการทางสายตาที่มีวุฒิบัตรหรือใบประกาศนิยบัตรที่ได้รับการอบรมในหลักสูตรของสถาบันการศึกษา หน่วยงาน หรือองค์กรต่างๆ ทั้งของภาครัฐและภาคเอกชน แต่ยังไม่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการตรวจและประเมินมาตรฐานสถานประกอบการกลาง ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ (วันที่ 27 กันยายน 2560) ต้องมาขึ้นทะเบียนก่อน วันที่ 23 ธันวาคม 2560 และ 3.ผู้ที่มีใบรับรองผู้ดำเนินการสปา สามารถมาขอยื่นคำรับรองใบอนุญาตด้วยตนเอง ได้ภายในวันที่ 21 มิถุนายน 2560 เท่านั้น หากพ้นกำหนดถือว่าใบรับรองสิ้นสุด
หัวหน้างานธุรกิจสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้จังหวัดเชียงใหม่มีสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ จำนวน 450 แห่ง มีผู้ให้บริการนวดและสปา จำนวน 3,748 ราย ผู้ให้บริการอิสระที่ไม่มีสังกัดประมาณ 6,000 ราย โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่รับคำขอขึ้นทะเบียนผู้ให้บริการแล้วจำนวน 1,646 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้ที่มีใบรับรองผู้ดำเนินการสปาในจังหวัดเชียงใหม่ที่ต้องยื่นขอใบอนุญาตเป็นผู้ดำเนินการสปา ประมาณ 200 – 1,000 ราย ซึ่งกรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้มอบหมายให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเป็นผู้อนุญาตแทนตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2560 ดั้งนั้นเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการยื่นคำขอฯ สำนักงานสาธารณะสุขจังหวัดเชียงใหม่ จึงกำหนดวัน เวลา และสถานที่ สำหรับรับคำขอ จำนวน 18 แห่ง
สำหรับ ผู้ให้บริการอิสระ ผู้ให้บริการในสถานบริการสุขภาพภาครัฐ ผู้ให้บริการที่ประสงค์จะทำงานในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพให้มายื่นคำขอด้วยตนเองพร้อมหลักฐาน ในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 10 – 11 มิถุนายน 2560 เวลา 9.00 – 16.00 น. ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษาจังหวัดเชียงใหม่ (คันคลองชล) และ ในอำเภออื่นๆ อีก 17 อำเภอ สามารถสอบถามวัน เวลา สถานที่ได้ที่สาธารณสุขในแต่ละอำเภอที่ท่านอาศัยอยู่ และกลุ่มผู้ให้บริการที่เป็นบุคคลผู้พิการทางสายตา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่จะอำนวยความสะดวกโดยจะจัดเจ้าหน้าที่รับขึ้นทะเบียน ณ สถานที่ที่กำหนดร่วมกับสมาคมผู้พิการทางสายตาในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ตลอดจน ผู้ที่มีใบรับรองผู้ดำเนินการสปา สามารถไปยื่นคำขอใบอนุญาตด้วยตนเองในวันเสาร์ อาทิตย์ที่ 17 – 18 มิถุนายน 2560 เวลา 9.00 – 16.00 น. ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษาจังหวัดเชียงใหม่ (คันคลองชล) ซึ่งนำหลักฐานที่จำเป็นต้องใช้ในการลงทะเบียน อาทิ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบวุฒินวด หรือหลักฐานผ่านการประเมินจาก สบส. ใบรับรองแพทย์ และรูปถ่ายจำนวน 2 ใบ โดยสามารถติดตามข่าวสารและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.lannahealthhub.org และ LINE ID : @lannahealthhub เภสัชกร พลแก้ว กล่าวส่งท้าย

ร่วมแสดงความคิดเห็น