ญาติธรรมกู่พระอรหันต์ ยื่นหนังสือ ตร.สภ.เหมืองจี้ สอบสวนคดีมูลนิธิฯ ฉ้อโกงประชาชน

ญาติธรรมกู่พระอรหันต์ กว่า 200 คน ยื่นหนังสือถึง ตร.สภ.เหมืองจี้ สอบสวนคดีมูลนิธิฉ้อโกงประชาชน หลังรับโอนมาจากกองปราบ ตำรวจเผยกำลังอยู่ในระหว่างสอบปากคำผู้กล่าวหา ยืนยันดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ฟังความข้างเดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.เหมืองจี้ อ.เมือง จ.ลำพูน กลุ่มญาติธรรมจากมูลนิธิอโศกมุนีแสงธรรม หรือกู่พระอรหันต์ ตั้งอยู่เลขที่ 158 บ้านหนองไซ หมู่ 14 ต.ป่าสัก มีนายสินธพ ทรวงแก้ว เป็นผู้รับรองและสนับสนุนปฏิบัติการ ภายใต้สถานธรรม จำนวน 200 คน เข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.ณัฏฐวุฒิ ยุววรรณ ผกก.สภ.เหมืองจี้ เพื่อให้สอบสวนกรณีที่ทางมูลนิธิอโศกถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงประชาชนนั้น ได้มีการกระทำจริงหรือไม่ มีอดีตประธานมูลนิธิฯเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหรือไม่ และหากพบว่ามีความผิดขอให้ดำเนินคดีตรงไปตรงมา โดยหลังจากยื่นหนังสือแล้ว มีตัวแทนประมาณ 30 คน ได้ร่วมเข้าฟังคำชี้แจงจากทางตำรวจที่ห้องประชุม

นายบุญธร อุปนันท์ ทนายความมูลนิธิอโศกฯ กล่าวว่า จากกรณีที่มีผู้เสียหายประมาณ 10 คน เข้าร้องเรียนกับ พงส. กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ในคดีที่ทางมูลนิธิอโศกฯ ฉ้อโกงประชาชน โดยต่อมาได้โอนมาที่ สภ.เหมืองจี้ และได้รับเป็นคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน อีกทั้งได้มีการสอบปากคำไปแล้ว 15 คนนั้น ทางญาติธรรมที่อยู่ในเหตุการณ์ จึงได้ทำหนังสือถึง ผกก.สภ.เหมืองจี้ 3 ประเด็น ได้แก่

1.อยากให้สอบสวนว่ามีการกระทำความผิด ฉ้อโกงประชาชนจริงหรือไม่ 2.เหตุที่เกิดขึ้น มีอดีตประธานมูลนิธิอโศกฯ เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหรือไม่ 3.หาก พงส.พบว่าเป็นความผิดขอให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา “เนื่อง จากเหตุที่เกิดขึ้นนี้ เกิดมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2557 ทางญาติธรรมเห็นว่าหากสถานการณ์ของคดีนี้ยังไม่ชัดเจน ก็จะทำให้ทางจังหวัด และท้องที่ เสียหาย และวันนี้ทางตัวแทน 200 กว่าคน พร้อมให้สอบปากคำทุกคน” นายบุญธร กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.กิตติสัณห์ วิเชียรศรี ผกก.( สอบสวน ) ภ.จว.ลำพูน กล่าวว่า คดีนี้ ทาง สภ.เหมืองจี้ ไม่ได้เป็นผู้ร้องทุกข์ มีหน้าที่รับเรื่อง โดยได้สอบปากคำไปบางส่วน อยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เอกสาร และเนื่องจากมูลนิธิฯได้มีการเปลี่ยนกรรมการ จึงได้พยายามสอบปากคำว่า วัตถุประสงค์มูลนิธิเป็นอย่างไร แต่ละคนมีหน้าที่อย่างไร ซึ่งการที่ตัวแทนญาติธรรมเข้ามายื่นหนังสือเช่นนี้ดีแล้ว “ยังบอกไม่ได้ว่าสำนวนไปถึงไหน เชื่อว่าจะเกิดความกระจ่าง ของขบวนการต่างๆ เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้มูลนิธิฯเดินหน้าต่อได้ถ้าไม่ได้เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่ได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษกับนิติบุคคล หรือมูลนิธิฯ ที่ผู้เสียหายไปร้องกับ บก.ป.ก็ไม่ได้กล่าวหามูลนิธิ แต่กล่าวหาตัวบุคคลฉ้อโกงประชาชน ในส่วนคดีได้สอบปากคำคนร้องทุกข์กล่าวโทษ และพยาน เช่นเดียวกับทางญาติธรรมเราก็จะเรียกมาสอบปากคำ ไม่ฟังความด้านใดด้านหนึ่ง” พ.ต.อ.กิตติสัณห์ กล่าว

ทางด้าน พ.ต.อ.ณัฏฐวุฒิ ผกก.สภ.เหมืองจี้ กล่าวว่า เรื่องนี้ก่อนที่ สภ.เหมืองจี้ จะรับดำเนินคดี มีกลุ่มผู้เสียหายไปร้อง บก.ป.ว่าผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์ฉ้อโกง แล้วเรื่องก็เงียบไป เข้าใจว่าทางกองปราบรับเรื่องไปดำเนินการ หลังจากนั้นไม่กี่วันก็ได้รับหนังสือจาก บก.ป.ว่าได้โอนมาให้ สภ.เหมืองจี้ รับเรื่องดำเนินการต่อ ในขณะนี้ยังสอบปากคำผู้กล่าวหาไม่หมด เราจะดูว่าเรียกใครมาสอบปากคำอีก

“ในคดีนี้มีผู้กล่าวหาเยอะ และยังสอบปากคำไม่หมด เมื่อสอบปากคำผู้กล่าวหาเสร็จแล้ว เราจึงจะเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบปากคำ นี่เป็นขั้นตอน ซึ่งการที่ญาติธรรมแสดงเจตนา จะให้สอบปากคำตอนนี้จึงยังทำไม่ได้ เนื่องจากคดีนี้ไม่ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับมูลนิธิฯ ทางมูลนิธิฯสามารถจะดำเนินการต่อไปได้ตามปกติ ตามที่ได้แจ้งวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานตามกฎหมาย” พ.ต.อ.ณัฏฐวุฒิ กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น