เชียงใหม่เดินหน้ายกระดับ ผู้นำเกษตรอินทรีย์อาเซียน

เกษตรและสหกรณ์จังหวัดเชียงใหม่ เดินหน้ายกระดับเป็นผู้นำเกษตรอินทรีย์ในอาเซียน ตั้งเป้าขับเคลื่อนการผลิตข้าวอินทรีย์ปี 2561 โดยเชื่อมโยงตั้งแต่การผลิต การแปรรูปแบบครบวงจร พร้อมเพิ่มศักยภาพให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านเกษตรแบบยั่งยืน

นางอัศนีย์ญา บุษบาแย้ม รักษาราชการแทนเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ประเทศไทยเดินหน้ายกระดับเป็นผู้นำเกษตรอินทรีย์ในอาเซียน โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ผลักดันให้แนวคิดนี้ประสบความสำเร็จ ซึ่งส่งเสริมให้สินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ เพิ่มการค้าและการบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์ในประเทศ พร้อมกับเพิ่มศักยภาพให้ไทยเป็นศูนย์กลางของสินค้าและบริการด้านเกษตรอินทรีย์ให้มีความยั่งยืนในระดับสากล

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินการขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ ปี 2560 ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการฯ โดยได้ตรวจรับรองแหล่งผลิตพืชในระบบเกษตรอินทรีย์ ระหว่างเดือนตุลาคม 2559 – มีนาคม 2560 ได้ตรวจแหล่งผลิตพืชอินทรีย์ไปแล้วร้อยละ 75.38 ตรวจโรงคัดบรรจุ/แปรรูป ร้อยละ 41.18 สุ่มตัวอย่าง ร้อยละ 83.05 ขณะที่ศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่ ได้ดำเนินการตรวจรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์ปี 2560 มีเกษตรกรขอรับรองระบบมาตรฐานการผลิตข้าวอินทรีย์ใน 2 รูปแบบ คือ แบบกลุ่ม และแบบรายเดี่ยว รวมทั้งได้มีการพัฒนาและส่งเสริมเกษตรกรผู้ผลิตข้าวอินทรีย์ที่มีความพร้อมในพื้นที่อำเภอแม่ริม เชียงดาว แม่แตง สันทราย ดอยสะเก็ด สันกำแพง สารภี และจอมทอง

นอกจากนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ ปี 2560 – 2564 มีเป้าหมายการดำเนินการงานจัดการพื้นที่ปลูกข้าวอินทรีย์ 1 ล้านไร่ ภายใน 5 ปี โดนสนับสนุนให้เกษตรมีการรวมกลุ่มเพื่อผลิตข้าวอินทรีย์ในพื้นที่ที่มีศักยภาพในการบริหารจัดการให้เป็นนาอินทรีย์ได้ โดยมีพื้นที่รวมกันตั้งแต่ 100 ไร่ขึ้นไป สนับสนุนเงินอุดหนุนให้เกษตรกร เพื่อชดเชยปริมาณผลผลิตที่ลดลงจากการทำนาอินทรีย์ในช่วงแรก และให้เงินสนับสนุนเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกษตรกรมุ่งมั่นที่จะปรับเปลี่ยนให้ผ่านเกณฑ์การตรวจสอบ โดยผู้ที่ผ่านเกณฑ์จะได้รับเงินสนับสนุนเพิ่มขึ้นในปีที่ 2 และ 3 จนได้รับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 9,696 ล้านบาท ซึ่งในขณะนี้มีเกษตรจากอำเภอแม่อายและอำเภอสันกำแพง ที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ณ วันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมาไปแล้วจำนวน 54 ราย และมีพื้นที่จำนวน 465 ไร่ พร้อมได้ตั้งเป้าหมายการดำเนินงานขับเคลื่อนนโยบายเกษตรอินทรีย์ปี 2561 โดยเชื่อมโยงตั้งแต่การผลิต การแปรรูป การจำหน่าย และการตลาดแบบควบวงจร ทั้งเพื่อให้เพื่อการพัฒนาการเกษตรอินทรีย์จังหวัดเชียงใหม่ประสบความสำเร็จต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น