ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ลำไย ลำพูน ในหลายๆอำเภอเริ่มทยอยออกสู่ตลาด บรรดาชาวสวนลำไยต่างเร่งเก็บทั้งแบบมัดช่อและเก็บผลนำไปร่อนแยกตามเกรด โดยหากเป็นแบบมัดช่อนั้นจะได้ราคาดีกว่าแบบร่อน เพราะราคามัดช่อเกรดจัมโบ้จะอยู่ที่33-35 บาทแต่แบบหลัง21-25 บาท แตกต่างกันร่วมๆ10 บาท
ชาวสวนลำไย บ้านสัน บ้านหนองเงือกอำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน กล่าวว่า สวนลำไยส่วนใหญ่จะขายเหมาสวน มีการวางมัดจำ จากนั้นชาวสวนจะดูแลให้ผู้รับซื้อ มีการวางมัดจำครึ่งหนึ่งและเมื่อมาเก็บผลผลิตก็จะจ่ายหมด ส่วนใหญ่ผู้ซื้อเหมาสวนก็จะจ้างเจ้าของส่วนช่วยเก็บด้วย โดยราคาตั้งแต่เริ่มฤดูกาลร่วงลงทุกวัน ที่ผ่านมา เมื อราคาลำกไยตกต่ำกนั้นมักจะมีปัญหาบางสวนยอมเสียค่ามัดจำ ดีกว่ามาเก็บ ทำให้เจ้าของสวนเสียโอกาสขายผลผลิต
นอกจากนั้น ลำไยนอกฤดูซึ่งทะลักออกมาช่วงต้นปี ประกอบกับปีที่แล้วแล้ง ส่งผลให้ชาวสวนส่วนหนึ่งหันมาโหมดูแลลำไยในฤดูอย่างดี จนทำให้ลำไยปีนี้ผลผลิตรอเก็บเกี่ยวมาก คาดว่า ลำไยทั้งระบบกว่า 6 แสนตัน จะเป็นลำไยในฤดูปีนี้2-3 แสนตัน ส่งผลให้ทางสำนักงานเกษตรอำเภอ แต่ละจังหวัดต้องเร่งลงพื้นที่ แนะนำชาวสวน ในการจัดการผลผลิตสู่การแปรรูป เป็นลำไยอบแห้ง ลำไยสีทองซึ่งจะได้ราคาดีกว่า
ทางด้านนายวีระชัย ภู่เพียงใจ ผู้ว่าฯลำพูน เปิดเผยว่า ทางจังหวัด ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด จัดงานลำไย ลำพูน ลำไยโลกมาอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งปีนี้มีข้อมูล ประเมินสถานการณ์ผลผลิตอยู่แล้วว่าน่าจะออกมามาก ได้กำชับให้ทั้งสำนักงานพาณิชย์,เกษตรจังหวัด และหลายภาคส่วนบูรณาการแผนตามมาตรการที่กำหนดไว้ เพื่อไม่ให้ชาวสวนเดือดร้อน ได้รับผลกระทบด้านราคา
” ในอนาคตก็ยังคงต้องเน้น การปลูกตามรูปแบบแปลงใหญ่ การลดต้นทุนผลิตและการแปรรูป เพื่อ เพิ่มมูลค่าผลผลิต รวมถึงมองหาพืชเศรษฐกิจเสริมที่สร้างมูลค่าคุ้มทุน โดยกลไกประชารัฐและการอบรม เสริมสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ”
ในขณะที่นายสมคิด อุตตมะโน รองนายกเทศมนตรีตำบลแม่แรง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในพื้นที่เกือบทุกบ้าน จะมีการปลูกลำไย ซึ่งภาพที่เห็นจะพบว่าลำไยปีนี้มีมาก ส่วนกลุ่มที่ทำสวนลำไยจะมีต้นทุน ดูแลค่อนข้างสูงทั้งสารเร่งดอก เร่งผล สารบำรุง สารกำจัดวัชพืช หากราคาปีนี้ไม่ดีตามที่คาด ชาวสวนลำไยคงเดือดร้อนกันหนัก แต่กลุ่มที่ขายเหมาสวน จะรอดตัวไป เพราะราคาที่ตกลงกัน ความเสี่ยงจะอยู่ที่ผู้รับซื้อซึ่งต้องลุ้นราคาขายตามกลไกตลาด
ร่วมแสดงความคิดเห็น